Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48172 ที่เกี่ยวข้อง

‘แพทย์สาว’ ร้อง!! ถูก ‘เจ้าของศูนย์อนุรักษ์สัตว์ชื่อดัง’ ทำร้าย เหตุไม่พอใจนั่งหน้าบ้าน พร้อมขู่!! รู้จัก ตร.ยศใหญ่ ยิงตายก็ไม่ผิด

เมื่อวานนี้ (28 ก.พ.67) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaiyachot Uttamang โพสต์ข้อความและภาพว่า ลูกสาวที่เป็นหมออยู่ใน จ.ภูเก็ต ถูกชาวสวิสทำร้าย โดยมีข้อความว่า

“#เรื่องเล่า_จากแพทย์หญิงไทยถูกชายต่างชาติชาวสวิสทำร้ายบนผืนดินไทย
ลูกสาวของผมผู้เป็นหมออยู่ที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นคนสุภาพและถ่อมตนเป็นปกติ เขียนข้อความออกมาจากร่างกายและจิตใจของเธอที่ถูกทำร้ายว่า…

สวัสดีค่ะ ขออนุญาตขอความช่วยเหลือเพื่อกระจายข่าวเพื่อความยุติธรรมด้วยค่ะ
เราถูกชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างทำร้ายร่างกายค่ะ
โดยมีลำดับเหตุการณ์ ดังนี้

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 19.30 น. เราไปกินข้าวกับเพื่อนผู้หญิงที่เป็นหมอด้วยกัน ที่ร้าน Taste Yamu หลังกินเสร็จก็ชวนกันไปเที่ยวหาดสาธารณะแถวใกล้บ้านบริเวณ Cape Yamu คือ ปกติไปเดินเที่ยวบ่อยเนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด และค่อนข้างปลอดภัย

ตอนเราเดินไปที่หาดกับเพื่อนเจอพี่ยามคนนึง แกก็ถามว่าเรามาดูดวงจันทร์ใช่มั้ย เพราะมันเป็นวันมาฆบูชา (ฟูลมูน) เลยตอบไปว่า ใช่ค่ะ พี่ยามก็บอกว่า ครับ เอนจอย ครับ แล้วเดินจากเราไป เรากับเพื่อนเดินดูดวงจันทร์บนชายหาดกันสักพัก รู้สึกเมื่อยและอยากนั่งพัก จึงเดินไปนั่งตรงบันไดที่ปลูกลงมาบริเวณชายหาดที่ต่อลงมาจากวิลล่า หมายเลข 23 เพราะคิดว่าเป็นบันไดของชายหาด โดยที่เท้ายังจุ่มอยู่บนพื้นทราย

ในขณะที่เรานั่งอยู่รู้สึกเหมือนมีใครเดินมาข้างหลัง จึงหันไปพูดกับเพื่อนว่า รู้สึกเหมือนมีคนเดินมา จากนั้น พลันก็รู้สึกสะเทือนหนักหน่วงไปทั้งร่าง เมื่อได้สติก็ทำให้รู้ว่า เกิดจากหน้าแข้งที่กระหน่ำเตะลงมาที่กลางหลัง จากชายชาวต่างชาติตัวใหญ่น้ำหนักราว 100 กิโลกรัม ในสภาพหน้าแดง เหงื่อท่วม กำลังถือโทรศัพท์เพื่ออัดวิดีโอ และสบถด่าคำหยาบออกมาสารพัด เรากับเพื่อนเลยเดินไปหาพี่ยาม บนป้อมยามบนเนินข้างบน แล้วบอกว่า “พี่คะ หนูถูกทำร้ายร่างกาย” พี่ยามก็ตกใจและพาเราไปยังหน้าวิลล่า 23 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ

ฝรั่งคนนั้นแสดงอาการโกรธสบถคำด่าออกมาสารพัด จากนั้นภรรยาชาวไทยพร้อมแผงสร้อยเพชรเม็ดโตก็เดินออกมา ตอนนั้นเรากับเพื่อนแอบดีใจเพราะคิดว่าจะเคลียร์กันได้ แต่ประโยคแรกที่ภรรยาชาวไทยพูดถึงกับทำให้เรากับเพื่อนสตันท์ไป เพราะเธอบอกว่า “นี่อีดอ* สองตัวนี้มานั่งอยู่หน้าบ้านกู พวกมึ* รู้ไหมต่อให้พวกกู ยิงพวกมึ*ตาย กูก็ไม่ผิด เพราะลูกกูเป็นตำรวจและรู้จักนายตำรวจใหญ่ของภูเก็ต กูจะเอาพวกมุ*เข้าคุกให้ได้ กูจะโทรหาท่านรองเดี๋ยวนี้” จากนั้นเธอก็โทรหาตำรวจยศใหญ่ของเธอว่าให้ส่งตำรวจมา

ผ่านไปประมาณ 15 นาที มีตำรวจ 2 คนเดินมา คนหนึ่งแต่งตัวนอกเครื่องแบบ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นตำรวจในเครื่องแบบ ตำรวจหนุ่มทั้งสองพยายามมาเจรจาเคลียร์เรื่อง หลังจากที่ตำรวจมาคุยกับเรา เราก็บอกกับตำรวจว่า เราถูกทำร้ายร่างกาย ชายชาวต่างชาติก็มาพูดกับเราว่า “อ่อเป็นชนพื้นเมือง เป็นคนไทยเหรอ รู้ไหมชั้นไม่ได้จ่ายค่าเช่าวิลล่าเดือนละล้านบาท มาให้พวกมุ*นั่งหน้าบ้านกู”

เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร หลังจากนั้นตำรวจก็เดินมาพูดกับเราว่า ตอนนี้มันผิดกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายเราเป็นคนบุกรุกมีโทษหนักกว่าต้องติดคุก 4 ปี ฝ่ายเขาแค่ทำร้ายร่างกายจ่ายเงินก็จบ เราเลยช็อกไป ตำรวจนายหนึ่งบอกว่าต้องเคลียร์ให้ยอมความกันให้ได้ จะได้ไม่ต้องถึงโรงพัก

เราจึงเสนอให้ 3 ทางเลือก คือ 1. ต่างคนต่างขอโทษแล้วจบ 2. ต่างคนต่างไม่ขอโทษแล้วจบ 3. ไปคุยกันที่โรงพัก ฝั่งนู้นเขาบอกว่า “#เราขอโทษฝรั่งได้_แต่ฝรั่งจะไม่ขอโทษเรา #และเราจะต้องติดคุก”

หลังจากนั้นเราจึงไปแจ้งความที่ สภ.ถลาง หลังจากแจ้งความ เราได้ทราบชื่อของชาวต่างชาติคนนี้ซึ่งทำให้เราช็อกมาก เพราะชายคนนี้เป็นชาวสวิส ที่เป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์สัตว์ดัง ที่เคลมว่าเขาจะปกป้องดูแลช้างและไม่ทำร้ายช้าง แต่เขาทำร้ายผู้หญิงค่ะ!

รบกวนขอความยุติธรรมกับเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพราะอีกฝั่งเป็นชาวต่างชาติที่มีอิทธิพลในภูเก็ต มีข้อสังเกตว่ามีตำรวจยศใหญ่คอยช่วยเหลือดูแลอยู่เบื้องหลัง และเราคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น #ไม่สมควรมีคนไทยคนไหนโดนชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย #คนไทยผู้เป็นสุจริตชน #ผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยค่ะ

จาก #ผู้หญิงไทยคนหนึ่งผู้ถูกชายชาวต่างชาติคนหนึ่งทำร้าย
(28 กุมภาพันธ์ 2024)”

ผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้โทรศัพท์พูดคุยกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายเป็นลูกสาวของตนเองประกอบอาชีพเป็นแพทย์อยู่ในโรงพยาบาล ที่จังหวัดภูเก็ต ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดูแลครอบครัวให้ได้รับความเป็นธรรม มีกำหนดการเดินทางมาที่จังหวัดภูเก็ต ถึงในค่ำวันนี้เนื่องจากในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พนักงานสอบสวน มีกำหนดการเรียกไปพบ เพื่อต้องการที่จะเอาเอกสารใบรับรองของแพทย์ที่ตรวจร่างกายไปให้ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และเท่าที่ทราบ พนักงานสอบสวนยังไม่ลงหมายเลขคดีแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ลูกสาวต้องการขอความเป็นธรรม ในคดีให้อายัดตัวนักธุรกิจรายนี้ อย่างไรก็ดีทราบว่า มีนายตำรวจ ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 มีกำหนดการว่าจะมาร่วมพบปะลูกสาว ที่ สภ.ถลางในวันพรุ่งนี้ด้วย (ภรรยาชาวสวิสอ้างว่า มีลูกชายเป็นตำรวจและรู้จักตำรวจระดับรองฯ) อย่างไรก็ดีเท่าที่ได้พูดคุยกับลูกสาว ลูกสาวยืนยันว่า จะต่อสู้ในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์หญิงรายดังกล่าว ยังได้นำใบลงบันทึกประจำวัน โพสต์ลงในเฟซบุ๊กด้วย

