Sunday, 8 June 2025
ค้นหา พบ 48649 ที่เกี่ยวข้อง

สว. ลงมติคว่ำ ‘สิริพรรณ - ชาตรี’ นั่งตุลาการศาล รธน. หลังประชุมลับถกรายงานสอบประวัติกว่า 2 ชั่วโมง

มติ ‘วุฒิสภา’ ไม่เห็นชอบให้ 'สิริพรรณ นกสวน สวัสดี' และ 'ชาตรี อรรจนานันท์' นั่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังประชุมลับถกรายงานสอบประวัติกว่า 2 ชั่วโมง

(18 มี.ค. 68) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา (สว.) ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน คือ น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี นักวิชาการรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายชาตรี อรรจนานันท์  อดีตอธิบดีกรมการกงสุล และอดีตเอกอัครราชทูต ประจำกรุงเฮก แทนตำแหน่งที่ว่าง 

หลังจากที่ที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณาเป็นการลับ ต่อรายงานของคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม นานกว่า 2 ชั่วโมง 20 นาที แล้วจึงเป็นการลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่

นายมงคล ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า บุคคลที่จะได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสว.ที่มี ปัจจุบันมี สว.ทำหน้าที่ 199 คน ดังนั้นต้องได้ 100 คะแนนขึ้นไป 

สำหรับการลงคะแนนจะใช้การลงคะแนนลับด้วยเครื่องออกเสียง จากนั้นจึงให้ สว.แสดงตน โดยพบว่า มี สว. ที่แสดงตนจำนวน 189 คน

สำหรับผลการลงมติพบว่า 

น.ส.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี
ได้รับคะแนนเห็นชอบ 43 เสียง 
ไม่เห็นชอบ 136 เสียง 
งดออกเสียง 7 เสียง 
และไม่ลงคะแนน 1 เสียง 
จาก สว.ที่ลงมติทั้งสิ้น 187 คน

นายชาตรี อรรจนานันท์
ได้รับคะแนนเห็นชอบ 47 เสียง 
ไม่เห็นชอบ 115 เสียง 
งดออกเสียง 22 เสียง 
ไม่ลงคะแนน 3 คน 
จากสว.ที่ลงมติทั้งสิ้น 187 คน

นายมงคล แจ้งว่า การลงคะแนนดังกล่าวถือว่า น.ส.สิริพรรณ และนายชาตรี ไม่ได้รับความเห็นชอบ เพราะได้คะแนนน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสว.

ทั้งนี้ ที่ประชุมวุฒิสภา ยังมีมติต่อว่า "มิให้เปิดเผย" บันทึกการประชุมจำนวน 5 ครั้ง และรายงานลับของกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนน 147 ต่อ 33 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง

ชาวเน็ตสงสัย หลัง 'ใบตองแห้ง' คอลัมนิสต์ดังโพสต์เดือด “อาจเป็นเกียรติมากกว่า ที่ไม่ก้มหัวให้ โจรห้อยร้อยกว่าตัว”

(18 มี.ค. 68) นายอธึกกิต แสวงสุข  คอลัมนิสต์ที่คร่ำหวอดในแวดวงสื่อมวลชนมานาน ที่หลายคนรู้จักในนาม 'ใบตองแห้ง' ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “อาจเป็นเกียรติมากกว่า ที่ไม่ก้มหัวให้ โจรห้อยร้อยกว่าตัว”

ทั้งนี้ ชาวเน็ตจำนวนมากต่างสงสัยว่า ข้อความที่ ใบตองแห้ง โพสต์นั้นหมายถึงอะไรกันแน่

ขณะที่ บางส่วนชี้ว่า น่าจะโพสต์ถึงการลงคะแนนเลือกตุลาการศาลรัฐธรรม ที่ สว.ตีตกทั้ง 2 รายชื่อ คือ “สิริพรรณ นกสวน สวัสดี” และ “ชาตรี อรรจนานันท์” เนื่องจากเป็นการโพสต์ภายหลังจากที่ทราบผลการลงคะแนนไม่นานนั่นเอง

