Wednesday, 28 May 2025
ค้นหา พบ 48391 ที่เกี่ยวข้อง

สุโขทัย-รมว.สธ. เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานสุขภาพจิตและยาเสพติดที่สุโขทัย

(24 พ.ค. 68) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. เปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานสุขภาพจิตและยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเร่งด่วนและครบวงจร ตั้งแต่การปราบปรามป้องกัน บำบัดรักษา และฟื้นฟู โดยกระทรวงสาธารณสุขมุ่งเน้นยกระดับบริการ ด้วยนวัตกรรมที่สำคัญ เช่น
1. การขับเคลื่อนการใช้ยาฉีดออกฤทธิ์เนิ่น ในผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดที่ก่อความรุนแรง ทุกเขตสุขภาพ ร่วมกับโรงพยาบาลจิตเวช และโรงพยาบาลทั่วไป
2. การขยายผลการบริการยาสมุนไพร ตำรับยาอดยาบ้า ในกลุ่มผู้ติดยาเสพติด ทุกหน่วยบริการสาธารณสุข สถานพินิจ และหน่วยงานบำบัดยาเสพติด 
3. การใช้เทคโนโลยีการรักษาผ่านการกระตุ้นสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการช่วยบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 2 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารระดับกระทรวง ผู้รับผิดชอบงานยาเสพติดส่วนภูมิภาคในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง  พร้อมมีพิธีมอบรางวัลเขตสุขภาพที่มีผลการดำเนินงานและผลการเบิกจ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพสูง ได้แก่ เขตสุขภาพที่ 6 , 1 และ 4 รวมถึงมอบรางวัลผลการดำเนินงานของเขตสุขภาพในด้านต่าง ได้แก่  
1.ด้านการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายในด้านการบำบัดรักษายาเสพติด  
2.ด้านการดำเนินงานมินิธัญญารักษ์ 
3.ด้านการบำบัดรักษาและติดตามต่อเนื่อง 4.ชุมชนล้อมรักษ์ 
5.รางวัลเขตสุขภาพที่มีการบูรณาการบำบัดฟื้นฟูดีเด่น ได้แก่ เขตสุขภาพที่ 2
และเมื่อวันที่ 23 พค.68 โรงพยาบาลทุกแห่ง ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนงานสุขภาพจิตและยาเสพติด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมี นายแพทย์วิทยา พลสีลา สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 2 และผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมฯ ซึ่งจัดโดยสำนักงานเลขานุการ คณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สำนักงานเขต สุขภาพที่ 2 ในระหว่างวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2568 ณ สุโขทัย เฮอริเทจ รีสอร์ท จังหวัดสุโขทัย 

‘เยอรมนี’ อาจฟื้นระบบเกณฑ์ทหารปีหน้า หากไม่มีอาสาสมัครมากเพียงพอในอนาคต

(26 พ.ค. 68) บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกลาโหมของเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (24 พ.ค.) ว่า รัฐบาลอาจพิจารณานำระบบเกณฑ์ทหารกลับมาใช้ภายในปี 2569 หากจำนวนผู้สมัครใจเข้าร่วมกองทัพยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

เยอรมนีในฐานะสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) กำลังเร่งเสริมศักยภาพทางการทหารนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2565 แต่การรับสมัครทหารโดยสมัครใจยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

กองทัพเยอรมนีระบุว่า ยังต้องการกำลังพลเพิ่มอีกประมาณ 100,000 นายในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามพันธะผูกพันกับ NATO ได้อย่างเต็มที่

พิสโตริอุสกล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลยังเน้นการรับสมัครทหารแบบสมัครใจเป็นหลัก แต่หากจำนวนผู้สมัครไม่เพียงพอในอนาคต อาจจำเป็นต้องพิจารณานำระบบเกณฑ์ทหารภาคบังคับกลับมาใช้ พร้อมเสริมว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจมีผลบังคับใช้เร็วที่สุดในวันที่ 1 ม.ค. 2569

ด้านอันเดรียส เฮนเน ผู้บัญชาการกองบัญชาการปฏิบัติการภายในประเทศของกองทัพเยอรมนี กล่าวสนับสนุนความพยายามในการเพิ่มจำนวนผู้สมัคร โดยระบุว่า เยอรมนีกำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ยังจำเป็นต้องเร่งให้มากขึ้น โดยเฉพาะในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ โครงสร้างพื้นฐาน และกำลังพล

โปรแรงเฉพาะ วันนี้ - 3 มิถุนายน 2568 เท่านั้น! รีบเลยก่อนของหมด! 

