Monday, 9 June 2025
ค้นหา พบ 48681 ที่เกี่ยวข้อง

‘แม็คเกรเกอร์’ ลั่นพร้อมชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีไอร์แลนด์ ชูจุดยืนต้านข้อตกลงผู้อพยพ EU

(21 มี.ค. 68) คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ (Conor McGregor) อดีตนักสู้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (UFC) เจ้าของฉายา ‘ไอ้หมาบ้า’ ประกาศสร้างแรงสั่นสะเทือนในเวทีการเมืองไอร์แลนด์ ด้วยการเปิดตัวลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา พร้อมชูจุดยืนที่ชัดเจนต่อต้านข้อตกลงผู้อพยพฉบับใหม่ของสหภาพยุโรป (EU)

แม็คเกรเกอร์ ซึ่งเป็นบุคคลที่ได้รับความนิยมในไอร์แลนด์มาอย่างยาวนาน ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักในฐานะนักกีฬาชื่อดัง แต่ยังเป็นบุคคลที่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับประเด็นทางสังคมและการเมือง โดยเขาประกาศว่า จะยืนหยัดเพื่อ “อธิปไตยของชาติ” และปกป้องไอร์แลนด์จากนโยบายที่เขามองว่าอาจเป็นภาระเกินไปสำหรับประเทศ

“เราต้องควบคุมอนาคตของเราเอง ไอร์แลนด์ต้องตัดสินใจเรื่องผู้อพยพด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้บรัสเซลส์ (สื่อถึง EU) เป็นผู้กำหนด” แม็คเกรเกอร์กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัว

ทั้งนี้ ข้อตกลงใหม่ของ EU ที่อดีตนักสู้วัย 36 ปี คัดค้านนั้น คือการกำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องรับภาระพิจารณาคำร้องขอลี้ภัยจากผู้อพยพ หรือหากปฏิเสธ ต้องมีส่วนร่วมในโครงการให้เงินสนับสนุนแทน ซึ่งแม็คเกรเกอร์มองว่าเป็นการบังคับให้ไอร์แลนด์ต้องแบกรับภาระเกินความจำเป็น

แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าเส้นทางทางการเมืองของแม็คเกรเกอร์จะดำเนินไปในทิศทางใด แต่การลงสมัครของเขาสร้างความฮือฮาในวงการเมือง และทำให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางว่า อดีตนักสู้ UFC รายนี้จะสามารถเปลี่ยนเวทีมวยเป็นเวทีการเมืองได้สำเร็จหรือไม่

สำหรับ ​คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ เป็นนักศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMA) ชาวไอริชที่มีชื่อเสียงระดับโลก พ่วงสถิติการต่อสู้ตลอดชีพ ชนะ 22 ครั้ง แพ้ 6 ครั้ง ซึ่งเจ้าตัวประกาศแขวนนวมไปแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2020

ดีกรีแชมป์รุ่นเฟเธอร์เวท (Featherweight) ของ UFC และ แชมป์รุ่นไลต์เวท (Lightweight) ในสถาบันเดียวกัน ส่วนไฟต์ที่น่าจดจำคือ การเอาชนะ โชเซ่ อัลโด้ (José Aldo) ในเวลาเพียง 13 วินาที ในศึก UFC 194 ซึ่งถือเป็นการชนะที่เร็วที่สุดในการชิงแชมป์ และการคว้าแชมป์รุ่นไลต์เวทด้วยการเอาชนะ เอ็ดดี้ อัลวาเรซ (Eddie Alvarez) ในศึก UFC 205 ทำให้เขาเป็นนักสู้คนแรกที่ครองแชมป์สองรุ่นน้ำหนักของ UFC พร้อมกัน

นอกจากนี้ แม็คเกรเกอร์ยังเคยเข้าร่วมการแข่งขันมวยสากลกับ ‘เดอะมันนี่’ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ (Floyd Mayweather Jr.) สุดยอดนักมวยชาวอเมริกันในปี 2017 แม้ว่าเขาจะแพ้ด้วยการถูกน็อกเอาต์ทางเทคนิค (TKO) แต่แมตช์นี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อและแฟนๆ ทั่วโลก

