Tuesday, 17 June 2025
ค้นหา พบ 48844 ที่เกี่ยวข้อง

‘ศาลฎีกา’ ยืน!! ตามคำตัดสินของศาลล่าง ที่ปฏิเสธการออกวีซ่าระยะยาว ให้แก่ชายชาวอเมริกัน ที่แต่งงานกับ ‘คู่รักเพศเดียวกัน’ ชาวญี่ปุ่นในสหรัฐฯ

(24 ก.พ. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Jaroensook Limbanchongkit Pone’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ...

ศาลฎีกาของญี่ปุ่นยืนตามคำตัดสินของศาลชั้นล่างที่ปฏิเสธการออกวีซ่าพำนักระยะยาวให้แก่ชายชาวอเมริกันที่แต่งงานกับคู่รักเพศเดียวกันชาวญี่ปุ่นในสหรัฐฯ

ศาลยืนยันคำตัดสินของศาลชั้นสูงโตเกียวในปี 2023 ซึ่งระบุว่าคู่รักเพศเดียวกันในญี่ปุ่นไม่มีสถานะทางกฎหมายเท่ากับคู่รักต่างเพศ แอนดรูว์ ไฮ ผู้ฟ้องคดีโต้แย้งว่าคำตัดสินดังกล่าวละเมิดการรับรองความเท่าเทียมกันตามกฎหมายตามรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นไม่รับรองการแต่งงานของเพศเดียวกันตามกฎหมาย และวีซ่า "คู่สมรสหรือบุตรของพลเมืองญี่ปุ่น" มีไว้สำหรับคู่รักต่างเพศเท่านั้น แม้ว่าในตอนแรก High จะได้รับวีซ่าชั่วคราวเท่านั้น แต่ในปี 2022 ศาลแขวงโตเกียวได้แนะนำให้เขาได้รับวีซ่า "กิจกรรมที่กำหนด" ซึ่งเขาได้รับในเดือนมีนาคม 2023

แม้จะเป็นเช่นนี้ ไฮก็ยังพยายามขอวีซ่าพำนักระยะยาวที่มั่นคงกว่า ซึ่งให้ความปลอดภัยที่มากกว่าและมีข้อจำกัดในการทำงานน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม คำร้องของเขาถูกปฏิเสธ ซึ่งยืนยันถึงข้อจำกัดทางกฎหมายที่คู่รักเพศเดียวกันในญี่ปุ่นต้องเผชิญ

‘อพท.’ ลุย!! เสริมกำลังดัน ‘กระเช้าไฟฟ้า ภูกระดึง’ เตรียมปั้นพื้นที่ท่องเที่ยวยั่งยืน รองรับนักท่องเที่ยว

(24 ก.พ. 68) ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มอบหมายให้ ผู้บริหารสำนักพัฒนาขีดความสามารถการท่องเที่ยว (สพข.) สำนักท่องเที่ยวโดยชุมชน (สทช.) และสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเลย (อพท.เลย) เดินหน้าลงพื้นที่ จังหวัดเลย เพื่อหารือถึงแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในอำเภอภูกระดึง โดยเตรียมนำมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STMS) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ Global Sustainable Tourism Council ไปใช้ในการค้นหาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวตามความบริบทและความเหมาะสมในพื้นที่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบัน และอนาคตที่จะเกิดจากโครงการสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง

ในโอกาสนี้ ผู้บริหาร อพท. ได้เข้าพบ นายศุภฤกษ์ น้อยสุวรรณ นายอำเภอภูกระดึง ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอภูกระดึง พร้อมหารือร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 5 องค์กร ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลศรีฐาน เทศบาลตำบลภูกระดึง องค์การบริหารส่วนตำบลผานกเค้า องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยส้ม และองค์การบริหารส่วนตำบลภูกระดึง ถึงแนวทางการการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมเชิญชวนเข้าร่วมส่งเสริมมาตรฐาน STMS โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 5 องค์กร เห็นถึงความสำคัญในการเตรียมมาตรฐานการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยินดีเข้าร่วมส่งเสริมมาตรฐาน STMS ของ อพท. และจะร่วมลงพื้นที่สำรวจศักยภาพของพื้นที่ทั้ง 54 หมู่บ้านในโอกาสต่อไป

