Monday, 28 April 2025
ค้นหา พบ 47725 ที่เกี่ยวข้อง

ขอนแก่น- โชว์ผลงานปราบยาเสพติดในรอบ 6 เดือน 

จังหวัดขอนแก่น โชว์ผลงาน 6 เดือนปราบยาเสพติด ยึดยาบ้ากว่า 9 ล้านเม็ด ยึดทรัพย์กว่า 56 ล้านบาท “ผู้ว่าฯไกรสร” เดินหน้าปิดล้อมทั้งจังหวัดค้น 106 เป้าหมาย พร้อมเตือนพวกฉวยโอกาสลักลอบนำยาเสพติดเข้าพื้นที่ช่วงสงกรานต์ เพราะชุดการข่าวเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวของทุกกลุ่มหมดแล้ว
    
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ (9 เม.ย.68) ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ,นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 106 จุดในพื้นที่ 26 อำเภอของ จ.ขอนแก่น พร้อมกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา 

โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 100 คน แยกเป็นผู้เสพ 78 คน ผู้เสพ 22 คนยาบ้า 225,349 เม็ด,ยาไอซ์ 1.2 กรัม ตรวจยึดอาวุธปืน 14 กระบอก เครื่องกระสุน 51 นัดยึดทรัพย์ 894,830 บาท

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การปิดล้อมตรวจค้นและรีเอ็กซเรย์พื้นที่เป้าหมายเป็นมาตรการที่คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายระดมกำลังกันอย่างต่อเองและเต็มที่เพื่อกวาดบ้านของตนเองให้สะอาด ซึ่งในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทั้ง 26 อำเภอได้กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย พร้อมกันโดยมี รอง ผวจ.ขอนแก่น ลงพื้นที่ปฎิบัติงานร่วมกับตำรวจ,ฝ่ายปกครอง,ปปส. และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งสามารถตรวจยึดของกลางได้จำนวนมาก ขณะที่ผลการดำเนินงาน 6 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมทั้งจังหวัดมีการตรวจค้นไปแล้ว 1,745 เป้าหมาย,จับกุมผู้ต้องหา 5,379 คน แยกเป็นผู้เสพ 2,936 คน ผู้ค้า 2,443 คนตรวจยึดยาบ้า 9,298,778 เม็ด ยาไอซ์ 4,454.45 กรัม ตรวจยึดอาวุธปืน 106 กระบอกเครื่องกระสุน 213 นัดและยึดทรัพย์แล้วรวม 56,741,925 บาท

“ขอเตือนพวกที่คิดจะฉวยโอกาสลักลอบนำเข้ายาเสพติดหรือนำยาเสพติดจากพื้นที่ต่างๆเข้ามาในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขอให้คิดใหม่เพราะเจ้าหน้าที่ยังคงคุมเข้มในมาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวด โดยไม่มีวันหยุด ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกและบริการประชาชนนักเดินทาง ซึ่งขณะนี้ชุดการข่าวของจังหวัด,ตำรวจและ ปปส.ได้ติดตามและเฝ้าจับตากลุ่มบุคคลหรือกลุ่มต้องสงสัยหรือกลุ่มต่างๆทั้งหมดแล้ว ซึ่งหากพบว่ากระทำความผิดก็จะดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมายทันทีไม่มีละเว้น”

วปอ.บอ รุ่นที่ 2 ร่วมกับโรงเรียนชุมพลทหารเรือ จัดกิจกรรมอนุรักษ์ทะเล ครบวงจรฟื้นฟูปะการัง และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล

ที่ บริเวณหาดเกล็ดแก้ว โรงเรียนชุมพลทหารเรือ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ นำนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ) รุ่นที่ 2 จัดกิจกรรมอนุรักษ์ทะเลครบวงจรฟื้นฟูปะการัง และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ นำโดย พลตรี ชัชวาลย์ พยุงวงศ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักร ซึ่งมี นาวาเอก ยุทธนา ชูธงชัย ผู้บังคับการโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ให้การต้อนรับ คณะ พร้อมด้วย หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน ผู้นำชุมชุนกลุ่มประมงพื้นบ้านในพื้น เข้าร่วมกิจการ