‘พีระพันธุ์’ โพสต์ภาพคู่ ‘ลุงตู่’ ในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ยกเป็นแรงใจในการทำงานด้วยความรักและศรัทธา

(21 มี.ค. 68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ‘ลุงตู่’ ของพวกเรา ซึ่งสำหรับผมแล้ว ‘ลุงตู่’ ถือเป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจที่สำคัญในการทำงานการเมืองของผม แม้ผมจะได้ทำงานใกล้ชิดกับท่านเพียงระยะหนึ่ง แต่ผมก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความรักชาติบ้านเมืองอย่างเข้มข้นของ ‘ลุงตู่’ 

‘ลุงตู่’ ในมุมของผม ท่านมีทั้งความเข้มแข็งและความอ่อนโยน ท่านเป็นคนที่มีความเมตตากรุณาสูง และคิดถึงแต่ประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง ซึ่งตลอดชีวิตการทำงานการเมืองกว่า 30 ปีของผม ผมศรัทธาในความมุ่งมั่นทำงานเพื่อบ้านเมืองและปกป้องสถาบันหลักของชาติยิ่งชีวิต และสิ่งนี้เป็นแรงใจให้ผมทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทำในสิ่งที่ต้องทำ และทำให้ถึงที่สุดเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง 

ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของท่านปีนี้ ผมขอน้อมอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก อีกทั้งพระบารมีแห่งพระมหาบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ จงโปรดดลบันดาลประทานพรและคุ้มครอง ‘ลุงตู่’ ของเรา ให้มีแต่ความสุขกาย สุขใจ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง และเป็นมิ่งขวัญกำลังใจให้กับพวกเราชาวไทยเช่นนี้ตลอดไปครับ

22 มีนาคม พ.ศ. 2277 วันนี้เมื่อ 291 ปี ก่อน ตรงกับวันพระราชสมภพ ‘สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช’ กษัตริย์ผู้กอบกู้บ้านเมือง

วันพระราชสมภพ ของ ‘สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี’ หรือที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักในนาม ‘พระเจ้าตาก’ เรียกได้ว่าเป็นข้อถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งจากข้อถกเถียงเหล่านี้ จึงทำให้เกิดแนวคิดมากมาย หนึ่งในนั้นคือแนวคิดของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่ได้เสนอไว้ในหนังสือการเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยใช้การคำนวณย้อนหลังจากวันเสด็จสวรรคตตามที่บันทึกไว้ในจดหมายเหตุโหรว่า เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมพรรษาได้ 48 ปี 15 วัน และตามหลักฐานของชาวฝรั่งเศสบันทึกว่า ทรงถูกประหารชีวิตในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2325 และวันพระราชสมภพคือวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2277

แต่หากถือตามหลักฐานฝ่ายไทยซึ่งบันทึกว่าเสด็จสวรรคตในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2326 วันพระราชสมภพก็คือ วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2277 ประเด็นนี้ก็สอดคล้องกับที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานข้อมูลแก่หมอสมิธ เพื่อเขียนประวัติศาสตร์ไทยว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ พระราชสมภพในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2277

อย่างไรก็ดี แม้จะยังหาข้อสรุปชัดเจนไม่ได้ แต่เรื่องราวของอดีตกษัตริย์ไทยพระองค์นี้ ยังเป็นที่สนใจของเราชาวไทยเสมอมา

โดยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชมีพระนามเดิมว่า สิน เป็นคนไทยเชื้อสายจีน เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ก่อตั้งอาณาจักรธนบุรี และเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวของราชอาณาจักรธนบุรี เดิมพระองค์เป็นนายทหารในรัชกาลสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ 

