Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49021 ที่เกี่ยวข้อง

‘กองทัพอากาศ’ เตรียมเครื่องบิน BT-67 และ AU-23 โรยน้ำแข็งแห้ง!! ปราบฝุ่นแบบ ‘ภาวะฝาชีครอบ’

เมื่อวานนี้ (25 ม.ค. 68) พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการสนับสนุนการแก้ปัญหาฝุ่น pm 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า ส่วนใหญ่กองทัพอากาศสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์และอากาศยาน โดยใช้เครื่องบินทางธุรการที่สามารถกระจายเสียงให้ประชาชนรับทราบ ในการขอความร่วมมืองดเทำลายด้วยเผา ปัจจุบันมีเครื่องบินแบบพีซเมคเกอร์ ในเฟสแรก นอกจากนี้ยังมีดาวเทียมนภา 2 ซึ่งมีความละเอียดค่อนข้างดี และยังมีกล้อง MX15D ที่สามารถติดตั้งกับเครื่องบินโจมตีแบบ AT-6 และ DA-42 โดยเมื่อได้ภาพมาแล้ว สามารถสกรีนจุดความร้อน และจับจาก 1000 จุด ให้เหลือ 40-50 จุดได้ ที่ผ่านมาเราก็ใช้วิธีการแบบนี้ ซึ่งภาพที่ได้มีความแม่นยำสูงทำให้สามารถวางแผนในการนำเครื่องบินไปทิ้งสารหรือปล่อยสารสกัดจุดความร้อน ในเส้นทางที่อาจจะลุกลามซึ่งเป็นการประหยัด รวดเร็ว และทันท่วงที

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องบิน BT-67 ที่ใช้ในการปล่อยสารยับยั้งไฟป่า รวมทั้งมีเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังมี ฮ. ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ซึ่งมีการฝึกซ้อมร่วมกัน และมีการพัฒนาให้มีความแม่นยำในการยับยั้งไฟป่ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

ส่วนปัญหาฝุ่นแบบภาวะฝาชีครอบ จะดำเนินการอย่างไรนั้น ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า จากที่ได้พูดคุยมา จะมีการนำเครื่องบินโรยน้ำแข็งแห้ง เพื่อจะเจาะรูโดยจะทำที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีการพูดคุยกับทาง กทม. แล้ว และมีการเตรียมเครื่องบินสำรองไว้ให้คือ BT-67 และ AU-23 หรือพีชเมคเกอร์ หากมีการร้องขอเมื่อไหร่ก็สามารถขึ้นปฏิบัติการได้ ทั้งนี้การบินในพื้นที่ กทม. ค่อนข้างลำบากเนื่องจากการจราจรทางอากาศที่คับคั่ง

นราธิวาส-พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส

(26 ม.ค. 68) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะ พล.ต.ท. พัฒนวุธ อังคะนาวิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ โฆษกพรรคประชาชาติ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นราธิวาส เขต 5 พรรคประชาชาติ ได้เดินทางมาเรือนจำ จ.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการเยี่ยมญาติใกล้ชิด ผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความมั่นคงให้โอวาทและสื่อสาร ความรักความห่วงใย ในโอกาส เทศกาลปีใหม่ประจำปี พ.ศ. 2568 แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์คดีความมั่นคงและครอบครัว ขอบคุณบัณฑิตอาสาพัฒนามาตุภูมิ ศอ.บต. ประจำหมู่บ้าน ร่วมกิจกรรมไกล่เกลี่ยปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. ให้แก่ผู้ต้องขังจำนวน 14 ราย  และหน่วยสนับสนุน สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม สำนักงานเลขานุการ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่าวันนี้ก็ต้องขอบคุณเรือนจำนราธิวาสที่ได้จัดให้มีการเยี่ยมญาติใกล้ชิดของผู้ต้องราชทัณฑ์ซึ่งเรือนจำนราธิวาสมีผู้ต้องราชทัณฑ์จำนานมากประมาณ 3,000 คน ดังนั้นจึงมีการหลายวันแต่วันนี้วันที่ 25 และวัดไปอีก 26 วัน และ 27- 31 ก็จะเปิดโอกาสให้ญาติ หรือบุคคลที่มีญาติมาเยี่ยมได้เยี่ยมใกล้ชิดจำนวน 1-5 คนขึ้นไป ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันแรกที่เราจัด และที่เราจัดไม่พร้อมกันเนื่องจากว่าผู้ต้องราชทัณฑ์ใน 3  จังหวัด มาอยู่นราธิวาสแต่ครอบครัวอยู่ปัตตานี บางคนอยู่ปัตตานีครอบครัวอยู่นราธิวาส เราเลยได้มีการจัดแบบสลับวัน เราเห็นว่าอยากจะให้ครอบครัวได้อยู่ใกล้ชิดกันก็ว่าได้เพราะเรือนจำมีไว้ออกไม่ได้มีไว้ให้เข้า ถ้าได้ออกไปเราอยากจะเป็นสถานที่ฟื้นฟูเพื่อให้มีคนใหม่เพื่อให้มีชีวิตใหม่ดีขึ้น ซึ่งบุคคลที่เข้ามาอยู่จะได้มีโอกาสต่างๆนาๆในการพัฒนาศักยภาพ และที่สำคัญก็คือ ได้รู้ความถนัดและความสามารถของตนเอง บางคนไม่รู้ว่าตนเองมีความถนัดอย่างศิลปะ เช่น ร้องเพลงเพราะเข้ามาอยู่ในนี้ก็ได้แสดงออก วันนี้ก็เป็นวันที่เรามีความเจตนาที่อยากจะคืนความสุขเพราะเราพูดเสมอว่า วาระของครอบครัว คือ วาระของรัฐบาล ไม่ว่าพรรคประชาชาติที่ตั้งอยู่ได้คือวาระของมะห์ ครอบครัวถ้าเราครอบครัวอบอุ่นครอบจะต้องเป็นผู้สร้างชีวิตใหม่และความสุขของคนก็อยู่ที่ครอบครัว