ศรชล.ภาค 1/ทรภ.1 ส่งเรือช่วยเหลือลูกเรือประมง เชือกพันขาขาด กลางทะเล

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 27 ก.พ.67 ทัพเรือภาคที่ 1 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค 1 ) ได้รับแจ้งจากไต๋เรือ ส.ตะวัน 14 ว่ามีลูกเรือได้รับบาดเจ็บจากเชือกพันขาขาด บริเวณระยะ 29.6 ไมล์ทะเล จากแหลมปู่เจ้า ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

หลังรับแจ้ง ได้ส่งเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง 268 (ต.268) ให้การสนับสนุนขนย้ายผู้ป่วย ลูกเรือ ส.ตะวัน 14 กลับมายังท่าเรือ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.) เขาหมาจอ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และดำเนินการส่งต่อไปยัง รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ เพื่อรับการรักษาโดยเร่งด่วนต่อไป

โดยผู้บาดเจ็บ เป็นลูกเรือประมงที่ประสบอุบัติเหตุอาการสาหัสจากเชือกพันขาจนขาขวาขาด ดังกล่าว

การปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 7 สามารถถอดถอนแท่นยิงตอร์ปิโดกราบซ้าย 3 ท่อยิงขึ้น บนผิวน้ำได้สำเร็จ

วันที่ 28 ก.พ.67 ซึ่งเป็นการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย วันที่ 7 โดยชุดปฏิบัติการร่วมของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ บนเรือ Ocean Valor ที่จอดเรืออยู่บริเวณอ่าวไทยใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการดำน้ำ จำนวน 4 เที่ยว โดยมีภารกิจในการค้นหาผู้สูญหาย และทำการสำรวจและถอดถอนท่อยิงตอร์ปิโด เพื่อทำลายขีดความสามารถของอาวุธ

โดยผลการปฏิบัติ ไม่พบผู้สูญหายบริเวณพื้นที่ที่สำรวจ และได้ทำการถอดถอนแท่นยิงตอร์ปิโดกราบซ้าย (3 ท่อยิง) ขึ้นบนเรือ Ocean Valor ได้สำเร็จ แต่เนื่องจากภาวะคลื่นลมแรง ความสูงคลื่น 1 – 1.5 เมตร ประกอบกับมีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ปฏิบัติการ เป็นอุปสรรคการปฏิบัติงาน โดยชุดปฏิบัติการจะปรับแผนการปฏิบัติในส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ไปปฏิบัติในวันต่อไป 

สำหรับการปฏิบัติการวันพรุ่งนี้ จะมีการปฏิบัติการดำน้ำร่วมกัน ในการค้นหาผู้สูญหาย สำรวจและถอดถอนท่อยิงตอร์ปิโดกราบขวา เพื่อทำลายขีดความสามารถ จำนวน 4 เที่ยว 

ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบในโอกาสต่อไป

กระบี่-ทกจ.กระบี่ จับมือกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เดินหน้าขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) กำหนดพื้นที่ 'อ่าวนาวแลนด์มาร์ก' เป็นชุมชนนำร่อง

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องประชุม อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายสมปราชญ์ ปราบสงคราม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.)โดยมี 

นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยว่าที่ พ.ต.ท.สราวุฒิ เกาะกลาง สว.ส.ทท.3 กก.2 บก.ทท.3 และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมอบรม

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจ  เร่งรัดสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยการฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวประเทศจีนและประเทศคาซัคสถาน เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและส่งเสริมมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและบริหารจัดการแบบบูรณาการอย่างองค์รวม