โดยภายในกิจกรรม ทางคณะนักศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ) รุ่นที่ 2 ได้ร่วมกันปลูกปะการัง และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ประกอบด้วย ปู 2,222 ตัว และกุ้ง 222,222 ตัว 

พลตรี ชัชวาลย์ พยุงวงศ์ ผู้อำนวยการหลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักร กล่าาว สำหรับหลักสูตร การป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต รุ่นที่ 2  ที่จัดจัดกิจกรรมอนุรักษ์ทะเลครบวงจรฟื้นฟูปะการัง และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมในพื้นที่ภาคตะวันออก     

อีกทั้ง ยังเป็นการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการดูแลและฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการลดมลพิษทางทะเล การปกป้องพื้นที่อ่าวและชายฝั่ง การอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ และที่สำคัญ เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ท้องถิ่น ในการปกป้องทะเล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม โดยได้มุ่งเน้นการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงให้นักศึกษานำไปบริหารจัดการความมั่นคงในอนาคต ต่อไป

กองทัพเรือ ผู้แทนกองทัพไทย จัดชุดปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว เมียนมา

พลเรือโท วัชระ พัฒนรัฐ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวให้โอวาทเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ระดับสูงในภาวะภัยพิบัติ (Medical Emergency Response Team : MERT) ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนหน่วยแพทย์ กองบัญชาการกองทัพไทย ประสานผ่านกรมแพทย์ทหารเรือ​ ได้ให้โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์​ ฐานทัพเรือสัตหีบ​ จัดชุดปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งพร้อมเดินทางปฏิบัติภารกิจ​เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม​ ในวันที่​ 11 เมษายน​ 2568 

โดยได้ทำพิธีดังกล่าว ณ ห้องประชุมกฤษณจันทร์ กิจการสโมสรโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568

BYD ชี้ไม่กระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐฯ มองเป็นโอกาสในการขยายตลาดเอเชียแปซิฟิก

(10 เม.ย. 68) นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด (BYD) เปิดเผยว่า การปรับขึ้นภาษีทั่วโลกโดยสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2568 จะไม่มีผลกระทบต่อแบรนด์และธุรกิจของบีวายดีในภาพรวมแต่อย่างใด

นายหลิวกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงการออกแบบ ทำให้สามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังไม่มีแผนเข้าสู่ตลาดอเมริกาในขณะนี้ ซึ่งทำให้ไม่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากนโยบายภาษีใหม่ของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ นายหลิวยังกล่าวถึงกลยุทธ์การขยายตลาดทั่วโลกของบีวายดี โดยเน้นการลงทุนในตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งถือเป็นฐานสำคัญในการขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ การปรับขึ้นภาษีของสหรัฐฯ อาจทำให้บริษัทเพิ่มโอกาสในการนำทรัพยากรไปลงทุนในตลาดเอเชียแปซิฟิกมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้

การขยายธุรกิจของบีวายดีในตลาดเอเชียแปซิฟิกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมองว่าในระยะยาว ภูมิภาคนี้จะเป็นตลาดที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า และบีวายดีจะเดินหน้าสร้างโอกาสและเสริมสร้างตำแหน่งทางการตลาดในภูมิภาคนี้อย่างมั่นคง

11 เมษายน พ.ศ. 2436 ในหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จฯ เปิดเดินรถไฟสายปากน้ำ รถไฟสายแรกในสยามประเทศ ระยะทาง 21 กิโลเมตร

ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ.2429 รัฐบาลสยามได้อนุมัติสัมปทานแก่ กอมปานีรถไฟ หรือ บริษัทรถไฟปากน้ำ บริหารงานโดยพระยาชลยุทธโยธินทร์ (อองเดร ดู เปลซี เดอ ริเชอลิเออ) ชาวเดนมาร์ก และพระนิเทศชลธี (แอลเฟรด ยอนลอบเตอด เยฟอานีเอช) ได้รับสัมปทานตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2429

