Saturday, 19 April 2025
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ททท. เร่งกู้สร้างภาพลักษณ์บนโลกออนไลน์ สร้างความมั่นใจ นทท.จีน หลังเกิดกรณี ‘ซิงซิง’

(15 ม.ค. 68) น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวจีน หลังมีรายงานว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงรวมถึงมีการยกเลิกคอนเสิร์ตสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ดาราจีน “ซิง ซิง” จะสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์กลับมาอย่างไร ว่า หลังเกิดสถานการณ์ ททท.รับมือเรื่องของวิกฤติบนโลกออนไลน์ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์มีหลากหลายมากบางคนไม่เคยมาเมืองไทย   แต่คิดไปโน่นไปนี่ ดังนั้น ททท.จึงต้องมีการบริหารภาพลักษณ์บนโลกออนไลน์  เพราะขณะนี้มีความตื่นตระหนกของนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่เคยเดินทางมาเมืองไทย ในกลุ่มนี้เราพยายามทำในเรื่องชาร์เตอร์ไฟลท์ หรือ เครื่องบินแบบเช่าเหมาลำเข้ามาในเมืองไทย ซึ่งยอมรับว่ามีการยกเลิกไฟลท์บินบ้าง แต่ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาเมืองไทยรับรู้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่สงบสุขและเป็นประเทศที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนก็ยังมาอยู่ 

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ในส่วนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาด้วยตนเองสายการบินแบบปกติยังไม่กระทบ เพราะ 90 ถึง 95% ยังเดินทางมาอยู่ อย่างไรก็ตามเราต้องบริหารจัดการเรื่องภาพลักษณ์บนโลกออนไลน์และสื่อสารให้เห็นถึงมุมที่แท้จริงของประเทศไทยเพื่อไปยังกลุ่มชุมชนออนไลน์ของจีนให้มากกว่านี้ 

น.ส.ฐาปนีย์ กล่าวอีกว่า ทาง ททท. 5 สำนักงานในประเทศจีนได้พูดคุยกับเอเจ้นต์ (Agent) บริษัททัวร์ และสายการบินในประเทศจีน เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวในช่วงตรุษจีน โดยมีการเตรียม 3 เรื่องหลักคือความปลอดภัย สินค้า และบริการ รวมถึงการได้ประสบการณ์ที่ดีในการมาเมืองไทย ซึ่งนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวเป็นอย่างมากเพื่อความปลอดภัยของการท่องเที่ยว รวมถึงเหตุการณ์ต่างๆฝ่ายความมั่นคงก็มาเข้ามาช่วยดูแล

‘แพทองธาร’ เผย!! ต่างชาติชื่นชมบูธ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ITB Berlin 2025 ชี้!! เป็นการขยายโอกาส ให้กับผู้ประกอบการด้าน ‘การท่องเที่ยวเมืองรอง’ 

(9 มี.ค. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แล้ว ภายหลังเดินทางเข้าร่วมเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ที่กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 3-8 มีนาคมที่ผ่านมา

นายกรัฐมนตรี ได้สรุปผลการเดินทางเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2025 ว่า งานนี้ถือเป็นงานท่องเที่ยว ที่มีหลายประเทศเข้าร่วมงาน โดยตนเองได้เดินไปดูงาน พร้อมกับได้มีโอกาสในช่วงทำงานโรงแรมเคยได้ไปร่ววมงานนี้ ส่วนตัวรู้สึกว่างานนี้เป็นงานที่สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการโรงแรม บริษัททัวร์ท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ต่างประเทศได้มาเจอกัน ซึ่งปีนี้บูธของประเทศไทยทำได้ดีมากๆ สวยงามและได้รับคำชมจากประเทศอื่นๆ ว่าของประเทศไทยจัดได้สวยงามมาก ดังนั้นจึงขอชื่นชมกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่ได้จัดงานนี้อย่างเต็มความสามารถ และในงานนี้ยังได้มีการเชิญชวนให้ผู้ประกอบการโรงแรม กิจการเจ้าของกิจการจังหวัดเล็กๆ ในทุกภาคได้ไปร่วมงานนี้ เช่น จังหวัดน่าน ตรัง และอีกหลายจังหวัดที่มีตัวแทนได้เข้าร่วม โดยได้นำแพ็คเกจไปขาย และได้พบเจอกับผู้ค้าด้วยกัน จากประเทศอื่นๆด้วย ซึ่งทุกคนบอกว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้ไปร่วมงานนี้และได้มีโอกาสขายโรงแรมตัวเอง และขายความน่าสนใจจังหวัดของตัวเอง

นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่าได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมบูธอื่นๆ และได้เห็นว่าบูธท่องเที่ยวไทยจะต้องมีการปรับปรุงในด้านใดบ้าง หรือการนำเสนอประเทศไทยให้น่ามาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นจะต้องทำอย่างไรโดยไปดูเรื่องข้อดีข้อเสียต่างๆและดูจุดแข็งจุดอ่อน ซึ่งส่วนตัวคิดว่างานนี้ดีมากๆ ที่ประเทศไทย ได้มีตัวแทนจากหลายจังหวัด ไปช่วยกันขายและไปแนะนำ ว่าอาจจะไม่ใช่มีแค่เมืองหลักที่ชาวต่างชาติจะรู้จัก แต่ยังมีเมืองหลวงที่น่าสนใจ ที่น่าเที่ยวอีกจำนวนมากดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมงานนี้

ส่วนเวลาที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปต่างประเทศได้มีโอกาสสำรวจสินค้าไทย จะมาต่อยอดอย่างไรได้บ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเวลาเดินห้างได้เห็นสินค้าของแต่ละประเทศ ก็รู้สึกว่าไม่ได้เห็นสินค้าแค่ท้องถิ่นแต่ยังเห็นสินค้าประเทศอื่นๆที่นำไปขายเช่นของไทยที่ได้นำไปขายก็รู้สึกว่าได้ราคาดีมาก ดังนั้นช่วงว่าง ระหว่างเกษตรกร ไปถึงหน้าร้านในต่างประเทศมีช่องว่างเยอะมาก จึงเป็นแนวทางที่จะเพิ่มรายได้กับเกษตรกรซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อไปถึงมีการผ่านรอยต่อดังนั้นจึงคิดว่าถ้าสามารถมีการเพิ่ม การถนอมสินค้า และเพิ่มจำนวนสินค้าได้ ตรงจุดนี้จึงต้องเป็นนวัตกรรม ที่ควรจะต่อยอดและลงทุน อีกอย่างคือ คือ งานวิจัยต่างๆ ที่จะทำให้สินค้าเกษตรที่ดีขึ้น เช่น ผลไม้หรือของสด ซึ่งก็เห็นแล้วว่าประเทศอื่นๆ ก็ขายเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าวก็เช่นกันก็มาจากทุกประเทศ ทั้งญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศก็ขาย ดังนั้นไทยจะต้องมีวิธี หรือมาตรฐานของไทย ซึ่งเคยพูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไทยมีความพิเศษอย่างไรที่จะนำไปขายท่ามกลางการแข่งขันจำนวนมาก ทำไมต้องซื้อของไทย ดังนั้นต้องเพิ่มเรื่องดังกล่าวอีกจำนวนมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top