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมพร้อมมาตรการเข้มดูแลประชาชนช่วงเทศกาลตรุษจีน 2568 ทั้งวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว แนะประชาชนระมัดระวังป้องกันอัคคีภัย และระวังภัยออนไลน์  “อั่งเปาทิพย์”

(26 ม.ค. 68) พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้บังคับการกองสารนิเทศ (รอง ผบก.สปพ.รรท.ผบก.สท.) เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 27-29 มกราคม 2568 เป็นเทศกาลตรุษจีนประจำปี 2568 โดยพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนจะออกมาจับจ่ายซื้อของ เพื่อทำพิธีไหว้บรรพบุรุษ รวมทั้งเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเฉลิมฉลองเป็นจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพตลอดห้วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำชับให้หน่วยปฏิบัติดำเนินการตามมาตรการป้องกันปราบปรามอย่างเคร่งครัด

พล.ต.อ.ประจวบฯ สั่งการไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธรภาค 1 – 9, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เพิ่มความเข้มงวด โดยเน้นการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจบริเวณที่มีประชาชนเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่นำไปประกอบพิธีไหว้บรรพบุรุษ รวมทั้งเฝ้าระวังการป้องกันเหตุประทุษร้ายต่อทรัพย์ ธนาคาร ร้านทอง ร้านอัญมณี ร้านสะดวกซื้อ โรงทาน รวมทั้งเฝ้าระวังการเกิดเหตุเพลิงไหม้ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตามแผนเผชิญเหตุ และเน้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจตามสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม หรือในย่านที่เป็นที่พักอาศัยของคนไทยเชื้อสายจีนที่เดินทางไปท่องเที่ยว รวมทั้งป้องกันการโจรกรรมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หรือการลักทรัพย์ในเคหะสถาน 

พร้อมกันนี้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารการเดินทาง ผ่านเข้า-ออกราชอาณาจักร , ให้กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพิ่มความเข้มงวดในการกวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติด และขบวนการลำเลียงยาเสพติดที่ฉวยโอกาสในห้วงเวลาดังกล่าว ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาตามแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ เพื่อส่งต่อไปยังลูกค้ารายย่อยตามภูมิภาคต่าง ๆ หรือลักลอบลำเลียงส่งผ่านต่อไปยังประเทศที่สามและผู้ค้ารายย่อย อย่างต่อเนื่องจริงจัง โดยให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนร่วมปฏิบัติ รวมทั้งให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ดำเนินการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทศโนโลยีทุกกลุ่มคดีความผิด 

นอกจากนี้ พ.ต.อ.วรศักดิ์ฯ กล่าวว่า ในเทศกาลตรุษจีนนี้ขอให้พี่น้องประชาชนโปรดระมัดระวังป้องกันอัคคีภัยจากการจุดธูปเทียนไว้บรรพบุรุษ ไหว้เจ้า การเผากระดาษเงินกระดาษทองต้องมีภาชนะที่ไม่ติดไฟและแข็งแรงรับรอง ต้องดูให้ไฟดับสนิท การจุดประทัดต้องจุดในที่โล่ง และก่อนออกจากบ้านต้องตรวจสอบปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าและถอดปลั๊กออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน รวมทั้งระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพออนไลน์ ที่อาจมาหลอกลวงพี่น้องประชาชนในรูปแบบ “อั่งเปาทิพย์” ส่ง SMS แนบลิงก์เชิญชวนให้รับโชค ซึ่งเป็นลิงก์อันตรายหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน หรือหลอกขอข้อมูลส่วนตัว 

ทั้งนี้ หากต้องการขอความช่วยเหลือหรือแจ้งเหตุ สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นราธิวาส-มทภ.4 นำความห่วงใยจากผู้บังคับบัญชา พร้อมเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ ย้ำดูแลเร่งรัด สิทธิ์สวัสดิการอย่างดีที่สุด กำชับทหารเป็นที่พึ่งประชาชนทุกมิติ