วิธีการสั่งซื้อง่ายๆ
1.เลือกชมสินค้าที่ร่วมรายการ 
2.แคปหน้าจอรุ่นที่ต้องการ แจ้งแอดมินผ่านช่องทางติดต่อ
3.แอดมินจะดำเนินการสั่งซื้อให้
4.ชำระเงินผ่านการแสกน QR Code เท่านั้น!

จัดส่งไวภายใน 1 - 3 วัน สินค้าที่แถมต้องมีราคาน้อยกว่าหรือเท่ากับสินค้าหลัก โปรแรงเฉพาะ วันนี้ - 3 มิถุนายน 2568 เท่านั้น! รีบเลยก่อนของหมด! 
เลือกช้อปได้ที่ https://vans.lotsthailand.com/buy-1-get-1-free.html?p=3

สายศิลป์จบมาอาจเคว้ง สาย STEM จบไปตลาดต้องการ ‘Apple-IBM’ ไม่สนปริญญา เเต่ง้อคนมีฝีมือทำงานได้จริง

(25 พ.ค. 68) ปราชญ์ สามสี โพสต์ผ่านเฟสบุ๊กว่า..ผมไปเจอข่าวนี้มา น่าสนใจมาก อยากชวนทุกคนมาดูกัน
วันนี้ผมบังเอิญไปอ่านเจอบทความจาก Forbes มันไม่ใช่ข่าวใหม่หรอกนะครับก็ถูกเขียนราวๆเมษายนที่ผ่านมานี่เองโดยมีหัวข้อคือ "หลายปริญญาในปัจจุบันกำลังไร้ค่า—แล้วอะไรล่ะที่ยังคุ้มเงิน?" ( Many College Degrees Are Now Useless—Here’s What Is Worth Your Money) ฟังดูแรงนิดๆ แต่มันสะท้อนสภาพสังคมและตลาดแรงงานยุคใหม่ได้อย่างน่าคิดมากครับ

ข่าวนี้บอกชัดเลยว่าปัจจุบันบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Apple, IBM และ Hilton เริ่มลดความสำคัญของ "ใบปริญญา" ลง แล้วหันมาให้ความสำคัญกับ "ทักษะและประสบการณ์จริง" มากขึ้นเรื่อยๆ และผลสำรวจจาก Pew Research Center พบว่า เกือบครึ่งของชาวอเมริกันมองว่าปริญญาตรีไม่สำคัญในการหางานดีๆ เหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน และที่น่าตกใจคือ มากกว่าครึ่งของบัณฑิตมหาวิทยาลัยมีงานต่ำกว่าวุฒิที่จบมา แม้ผ่านไปแล้วกว่า 10 ปี

จากบทความนี้ Forbes ยังระบุชัดเลยว่าปริญญาที่ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากในตลาดงานยุคนี้ ได้แก่:

ศิลปศาสตร์ทั่วไปที่ไม่มีความชัดเจนในการทำงาน

ศิลปะและการแสดง (ยกเว้นสถาบันชื่อดังหรือมีชื่อเสียงอยู่แล้ว)

การสื่อสารมวลชน (ที่ไม่ได้เฉพาะทาง)

สาขาสังคมศาสตร์เช่น สตรีศึกษา ชาติพันธุ์ศึกษา

จิตวิทยาและสังคมวิทยา ระดับปริญญาตรีล้วนๆ

ส่วนสาขาที่ตลาดยังต้องการสูงและมีรายได้ดี คือ

วิทยาการคอมพิวเตอร์และ IT (รายได้เฉลี่ย $120,000 ต่อปี)

พยาบาลและสาธารณสุข (รายได้เฉลี่ย $82,000 ต่อปี)

วิศวกรรมศาสตร์ (รายได้เฉลี่ย $95,000 ต่อปี)

ช่างฝีมือและสายอาชีพเทคนิค (รายได้เฉลี่ย $80,000 ต่อปี)

ธุรกิจเฉพาะทาง เช่น การเงิน โลจิสติกส์ Analytics (รายได้เฉลี่ย $100,000 ต่อปี)

ครูเฉพาะทาง เช่น STEM และการศึกษาพิเศษ (รายได้เฉลี่ย $50,000–70,000 ต่อปี)

สรุปชัดๆ จากบทความนี้คือ ในยุคปัจจุบัน "โลกไม่ได้ถามว่าเราเรียนจบอะไรมา แต่ถามว่าเราทำอะไรได้บ้าง"

อ่านจบแล้วผมเลยอดสงสัยไม่ได้ว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะมองการศึกษาและปริญญากันใหม่ ให้ตรงกับความจริงของโลกยุคนี้?


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top