สำหรับความคืบหน้าในเรื่องการสร้างกระเช้าภูกระดึงนั้น ทางจังหวัดเลยและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีความยินดีและพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนโครงการฯ ร่วมกัน เพราะเป็นโครงการที่รอมานาน และได้ให้ข้อเสนอแนะในการสร้างการรับรู้และสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมให้กับท้องถิ่นและชุมชนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึงต่อไป โดยขั้นตอนการดำเนินงานต่อไปของ อพท. คือ การพัฒนาศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 5 องค์กร ตามมาตรฐาน STMS และการพัฒนาศักภาพด้านการท่องเที่ยวของ 54 หมู่บ้าน เพื่อให้ได้แหล่งท่องเที่ยว กิจกรรมท่องเที่ยว เรื่องราวท้องถิ่น อาหารท้องถิ่น เครื่องดื่มท้องถิ่น ของฝากและของที่ระลึก ที่พักและผู้ประกอบการท้องถิ่น ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและอนาคตต่อไป

‘ทราเวลโลก้า’ ฉลองครบรอบ!! ทศวรรษแห่งนวัตกรรม มอบดีลสุดพิเศษ!! ให้นักท่องเที่ยวนับล้านทั่วโลก

(24 ก.พ. 68) ในปีพ.ศ. 2568 ทราเวลโลก้า (Traveloka) สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ฉลอง 13 ปีแห่งนวัตกรรมและการเติบโต ทราเวลโลก้าก่อตั้งขึ้นในประเทศอินโดนีเซียเมื่อปีพ.ศ. 2555 ด้วยวิสัยทัศน์ที่จะปฏิวัติวงการการเดินทาง ปัจจุบันเติบโตเป็นแพลตฟอร์มการเดินทางแบบครบวงจร โดยขยายการให้บริการไปประเทศออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม เพื่อให้นักเดินทางได้ท่องเที่ยวทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก

ทราเวลโลก้ามอบดีลฉลองวันเกิด พร้อมส่วนลดพิเศษ คูปองจัดเต็ม และแฟลชเซลล์ ครอบคลุม 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคม พ.ศ. 2568 ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวไทยร่วมวางแผนการเดินทางแสนสนุกในปีนี้ พร้อมรับประสบการณ์ที่คุ้มค่าและสะดวกสบายยิ่งกว่าที่เคย

ซีซาร์ อินทรา (Caesar Indra) ประธานบริษัททราเวลโลก้า ได้กล่าวถึงการเติบโตของบริษัทว่า “ตลอดระยะเวลากว่าทศวรรษที่ผ่านมา ทราเวลโลก้าได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการการท่องเที่ยว ไม่เพียงแค่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังรวมถึงตลาดสำคัญทั่วโลก เราได้ผสมผสานความเชี่ยวชาญเชิงลึกในแต่ละตลาด ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรม และมุ่งมั่นพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแอปพลิเคชันทราเวลโลก้ามีผู้ใช้งานประจำกว่า 40 ล้านคนและให้บริการใน 8 ประเทศ จนเติบโตเป็นแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวระดับโลกที่ก้าวไปพร้อม ๆ กับนักเดินทาง ด้วยการมอบประสบการณ์ที่สร้างสรรค์และปรับแต่งให้ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคล การมอบส่วนลดวันเกิดของทราเวลโลก้าครั้งนี้ จึงเป็นทั้งการเฉลิมฉลองเส้นทางแห่งความสำเร็จ และโอกาสในการตอบแทนลูกค้า พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่น คุ้มค่า และน่าประทับใจ”