ต่อมา พ.ศ. 2310 เกิดการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง พระองค์ได้เป็นผู้นำขับไล่ทหารพม่าที่ยึดครองกรุงศรีอยุธยาอยู่ในเวลานั้น และได้ปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยาอีกเจ็ดเดือนถัดมา โดยพระองค์ย้ายเมืองหลวงไปยังกรุงธนบุรี และรวบรวมแผ่นดินซึ่งมีขุนศึกก๊กต่างๆ ปกครองให้กลับเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง เช่นเดียวกับการขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง 

นอกจากนี้ ยังทรงฟื้นฟูราชอาณาจักรในด้านต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติหลังสงคราม ทั้งส่งเสริมกิจการด้านเศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม วรรณกรรม และการศึกษา ภายหลังรัฐบาลไทยประกาศให้วันที่ 28 ธันวาคมของทุกปีเป็น "วันสมเด็จพระเจ้าตากสิน" และยังทรงได้รับสมัญญานามมหาราช

พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เมื่อพระชนมพรรษา 48 พรรษา หลังถูกสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกซึ่งเป็นพระสหายสำเร็จโทษ และสืบราชสมบัติต่อเป็นต้นราชวงศ์จักรีในปัจจุบัน รวมเวลาครองราชย์ 15 ปี พระองค์มีพระราชโอรสและพระราชธิดารวมทั้งสิ้น 30 พระองค์ พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ของชาติไทยที่ประชาชนรู้จักดีและเป็นที่เคารพสักการะมากที่สุดพระองค์หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีพระบรมราชานุสรณ์ของพระองค์มีประดิษฐานมากที่สุด

23 มีนาคม พ.ศ. 2369 รำลึกวีรกรรมหญิงกล้า ‘ท้าวสุรนารี’ ผู้นำพาชาวบ้านกำชัยชนะเหนือทัพลาว

วันนี้ในอดีต เมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 'ท้าวสุรนารี' (คุณหญิงโม) นำทัพต่อสู้ปกป้องเมืองนครราชสีมา กอบกู้อิสรภาพเเละกำชัยเหนือทัพลาวได้สำเร็จ จนเป็นที่มาของ 'วันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี'

ถ้าเอ่ยนาม ท้าวสุรนารี คนไทยจะรู้จักกันดีว่า หมายถึง ย่าโมของชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งที่จริงแล้วคนไทยทั้งประเทศก็ให้ความเคารพบูชาและรำลึกถึงในวีรกรรมที่ท่านทรงทำไว้เพื่อชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ

วันนี้เมื่อ 197 ปีก่อน หรือตรงกับวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 คือวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ได้จารึกพระนามของท่าน ที่สามารถปกป้องอธิปไตยของชาวไทยไว้ได้อย่างกล้าหาญ เกินกว่าสตรีทั่วไปจะทำได้

ตามประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ ในช่วงปี พ.ศ. 2369 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ตรงกับรัชสมัยของ เจ้าอนุรุทธราช (เจ้าอนุวงศ์) ผู้ครองนครเวียงจันทร์ ได้ขอเกณฑ์ครอบครัวคนลาวที่เมืองสระบุรี ซึ่งถูกกวาดต้อนมาจากเวียงจันทน์ ในคราวสงครามครั้งที่ได้พระพุทธปฏิมากรแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ ณ กรุงธนบุรีนั้น กลับนครเวียงจันทร์ แต่ได้รับการปฏิเสธ

เมื่อไม่ได้ดังประสงค์ก็ก่อการกบฏ โดยยกกองทัพจะลงมาตีกรุงเทพมหานคร โดยเดินทัพมาอย่างเงียบๆ ให้กรุงรัตนโกสินทร์ไม่ทราบความเคลื่อนไหว โดยมีกองทัพหน้าเดินทางไปทางทิศตะวันตกตรงไปยังเมืองสระบุรี (ปากเพรียว)