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ ได้บูรณาการร่วมกับสถานีตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันจัดทำโครงการขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) โดยได้กำหนดพื้นที่ “อ่าวนางแลนด์มาร์ก” ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เป็นพื้นที่ชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เป็นชุมชนนำร่องในการดำเนินโครงการ และดำเนินการจัดอบรมอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวในโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง  Strong Tourism Community (S.T.C.) ทั้งชาวไทยและชาวต่าวชาติ ประกอบด้วย พนักงานร้านสะดวกซื้อ (7-11) , พนักงานโรงแรม , พนักงานรักษาความปลอดภัย อ่าวนางแลนด์มาร์ค , และภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ จำนวน  67 คน เข้าร่วมอบรม โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันสร้างเครือข่ายในการขับเคลื่อนนโยบายด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาล, สร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่การท่องเที่ยวในพื้นที่ อีกทั้งเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจในแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ ข้อมูลท้องถิ่น การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในกรณีประสบเหตุ 

'หมอวรงค์' วิเคราะห์ 3 ต้นสายปลายเหตุ 'ก้าวไกล' ทิ้งซักฟอก 'ฮ่องกงมิตติ้ง-ย้อนศรล้มล้างปากปกครอง-ไร้น้ำยา'

(29 ก.พ.67) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ ‘ทำไมพรรคก้าวไกลไม่ซักฟอกรัฐบาล’ ระบุว่า เมื่อปลายเดือนมกราคม 2567ที่ผ่านมา นายพิธาเองเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเศรษฐา ช่วงเดือนเมษายนนี้ก่อนปิดสมัยประชุมสภา ในประเด็นทุจริต บริหารล้มเหลว ทำงานล่าช้า

แต่กลายเป็นว่าปลายเดือนกุมภาพันธ์ล่าสุดนี้เอง ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงกลับลำเฉยว่า จะยังไม่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสมัยประชุมนี้ เพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหาร ยังไม่ได้ใช้งบ

พรรคก้าวไกลแน่ใจหรือว่า รัฐบาลนี้เข้ามาบริหาร แล้วไม่มีประเด็นที่ประชาชน อยากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ ซึ่งในความเป็นจริงมีหลายประเด็นมากที่ประชาชนสงสัย เช่น

การใช้อภิสิทธิ์ของนักโทษชายทักษิณ ซึ่งฝ่ายค้านตรวจสอบเรื่องนี้น้อยมาก ทั้งๆ ที่หลักฐานข้อมูล เอกสารต่างๆ ชัดเจนมาก

โครงการแจกเงินดิจิทัล 10000บาท สรุปแล้วจะได้หรือไม่ แล้วที่สัญญาว่าจะไม่กู้ยังจะกู้ไหม

ปัญหายาบ้า 5 เม็ด ที่นำไปสู่ การค้าบ้าเสรีสำหรับรายย่อย

ปัญหาเกาะกูด ที่ประชาชนหวาดระแวง ที่จะนำไปสู่การเสียดินแดน ทั้งๆ ที่สัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศสในปี 2449 ระบุชัดเจนว่าเกาะกูดเป็นของไทย

ปัญหาปากท้องประชาชน จนตลาดเงียบเป็นป่าช้า

หรือแม้แต่ปัญหาที่ดิน ส.ป.ก. ที่เมื่อเปลี่ยนเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรแต่กลายเป็นเอื้อนายทุนฮุบที่ป่าได้เป็นทางการ

คำถามที่ต้องถามกลับไปยังพรรคก้าวไกล ทำไมพวกท่านไม่กล้าซักฟอกรัฐบาล หรือว่า

1.การที่นายธนาธรไปพบนายทักษิณที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2566 ทำให้พรรคไม่กล้าซักฟอกนายทักษิณ

2.หรือพรรคก้าวไกลกลัวถูกย้อนศร กรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเรื่องล้มล้างการปกครองฯ ในทำนองเองก็ชั่ว ข้าก็เลว

3.หรือว่าพรรคก้าวไกลไร้น้ำยาจริงๆ มีแต่จะยกเลิก ม.112 ระวังถ้าเป็นแบบนี้สักวันหนึ่งจะโดนโห่ไล่ลงเวที


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top