มาร่วมทำให้ทุกการเดินทาง คุ้มค่ายิ่งขึ้น ไปกับทราเวลโลก้า
เพื่อขอบคุณลูกค้าคนสำคัญ เราขอมอบส่วนลดพิเศษมากมาย ให้คุณวางแผนการเดินทางปีพ.ศ. 2568 ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรชั้นนำ พันกว่าเจ้า ทั้งสายการบิน ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว และอื่น ๆ พร้อมโปรโมชันสุดคุ้ม ให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกและคุ้มค่าที่สุด
•รับส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับเที่ยวบิน โรงแรม และประสบการณ์การเดินทาง ให้ทุกจุดหมายปลายทางในฝันของคุณเป็นจริงในราคาที่คุ้มค่ากว่าที่เคย
•ปลดล็อค Flash Sale รายวัน ทุกวัน วันละ 2 รอบ เวลา 09:00 – 11:00 น. และ 21:00 – 23:00 น.
•เสริมด้วย Flash Sale แบบจำกัดจำนวน ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 
•รับ Flash Sale พิเศษ เฉพาะวันที่ 3 มีนาคม เวลา 00:00 – 02:00 น. และ 13:00 – 15:00 น. และวันที่ 4 มีนาคม เวลา 13:00 – 15:00 น.
•พิเศษ! อย่าพลาดโปรโมชันสุดคุ้มในช่วง Birthday Peak ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม
•เที่ยวเกาหลีใต้สุดคุ้มด้วยส่วนลดสุดเอ็กซ์คลูซีฟตั้งแต่วันนี้ถึง 31 พฤษภาคม: ทราเวลโลก้าจับมือกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) มอบโค้ดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจอยากเดินทางไปเกาหลีใต้ ดังนี้
oเที่ยวบิน: โค้ด LOVEKOREAFL – ส่วนลดสูงสุด 2,000 บาท
oที่พัก: โค้ด LOVEKOREAHT – ส่วนลด 400 บาท
oประสบการณ์: โค้ด LOVEKOREATA – ส่วนลด 100 บาท

ทราเวลโลก้าแนะจุดหมายปลายทางยอดฮิต ที่รอให้คุณออกเดินทาง
•ในประเทศ ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา ภูเก็ต เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ หาดใหญ่ และสงขลา
•ต่างประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง เกาหลีใต้ จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย

ทราเวลโลก้ามอบประสบการณ์การเดินทางที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการ ด้วยบริการที่หลากหลายกว่า 20 รายการ ครอบคลุมทั้งการขนส่ง ที่พัก และแหล่งท่องเที่ยว ล่าสุด แอปพลิเคชัน Traveloka 5.0 ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี AI ทำให้ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ทันสมัยและบริการที่ครบครัน รวมถึงแพ็คเกจล่องเรือและทัวร์ที่เพิ่งเปิดให้บริการ ช่วยให้การวางแผนการเดินทางตั้งแต่การขนส่งไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวเป็นไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ด้วยแถบค้นหาแรงบันดาลใจด้านการเดินทาง (Search Bar) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และระบบสะสมคะแนน (Traveloka Points) ที่ได้รับการอัปเกรดให้ได้แต้มมากขึ้น ทำให้ Traveloka 5.0 มอบประสบการณ์การเดินทางที่ราบรื่นและตอบโจทย์นักเดินทางได้ดียิ่งกว่าเดิม

การปฏิวัติการท่องเที่ยวร่วมกับพันธมิตร
นอกเหนือจากภารกิจในการช่วยให้ลูกค้าหลายล้านคนออกไปเที่ยวในจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ แล้ว เรายังมุ่งมั่นสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น โดยทราเวลโลก้าร่วมมือกับสภาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก (Global Sustainable Tourism Council: GSTC) จัดการฝึกอบรมด้านความยั่งยืนให้กับโรงแรมกว่า 150 แห่ง ทั่วประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนก้าวขึ้นเป็นผู้สนับสนุนระดับแพลตตินัมรายแรกของ GSTC ในปีพ.ศ. 2567 ตอกย้ำบทบาทสำคัญของเราในการส่งเสริมแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยกระดับมาตรฐานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ โครงการเสริมทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของทราเวลโลก้า (Traveloka Goodwill - Digital Literacy) ยังได้มอบความรู้และทักษะดิจิทัลที่จำเป็นให้แก่ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อมและขนาดย่อย (MSME) เจ้าของธุรกิจ และนักศึกษาในอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยว กว่า 96,000 ราย ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเสริมศักยภาพในการปรับตัวและเติบโตในยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