(26 ม.ค. 68 ) เวลา 13.30 น. ที่ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา เข้าเยี่ยมให้กำลังใจและติดตามอาการของกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดลาดตระเวน กองร้อยทหารพรานที่ 4511 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 บริเวณศาลาปฏิบัติธรรม บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 5 หมู่ที่ 9 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 นาย เสียชีวิต 1 นาย เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์อย่างใกล้ชิด จำนวน 4 นาย คือ 

1.จ่าสิบเอก ครรชิต เสนาะกรรณ อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดบริเวณหัวไหล่ขวา และใต้เข่าขวา มีอาการแน่นหน้าอก ปวดบริเวณหน้าอก
2. อาสาสมัครทหารพราน อดิศักด์ หนูเนตร อายุ 39 ปี มีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ มีอาการปวดตามร่างกาย 
3. อาสาสมัครทหารพราน ซาฮารี ยูเปาะนะ อายุ 34 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณใบหน้า มีอาการระคายเคืองตาซ้าย มีแผลบริเวณเปลือกตาซ้ายและแขนซ้าย ปวดบริเวณหน้าอก มีอาการปวดตามร่างกาย
 4. อาสาสมัครทหารพราน อัมมัร รือราโพ อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บ มีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ ปวดตามร่างกาย

โดย พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้นำกระเช้าเยี่ยมแสดงความห่วงใยจาก ผู้บังคับบัญชามาถึงผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังจากนี้ได้กำชับหน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ เรื่องสิทธิสวัสดิการของกำลังพลให้เร็วที่สุด พร้อมกล่าวชื่นชมในความกล้าหาญ ทุ่มเทและเสียสละ และในนามของรัฐบาลและกองทัพบก ตลอดจนผู้บังคับบัญชาทุกคน ขอนำความห่วงใยและความปรารถนาดี มาสู่เพื่อนข้าราชการและครอบครัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทุกนาย  พร้อมย้ำว่าผู้บังคับบัญชาพร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มขีดความสามารถ และพร้อมจะอำนวยความสะดวกเมื่อเกิดปัญหา ทั้งนี้ขอให้กำลังพลรักษาสุขภาพ ร่างกายและจิตใจให้เข้มแข็งโดยเร็ว และขอให้หายจากการเจ็บป่วยในเร็ววัน ยืนยันรัฐบาล โดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ามีความห่วงใยไม่ทอดทิ้งกำลังพลทุกนาย ย้ำทุกฝ่ายเร่งสืบสวน สอบสวน รวบรวมหลักฐานในการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

เพชรบูรณ์  รมช.คลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

(26 ม.ค. 68) เวลา 10.00 น. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ภายใต้โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ "สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน" โดยมี นายศรัณยู  มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ คณะผู้บริหารกระทรวงการคลัง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้เช่าที่ราชพัสดุ เข้าร่วม ที่อาคารหอประชุมโรงเรียนแคมป์สนวิทยาคม   อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ากระทรวงการคลังมีเจตนารมณ์ในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด และตระหนักถึงนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ราษฎร จึงให้กรมธนารักษ์ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ที่มีภารกิจหน้าที่ปกครอง ดูแล และบำรุงรักษาที่ราชพัสดุนำที่ราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของส่วนราชการต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ในราชการ มาสนับสนุนการดำเนินโครงการของรัฐบาลในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้แก่ประชาชน โดยจัดให้ประชาชนที่ถือครองที่ราชพัสดุอยู่ก่อนวันที่ 4 ตุลาคม 2546 และไม่โต้แย้งกรรมสิทธิ์เช่าที่ราชพัสดุตามนโยบายรัฐบาลในอัตราผ่อนปรน ผ่านกลไกการจัดให้เช่าของกรมธนารักษ์ตามกฎหมายที่ราชพัสดุส่งผลให้ราษฎรที่ยินยอมเช่าที่ราชพัสดุมีคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนด้านสาธารณูปโภค และระบบสาธารณูปการเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของทางราชการ สร้างรายได้ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการสร้างความเข้มแข็งด้านสังคมและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับราษฎร   โดยในครั้งนี้กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน พช.80 พช.468 พช.768 และ พช.861 จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อที่ประมาณ 9,113-0 - 55 ไร่ มอบสัญญาเช่า จำนวน 107 ราย เนื้อที่ประมาณ 100 - 2 - 62ไร่ แบ่งเป็น เพื่ออยู่อาศัย จำนวน 48 สัญญา เนื้อที่ประมาณ 26 - 0 - 70 ไร่ และเพื่อการเกษตร จำนวน 91 สัญญา เนื้อที่ประมาณ 74 - 1 - 92 ไร่ ตามโครงการ "ธนารักษ์เอื้อราษฎร์ "

สำหรับโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ "สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน" เป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของ รัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพิ่มคุณภาพ ชีวิตด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม และในปี พ.ศ. 2568 รัฐบาลมีนโยบายในการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชนภายใต้โครงการ

"ธนารักษ์เอื้อราษฎร์" อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายในการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ประชาชนไม่น้อยกว่า 3,950 ราย ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้แก่ท้องถิ่นได้มากขึ้นต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top