ต่อมาวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2369 เมื่อกองทัพมาถึงเมืองนครราชสีมา ได้ตั้งมั่นฐานทัพอยู่จนถึงวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 จึงได้เข้าโจมตี ซึ่งเป็นช่วงที่พระยาปลัดทองคำ (พระยาสุริยเดชวิเศษฤทธิ์ทศทิศวิชัย) สามีของคุณหยิงโม ผู้รักษาเมืองไม่อยู่พอดี ด้วยติดปราบการจลาจลที่เมืองขุขันธ์

กองทหารของเจ้าอนุวงศ์ จึงตีเมืองโคราชได้โดยง่าย แล้วกวาดต้อนกรมการเมือง ตลอดจนพลเมืองทั้งชายหญิงไปเป็นเชลย รวมถึง คุณหญิงโม และราชบริพารไปด้วย โดยมี เพี้ยรามพิชัย เป็นหัวหน้าควบคุม เหล่าเชลยออกเดินทางสู่เมืองเวียงจันทน์โดยผ่านเมืองพิมาย ส่วนเจ้าอนุวงศ์นั้น ยังตั้งฐานทัพอยู่ที่เมืองนครราชสีมา

ต่อมาวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 ในระหว่างการเดินทางเป็นเชลยศึกนั้น คุณหญิงโม ได้คิดแผนการกอบกู้อิสรภาพกับกรมการเมือง ซึ่งมีนางสาวบุญเหลือ บุตรีหลวงเจริญกรมการเมืองนครราชสีมา ได้มีส่วนร่วมให้ข้อปรึกษาอย่างใกล้ชิด

คุณหญิงโมได้มอบหมายให้นางสาวบุญเหลือ ซึ่งเสมือนเป็นหลาน เป็นผู้รับแผนการไปปฏิบัติ โดยใช้อุบายให้ชาวบ้านเชื่อฟังทหารผู้ควบคุม แกล้งทำกลัวเกรง และประจบเอาใจจนทหารของเจ้าอนุวงศ์ทั้งหลายหลงตายใจ และพยายามถ่วงเวลาในการเดินทาง กับทั้งยังลอบส่งข่าวถึงเจ้าเมืองนครราชสีมา เจ้าพระยากำแหงสงครามรามภักดี (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา) และพระยาปลัดทองคำ อีกด้วย

ที่สุดเมื่อเดินทางมาถึง ทุ่งสัมฤทธิ์แขวงเมืองพิมาย ได้พักตั้งค่ายค้างคืนอยู่ คุณหญิงโมจึงได้ออกอุบายให้ชาวเมืองนำอาหารและสุราไปเลี้ยงดูผู้ควบคุมอย่างเต็มที่ จนทหารต่างก็เมามายไม่ได้สติ หมดความระมัดระวัง

ครั้นถึงเวลาสองยามไปแล้วของวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 แผนการทุกอย่างจึงเริ่มเปิดฉากขึ้นโดยชาวนครราชสีมา พากันระดมยื้อแย่งอาวุธจากเหล่าทหารลาว และได้โห่ร้องขึ้นทำให้กองทัพเวียงจันทน์เกิดความโกลาหล

ส่วนนางสาวบุญเหลือขณะนั้นอยู่ใกล้ที่พักของเพี้ยรามพิชัย เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องก็ทราบทันทีว่าแผนการดังกล่าวได้เริ่มขึ้นแล้ว จึงได้โผตัวเข้าคว้าดาบของเพี้ยรามพิชัย โดยหมายล้างชีวิตให้ได้ แต่พลาดท่า เพี้ยรามพิชัยฉวยดาบคืนได้ไปเสียก่อน นางสาวบุญเหลือจึงวิ่งหนีออกไปยังกองไฟ คว้าฟืนที่มีไฟติดอยู่ วิ่งตรงเข้าหากองเกวียนบรรทุกกระสุนดินดำ ขอฝ่ายข้าศึก