ทราเวลโลก้ายังมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหามลภาวะจากขยะพลาสติกในประเทศไทย โดยในปีพ.ศ. 2567 ทราเวลโลก้าได้สนับสนุนการเก็บขยะพลาสติกจากมหาสมุทรจำนวน 24,000 กิโลกรัม ผ่านความร่วมมือกับ Second Life กิจการเพื่อสังคมในประเทศไทย ปริมาณขยะที่เก็บได้นี้มากกว่าปริมาณขยะพลาสติกที่บริษัทใช้ในสำนักงานต่อปีถึง 5 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของเราในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จากประสบการณ์ในการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ผ่านมา ทราเวลโลก้ายังคงมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์ระบบนิเวศธรรมชาติในระยะยาว และส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนให้เติบโตควบคู่ไปกับอุตสาหกรรมการเดินทางในภูมิภาค

ทราเวลโลก้าสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตร เสริมสร้างระบบนิเวศการเดินทางให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทราเวลโลก้าได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งกับสายการบินกว่า 300 แห่ง ผู้ให้บริการที่พัก กว่า 2.2 ล้านราย และพันธมิตรด้านกิจกรรมด้านการเดินทางกว่า 90,000 ราย ในมากกว่า 100 ประเทศ เรามุ่งมั่นนำเสนอโซลูชันการเดินทางที่ครอบคลุมและราบรื่นเพื่อให้ลูกค้าทั่วโลกได้รับประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกและตอบโจทย์ยิ่งขึ้น

เนื่องจากภูมิทัศน์การท่องเที่ยวยังคงเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทราเวลโลก้าจึงร่วมกับ YouGov เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดในหัวข้อ “การท่องเที่ยวในมิติใหม่: ทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” โดยได้เก็บข้อมูลจากผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 12,000 คน จาก 9 ประเทศ เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มสำคัญที่จะส่งผลต่อวงการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลการศึกษานี้จะช่วยให้พันธมิตรสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ในประเทศไทย 70% ของนักเดินทางนิยมท่องเที่ยวภายในประเทศ เนื่องจากความสะดวกสบาย ขณะที่ 85% ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยธรรมชาติยังคงเป็นปัจจัยดึงดูดหลัก (72% ชื่นชอบภูเขา และ 65% นิยมชายหาด) นอกจากนี้ ค่าใช้จ่าย (41%) และเครื่องมือดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดีย (46%) และแพลตฟอร์มการเดินทาง (37%) มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเดินทางอย่างมีนัยสำคัญ แนวโน้มเหล่านี้สะท้อนถึง ความจำเป็นในการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ตอบโจทย์ตลาดท้องถิ่น ตัวเลือกการเดินทางที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงประสบการณ์ที่เน้นความคุ้มค่า การปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของนักเดินทางได้ดีขึ้น และคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

ตำรวจภูธรภาค 2 เตรียมรับ 200 แก๊งคอลเซนเตอร์จากปอยเปต เตรียมพนักงานสอบสวนคัดกรองค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ (23 ก.พ. 68) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2)  เปิดเผยถึงกรณีทางการกัมพูชาควบคุมตัวแก๊งคอลเซนเตอร์ ที่ตั้งฐานในปอยเปต ประเทศกัมพูชา ได้กว่า 200 คน และเตรียมส่งตัวให้ไทยเพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ ทางชายแดนด้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ว่า ภายหลัง พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ได้เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือในการดำเนินการร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศในการดำเนินการปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ที่ตั้งฐานในฝั่งปอยเปต และทางการกัมพูชาได้ดำเนินการควบคุมตัวขบวนการคอลเซนเตอร์มากกว่า 200 คนซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยมากกว่า 100 คน ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 2 จะดำเนินการใน 2 ส่วน คือ การสอบสวนเพื่อคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ และการประสานข้อมูลการสืบสวนข้อมูลขบวนการคอลเซนเตอร์กับตำรวจกัมพูชา  ขณะนี้ทราบว่าทางการกัมพูชากำลังคัดกรองตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมายของกัมพูชาและจะส่งตัวมายังประเทศไทย 

ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2 เตรียมแผนการปฏิบัติและกำกับดูแลการปฏิบัติ พร้อมกำชับ พล.ต.ต.ถาวร  ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว จัดพนักงานสอบสวนรองรับการสอบสวนเพื่อการคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ตามกระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ : National Referral Mechanism (NRM) ซึ่งจะมีหน่วยงานอื่น ๆ บูรณาการกำลังในการคัดกรองด้วย โดยย้ำว่าการสอบสวนต้องเป็นไปอย่างครบถ้วน ถูกต้อง รอบด้าน ให้ความเป็นธรรม ในส่วนของการประสานงานข้อมูลด้านการสืบสวนขบวนการคอลเซนเตอร์ กำชับให้ประสานงานกับทางกัมพูชาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้กำหนดการในการส่งตัวขบวนการคอลเซนเตอร์เข้ามานั้นยังอยู่ระหว่างการประสานงาน

นราธิวาส-รองนายกฯ ควง ทักษิณ ทปษ.ประธานอาเซียน ลงพื้นที่ปลายด้ามขวาน ย้ำพัฒนา แก้ปัญหา ในมิติคง ด้านศาสนา ด้านการศึกษา เพื่อความมั่นคงพื้นที่ในพื้นที่ และขอชาวไทยมุสลิม สู่รอมฎอนสร้างสันติ

(23 ก.พ. 68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี / ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พร้อมด้วย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน และพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ นราธิวาส ปัตตานี และยะลา เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในหลายมิติ ได้แก่ ด้านความมั่นคง ด้านศาสนา และด้านการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รวมถึงประชาชนมารอต้อนรับ ณ สนามบินนราธิวาส

การลงพื้นที่ครั้งนี้ คณะฯ ได้เปิดเวทีรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคประชาชน ผู้นำศาสนา ข้าราชการ นักวิชาการ ภาคธุรกิจ และองค์กรภาคประชาสังคม เพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรค รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยจะนำข้อมูลที่ได้ไปประมวลผลและผลักดันแนวทางการแก้ไขในระดับพื้นที่และระดับอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความร่วมมือกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงและสนับสนุนกระบวนการพัฒนาพื้นที่      รองนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยที่ปรึกษาประธานอาเซียน ถึงสนามบินนราธิวาสแล้วเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งในมิติด้านความมั่นคง ด้านศาสนา ด้านการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ 

รองนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยที่ปรึกษาประธานอาเซียน ถึงสนามบินนราธิวาสแล้วเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งในมิติด้านความมั่นคง ด้านศาสนา ด้านการศึกษาของประชาชนในพื้นที่ (เวลา 10.00 น.) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พา ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี/ที่ปรึกษาประธานอาเซียน และ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ากราบนมัสการพระธรรมวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา/ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 ณ วัดประชุมชลธารา (วัดสุไหงปาดี) ตำบลสุไหงปาดี อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส โดยมีประชาชนในพื้นที่เดินทางมาต้อนรับ กว่า 2 พัน คน

การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากพระภิกษุสงฆ์และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส โดยก่อนการพบปะพูดคุยกับประชาชน คณะฯ ได้ร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน อาทิ การแสดงรำหมอลำจากกลุ่มสตรีในพื้นที่ สะท้อนถึงอัตลักษณ์ท้องถิ่นและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน

ภายหลังการเยี่ยมเยียนและพบปะประชาชน ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ได้กล่าวถึงแนวทางในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และการร่วมมือกันแก้ไขปัญหายาเสพติดที่เป็นภัยต่อสังคม โดยระบุว่า "ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ผมเห็นว่าการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ควบคู่ไปกับการจัดการปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ ซึ่งหัวใจสำคัญของการแก้ไขปัญหาคือ การเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายได้หันหน้าเข้าหากัน พูดคุย และร่วมกันหาแนวทางแก้ไขอย่างสันติ การสื่อสารและความร่วมมือคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ"

จากนั้น คณะฯ มีกำหนดการเดินทางไปยังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อพบปะผู้บริหารสถานศึกษาและหารือถึงการพัฒนาด้านการศึกษาในพื้นที่เพื่อวางแนวทางพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนพร้อมทั้งรับประทานอาหารเที่ยง