ประณามสหรัฐฯ แทรกแซงไทย กรณีคว่ำบาตรวีซ่า ปมส่งอุยกูร์กลับจีน

(18 มี.ค. 68) กระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแสดงท่าทีเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ หลังจากที่ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศมาตรการจำกัดวีซ่า และคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ไทยที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน

เหมา หนิง (Mao Ning) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวว่า จีนคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นภายใต้ข้ออ้างด้านสิทธิมนุษยชน และมองว่ามาตรการของสหรัฐฯ เป็นการใช้แรงกดดันทางการเมืองที่ไม่เหมาะสม

“จีนยึดมั่นในหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐอธิปไตย และเราขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการใช้สิทธิมนุษยชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อกดดันประเทศอื่น” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าว

จีนเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในด้านความมั่นคง และกล่าวว่าการส่งตัวบุคคลกลับประเทศต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยรัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับความมั่นคงและเสถียรภาพภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็เคารพอธิปไตยของไทยในการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายด้านความมั่นคงของตนเอง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนยังกล่าวเพิ่มเติมว่า จีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยอย่างใกล้ชิดในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ

ในขณะที่จีนออกมาตอบโต้ สหรัฐฯ ยังคงยืนกรานว่าการคว่ำบาตรครั้งนี้เป็นมาตรการที่มุ่งปกป้องสิทธิมนุษยชนของชาวอุยกูร์ 

อย่างไรก็ตาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ค.ร.ม. ถึงประเด็นดังกล่าวว่า “ยังไม่มีและยังไม่ทราบ” เรื่องโดนสหรัฐ จำกัดวีซ่า กรณีส่งชาวอุยกูร์ 40 ชีวิตกลับจีน ต้องให้กระทรวงต่างประเทศช่วยอธิบายเรื่องข้อมูลกับสหรัฐฯ อีกที

ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า กรณีนี้อาจกลายเป็นประเด็นที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทย สหรัฐฯ และจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้นขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

‘สมชาย หาญหิรัญ’ ชี้ เวียดนาม กำลังก้าวข้ามไทย พร้อมเป้าหมายใหม่ยกระดับสู่ประเทศที่มีรายได้สูงใน 20 ปี

(18 มี.ค. 68) นายสมชาย หาญหิรัญ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในสมัยรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตอนนี้รัฐบาลของเวียดนามกำลังยุ่งกับการทำยุทธศาสตร์ และแผน 20 ปี เพื่อสร้างเวียดนามเป็นประเทศรายได้สูง และหนึ่งในนั้น คือการปรับระบบราชการใหม่ 5 กระทรวงถูกยุบ และหลายกระทรวงถูกควบรวม ลดจำนวนข้าราชการลง 20% ลดการใช้จ่ายประจำของรัฐบาลเพื่อนำไปลงทุนในการวางรากฐานที่สำคัญของประเทศเพื่อการแข่งขันในอนาคต ทั้งการคมนาคม สื่อสาร เทคโนโลยี และการศึกษา .... .. ปีที่แล้วเวียดนามส่งออกกว่า 403,000 ล้านเหรียญฯ เบอร์หนึ่งของอาเซียน มากกว่าไทย 25% และวางแผนการขยายตัวเศรษฐกิจปีนี้ที่ 8% 

เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว Benchmark ของการพัฒนาเศรษฐกิจของเขาคือการสร้าง GDP ให้แซงหน้าไทย แต่วันนี้เปลี่ยนเป้าใหม่เป็นการยกระดับให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูงใน 20 ปี ... ชัดเจนดีในแผน และลงมือทำจริง ... ไม่ใช่มีวาทกรรมสวยๆ และจบตรงจัดงานแถลงเท่านั้นครับ

และตอนนี้รัฐบาลเขากำลังวุ่นกับการกำหนดแผนนี้ให้ชัดเจนในเดือนมีนาคมนี้ 

ส่วนรัฐบาลเรากำลังวุ่นกับการเตรียมลงสู้ศึกวาทกรรมกับฝ่ายค้านปนแค้น ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในอาทิตย์นี้ ....ไม่รู้ว่าหลายคนจะสนุก มันส์ สะใจ อย่างไรก็แล้วแต่ ..หลายคน เศร้าและรู้สึกปลง และเอวังครับ 