จนเมื่อผู้ไล่ล่าวิ่งตามมาถึง จะเงื้อดาบเข้าฟัน นางจึงตัดสินใจเอาดุ้นฟืนจุดเข้าที่ถุงดินปืนทำให้เกิดระเบิดขึ้น จนทั้งนางสาวบุญเหลือ เพี้ยรามพิชัย และผู้อื่นบริเวณนั้นแหลกสลายกันหมดสิ้น เป็นอันว่าทัพลาวแตกพ่ายกระจัดกระจาย ที่สุดคุณหญิงโม จึงได้รวบรวมชาวเมืองที่เหลืออยู่ช่วยกันใช้ทุ่งสัมฤทธิ์นี้ตั้งมั่นเป็นฐานทัพชั่วคราวอยู่ ณ ที่นั้น

ส่วนทหารลาวที่หนีตายได้รีบนำความไปแจ้ง เจ้าอนุวงศ์ทราบข่าวก็ให้ เจ้าสุทธิสาร (โป้) บุตรคนใหญ่คุมกำลังทหารเดินเท้าประมาณ 3,200 คน และทหารม้าประมาณ 4,000 คน รีบรุดมาทำการปราบปรามทำการต่อสู้รบกันถึงตลุมบอน

แต่คุณหญิงโมก็จัดขบวนทัพ กรมการผู้ใหญ่คุมพลผู้ชาย ตัวคุณหญิงโมคุมพลผู้หญิงออกตี กองทัพพวก เวียงจันทน์แตกยับเยิน พอดีเจ้าอนุวงศ์ ได้ข่าวว่ากองทัพจากกรุงเทพฯ ยกขึ้นมาสนับสนุนช่วยชาวเมืองนครราชสีมา จึงต้องรีบถอนกำลังออกจากเมืองนครราชสีมา เมื่อ วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2369

วีรกรรมอันห้าวหาญเด็ดเดี่ยวของคุณหญิงโม ทราบไปถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาคุณหญิงโมเป็น 'ท้าวสุรนารี' เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2370 ขณะนั้นคุณหญิงโมมีอายุได้ 57 ปี และพระราชทานเครื่องยศทองคำประดับเกียรติดังนี้ ถาดทองคำใส่เครื่องเชี่ยนหมาก 1 ใบ, จอกหมากทองคำ 1 คู่, ตลับทองคำ 3 ใบเถา, เต้าปูนทองคำ 1 ใบ, คนโท และขันน้ำทองคำอย่างละ 1 ใบ

24 มีนาคม พ.ศ. 2493 ในหลวง ร.9 พร้อมด้วย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จฯ จากสมาพันธรัฐสวิสนิวัติถึงราชอาณาจักรไทย

วันนี้เมื่อ 75 ปีก่อน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินจากสมาพันธรัฐสวิสนิวัติถึงประเทศไทยพร้อมด้วยหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระคู่หมั้น เป็นครั้งแรก เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จฯนิวัติพระนครของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระคู่หมั้น ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรงประกอบพิธีหมั้น ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 

การเสด็จพระราชดำเนินนิวัติประเทศไทยในครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระคู่หมั้น ออกจากพระตำหนักวิลล่าวัฒนาในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2493 โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังท่าเรือวิลล์ฟรังซ์ ประเทศฝรั่งเศส เพื่อประทับเรือเดินสมุทรซีแลนเดีย ออกจากฝรั่งเศส ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนลัดคลองสุเอซ สู่มหาสมุทรอินเดีย ประเทศสิงคโปร์ 

เรือซีแลนเดียเทียบท่าที่ท่าเรือเกาะสีชัง เพื่อเปลี่ยนเรือพระที่นั่งเป็นเรือรบหลวงรัตนโกสินทร์ เพื่อเสด็จฯมายังป้อมพระจุลจอมเกล้า แล้วประทับเรือหลวงศรีอยุธยา เทียบที่ท่าราชวรดิฐ และเสด็จขึ้นประทับ ณ พระที่นั่งราชกิจวินิจฉัย เจ้าพนักงานเชิญพระแสงราชอาญาสิทธิ์น้อมเกล้าฯ ถวาย จากนั้นประธานผู้สำเร็จราชการ กราบบังคมทูลถวายพระราชกรณียกิจเพื่อทรงปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top