รองนายกรัฐมนตรีนำคณะเยี่ยมโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส หารือถึงการพัฒนาด้านการศึกษาในพื้นที่

ต่อมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พร้อมด้วย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาประธานอาเซียน พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เพื่อพบปะผู้บริหารสถานศึกษาและหารือถึงการพัฒนาด้านการศึกษาในพื้นที่เพื่อวางแนวทางพัฒนาพื้นที่ชายแดนใต้ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนพร้อมทั้งรับประทานอาหารเที่ยง โดยมี ผู้บริหารโรงเรียน คณะครูอาจารย์ ตลอดจนนักเรียน และบัณฑิตอาสา ร่วมให้การต้อนรับ
โอกาสนี้คณะฯได้เยี่ยมชมนิทรรศการผลงานนักเรียนและกิจกรรมแต่ละระดับชั้นที่ให้นักเรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้พร้อมต่อยอดในการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้น จากนั้นคณะได้เข้ารับฟังข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรคจากผู้แทนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ผู้นำศาสนา ข้าราชการ เพื่อเดินหน้าแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษาในพื้นที่พร้อมกันนี้ผู้แทนสถานศึกษาได้ให้ข้อเสนอแนะในด้านการพัฒนาการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มค่าตอบแทนครู บุคลากรทางศึกษา ซึ่งครูถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพเด็กนักเรียน

ดร.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวตอนหนึ่งว่า จังหวัดนราธิวาสมีหลายอย่าง ซึ่งควรที่จะได้รับการผลักดัน เลยลงมาดู เพื่อนำข้อมูลไปหารือกับ นายอันวา อิบรอฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย  และกลุ่มประเทศอาเซียน  เพื่อเตรียมที่จะนำของดีเหล่านี้กลับมาพัฒนาและส่งเสริมอีกรอบหนึ่ง “เด็กเปรียบเหมือนผ้าขาวขึ้นอยู่กับการหล่อหลอมของผู้ใหญ่อยากให้เด็กทุกคนเติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาของพื้นที่ส่วนเรื่องการศึกษาคือหัวใจของการพัฒนาในปัจจุบัน  การสร้างแรงจูงใจให้เด็กคือสิ่งที่เราต้องทำผมอยากเห็นสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งมีศักยภาพสูงในด้านทรัพยากรทางธรรมชาติ และได้รับการพัฒนาในทุกด้าน”

สำหรับอยากโรงเรียนสัมพันธ์วิทยาเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามควบคู่สามัญ มีนักเรียนทั้ง 3 ระดับ ระดับอนุบาล ระดับประถามศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งสิ้น 2,020 คน มีบุคลากรทั้งหมด 150 คน เป็นโรงเรียนที่มุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาให้มีคุณภาพเพื่อให้เยาวชนเป็นคนดี คนเก่ง กล้าคิด กล้าแสดงออกและเป็นการเรียนรู้ที่พร้อมปลูกฝังด้านคุณธรรมจริยธรรมเพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของอิสลามและมีความเจริญก้าวหน้าทันต่อยุคเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เพราะโรงเรียนเชื่อมั่นว่าการศึกษาเท่านั้นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของคนให้มีอนาคตที่ดี เพื่อไปพัฒนาตนเองและประเทศชาติให้มีความเจริญยิ่งขึ้นต่อไป

ทักษิณลงปัตตานีหารือผู้นำศาสนาหาแนวทางใหม่ดับไฟใต้  นิรโทษกรรม VS คืนศักดิ์ศรี หรือแก้มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคง

วันเดียวกัน 13.30 น. ที่ร.ร.สายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี  ดร.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาปธ.อาเซียน พร้อมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รมต.ว่าการกระทรวงกลาโหมและพัน ต.อ ทวี สอดส่อง รมต.ว่าการยุติธรรม พร้อมคณะ ในโอกาสเป็นตัวแทนรัฐบาลเดินหน้าหาแนวทางแก้ปัญหาและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้  ซึ่งมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ นายนิเดร์ วาบา บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา  ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและประชาชน นักเรียนให้การต้อนรับ กว่า1,000 คน  บรรยากาศเต็มไปด้วยความยิ้มแย้ม เด็กๆ นักเรียนทั้งหญิงและชายต่างขอถ่ายรูปเซลฟี่กันอย่างคับคั่ง