บริษัทชาวเดนมาร์กสร้างทางรถไฟสายแรก ขึ้นในประเทศไทย ระหว่าง กรุงเทพฯ - สมุทรปราการ ระยะทาง 21 กิโลเมตร เพราะเล็งเห็นว่าทางรถไฟสายนี้จะอำนวยคุณประโยชน์ทางเศรษฐกิจและด้านยุทธศาสตร์ แม้ว่าบริษัทชาวเดนมาร์กจะได้รับอนุมัติสัมปทาน แต่บริษัทก็ยังไม่สามารถดำเนินก่อสร้างได้เนื่องจากขาดทุนทรัพย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยืมทุนทรัพย์ไปสมทบด้วยส่วนหนึ่ง นับเป็นพระปรีชาสามารถลึกซึ้งที่รัฐสนับสนุนยอมให้เป็นครั้งแรกในโครงการอุตสาหกรรมขนส่งที่เอกชนลงทุน

จากนั้น วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2434 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินแซะดินเป็นปฐมฤกษ์สร้างทางรถไฟสายกรุงเทพ-สมุทรปราการ

และในวันที่ 11  เมษายน พ.ศ. 2436 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเปิดบริการ และเสด็จขึ้นประทับโดยสารขบวนรถไฟพระที่นั่ง พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ในพิธีเปิดการเดินรถครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส ปรากฏความตอนหนึ่งว่า

"...เรามีความยินดีที่ได้รับหน้าที่อันเป็นที่พึงใจ คือจะได้เป็นผู้เปิดรถไฟสายนี้ ซึ่งเป็นที่ชอบใจและปรารถนามาช้านานแล้วนั้น ได้สำเร็จสมดังประสงค์ลงในครั้งนี้ เพราะเหตุว่าเป็นรถไฟสายแรกที่จะได้เปิดในบ้านเมืองเรา แล้วยังจะมีสายอื่นต่อ ๆ ไปอีกจำนวนมากในเร็ว ๆ นี้ เราหวังว่าจะเป็นการเจริญแก่ราชการและการค้าขายในบ้านเมืองเรายิ่งนัก..."

รถไฟสายปากน้ำ จากกรุงเทพฯ – สมุทรปราการ ระยะทาง 21 กิโลเมตร โดยรัฐบาลได้อนุมัติสัมปทานก่อสร้างและดำเนินกิจการโดย บริษัทรถไฟปากน้ำ ของชาวเดนมาร์ก มีสัญญาสัมปทาน 50 ปี เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2434 แล้วเสร็จในปี 2436 ค่ารถไฟในสมัยนั้น ไปกลับ 1 บาท มี 10 สถานี สถานีละ 1 เฟื้อง สถานีต้นทางคือสถานีหัวลำโพง รถจะหยุดรับส่งคนโดยสารที่ ศาลาแดง บ้านกล้วย พระโขนง บางนา สำโรง ศีรษะจระเข้ (หัวตะเข้) บ้านนางเกรง มหาวง แล้วก็ถึงปากน้ำสมุทรปราการ สิ้นอายุสัมปทานเมื่อเวลาเที่ยงคืน วันที่ 12 กันยายน 2479 รัฐบาลได้รับซื้อทรัพย์สินไว้มอบให้กรมรถไฟจัดการเดินรถ  

ต่อมา รัฐบาลสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้สั่งเลิกกิจการรถไฟสายนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2503 จึงสร้างอนุสรณ์แห่งทางรถไฟสายแรกของไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย ตกลงจัดทำหมุดหลักฐานเป็นแท่งคอนกรีต ติดแผ่นโลหะจารึกข้อความติดตั้งไว้ในบริเวณถนนพระรามที่ 4 หน้าสถานีกรุงเทพอันเป็นจุดปลายทางตันของสถานีหัวลำโพง-ปากน้ำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top