‘สุชาติ’ ฟ้อง ‘รักชนก-สหัสวัต’ หมิ่นประมาท 50 ล้าน ปมกล่าวหาพันซื้อตึก Skyy9 พร้อมจ่อร้อง ป.ป.ช. ฟันจริยธรรมต่อ

(18 มี.ค. 68) ‘สุชาติ’ เผย ส่งทนายฟ้อง ‘รักชนก-สหัสวัต’ หมิ่นประมาท 50 ล้าน ต่างกรรมต่างวาระ กล่าวหาพัน สปส. ซื้อตึก Skyy9 จ่อร้อง ป.ป.ช. ฟัน จริยธรรม ลั่น ไม่ยอมความ คนนี้เหนือเยียวยา

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีส่งทนายดำเนินคดี น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. และนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน หมิ่นประมาทพาดพิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้งบลงทุนของสำนักงานประกันสังคม ซื้อตึก Skyy9 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน ว่า ได้มอบทีมกฎหมายไปดำเนินการฟ้องแล้ว รูปแบบการฟ้องเป็นรูปแบบต่างกรรมต่างวาระกันไป ซึ่งจะฟ้องค่าเสียหายที่ทำให้เสียชื่อเสียง 50 ล้านบาท ยืนยันว่า การฟ้องเรียกค่าเสียหายครั้งนี้ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เพื่อป้องกันเกียรติศักดิ์ศรีของตนและคนในครอบครัว เพราะวันก่อนพ่อและแม่ตน นั่งรถเข็นมาสอบถามด้วยความเป็นห่วง ทั้งนี้ หากศาลประทับร้องฟ้อง จะมียื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดมาตรฐานจริยธรรมต่อ เหมือนกับกรณีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม ฟ้องนายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ อดีต สส.พรรคไทยศรีวิไลย์ 

นายสุชาติ กล่าวว่า การเป็นบุคคลสาธารณะ รัฐมนตรี สส. ต้องตรวจสอบได้หมด และพร้อมให้คนอื่นตรวจสอบในกระบวนการที่ถูกต้อง การให้ข่าวเกี่ยวข้องกับคนอื่นในที่สาธารณะ ควรจะต้องรู้จริง ถึงจะเป็นที่ยอมรับของสังคม ส่วนกรณีที่ข่าวว่า น.ส.รักชนก ไปพูดคุยกับ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อขอข้อมูลนั้น จากการสอบถามนางศิริวรรณ บอกว่า ไม่ได้พูดคุยอะไรกับ น.ส.รักชนกเลย ฉะนั้น คนเราต้องพูดความจริง ควรเป็นตัวอย่างให้นักการเมืองรุ่นหลังๆ ที่จะมาสร้างบ้านเมืองในอนาคต หากมาให้ข้อมูลที่บิดเบือนเช่นนี้ เด็กรุ่นใหม่ๆ ใครจะมาเป็นนักการเมือง อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวตนไม่ได้มีความกังวลเลย เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีอะไรสืบเนื่องมาถึงตัวตน  

ผู้สื่อข่าวถามว่า การฟ้องครั้งนี้เพื่อปิดปากหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า หากตนไม่ฟ้องศาลแล้วใครจะเป็นคนตัดสิน เพราะศาลเป็นที่พึ่งของผู้บริสุทธิ์ แล้วคนที่เป็นนักการเมืองหรือคนที่จะมากล่าวหาลอย ๆ โดยไม่มีหลักฐานและไม่ใช่เรื่องจริง ต้องได้รับผลสุดท้ายว่าอะไรคืออะไร 

เมื่อถามว่า หากคู่กรณีมาขอโทษ จะยอมหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า “คนๆ นี้มันเหนือการเยียวยา สังคมรับไม่ได้ คุณก็รู้ว่าเขามีคดีอื่นอยู่ แล้วคนอย่างผมตรงข้ามกับคนพวกนี้ล้านเปอร์เซ็นต์ และคิดว่าคนอย่างนี้ไม่ใช่คนที่สำนึกผิดได้”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top