โดยการลงมาเยือนชายแดนใต้ครั้งนี้ มีวาระประเด็นสำคัญว่า มีแนวคิดอ้างอิงจาก "โมเดล 66/2523" ซึ่งเคยใช้แนวทาง "นิรโทษกรรม" ต่ออดีตผู้ก่อความไม่สงบในช่วงหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จะกลับมาใช้อีกครั้ง หรือไม่ ซึ่งกำลังดำเนินการทำรายละเอียด ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ย้ำว่าแนวทางใหม่นี้จะไม่ใช่การนิรโทษกรรมโดยตรง แต่จะมีหลักเกณฑ์ชัดเจน และใช้แนวคิด "การเมืองนำการทหาร" ในการดำเนินการ

โดยล่าสุด นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้แต่งตั้ง นายทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาประธานเลขาธิการอาเซียน ซึ่งส่งผลต่อยุทธศาสตร์ทางการเมืองในพื้นที่ตอนเหนือของมาเลเซียที่ติดกับจังหวัดชายแดนใต้ของไทย คือปัญหาความไม่สงบ นายอันวาร์ อิบริฮิม หวังใช้โอกาสนี้ขยายฐานเสียงในพื้นที่พรรคอิสลามแห่งมาเลเซีย (PAS) ซึ่งมีอิทธิพลในรัฐที่ติดกับชายแดนไทยด้วยเช่นกัน

ครั้งนี้ยังถูกจับตาว่า นายทักษิณ อดีตนายกฯ ต้องการรักษาฐานเสียงของพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นพันธมิตรของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ชายแดนใต้ด้วย ท่านได้พบปะหารือกัน มีการแลกเปลี่ยน พูดคุยก่อนรับฟังข้อเสนอ และได้กล่าวว่า

ดร.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า วันนี้ยินดีมากที่ได้กลับมา พบกับท่านนิเดร วาบา เพื่อนเก่า ผมเคยมาที่นี้ 20 กว่าปีที่แล้ว และออกไปอยู่ในตะวันออกกลางและในหลายประเทศ เข้าใจพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างดี ผมได้โอกาสได้ฟังความคิดเห็นิหารือจากเพื่อนๆต่างประเทศมานานแล้วต้องการให้ช่วยแก้ปัญหาพัฒนาเรื่องเศรษฐกิจ แก้ปัญหาอื่นๆ ทั้งความรุนแรง ผมสมัยเคยเป็นนายกรัฐมนตรี เคยทำงานอาจจะใจร้อน มีข้อผิดพลาดบ้าง ก็ขอกราบขอโทษทุกๆท่านมา ณที่นี้

ตอนนี้เหตุการณ์สถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว เราคุยกันรู้เรื่องมากขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีทรัพยากร และมีศักยภาพพัฒนาไปข้างหน้าให้ดีกว่านี้ การพูดคุยสันติสุข สมัยนายกปู นายกยิ่งลักษณ์   ผมมีโอกาสได้ช่วยเหลือและริเริ่ม เข้าลงไปช่วยอยู่บ้าง ซึ่งได้คุยกับคนที่อยู่ต่างประเทศ ว่าทุกคนอยากกลับบ้านของตนเอง ตอนนี้ผมกลับบ้านได้แล้ว แต่อีกหลายๆคนยังไม่ได้กลับ ต้องถึงเวลสที่ผมมาช่วยให้ทุกคนได้กลับบ้านด้วยเช่นกัน และในโอกาสอีกไม่กี่วัน พี่น้องมุสลิมจะเข้าสู่เดือนรอมฎอนแล้ว ขอให้ทุกคนได้ทำบุญ ทำกุศล เข้าทำความดีสู่เดือนรอมฎอนด้วยสันติ พระเจ้าทรงรับผลงามความดีของทุกๆท่าน ผมขอสันติสุขแก่พี่น่องมุสลิม ณที่นี่ และทั่วประเทศด้วยขอบคุณครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top