Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48172 ที่เกี่ยวข้อง

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 คืบหน้า 82.5%  คาด!! พร้อมเปิดให้บริการ ภายในปี 2567

(19 ก.ค. 66) สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยทั้ง 4 มิติ (บก ราง น้ำ และอากาศ) ให้เชื่อมโยงการเดินทางสู่ภูมิภาคอาเซียนอย่างไร้รอยต่อ ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถเข้าถึงการเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ด้วยระบบการคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงได้เร่งขับเคลื่อนโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5  เชื่อมระหว่างบึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ สปป.ลาว ซึ่งมีความคืบหน้ามาโดยลำดับ แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรคจากวิกฤติโควิด แต่ล่าสุด โครงการมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 82.550% คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนของทั้งสองประเทศได้ในปี 2567

สำหรับโครงการดังกล่าว คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ได้มีมติอนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ว่าด้วยการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ในปี 2562 

ต่อมาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5  ที่อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ และแขวงบอลิคำไซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือ สปป.ลาว

รูปแบบการก่อสร้างของโครงการนี้ กรมทางหลวงออกแบบเป็นสะพานขึงคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง ขนาด 2 ช่องจราจร ความยาว 1,350 เมตร พร้อมอาคารด่านพรมแดนสำหรับกระบวนการข้ามแดน และถนนเชื่อมต่อโครงข่ายของทั้งสองฝั่ง โครงการมีระยะทาง 16.18 กม. วงเงิน 4,010.067 ล้านบาท โดยฝ่ายไทยมีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ วงเงิน 2,630 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 2,553 ล้านบาท และค่าควบคุมงานก่อสร้าง 77 ล้านบาท) ฝั่ง สปป.ลาว โดยกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง (MPWT) เป็นหน่วยงานเจ้าของโครงการ วงเงิน 1,380.067 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 1,256 ล้านบา ท ค่าที่ปรึกษา 44 ล้านบาท ค่าบริหารจัดการ 15 ล้านบาท ค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 63 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมบริหารของ สพพ. 2.067 ล้านบาท)

ทั้งนี้เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเป็นประตูเชื่อมโยงระหว่างไทย-ลาว-เวียดนาม และมณฑลกว่างสีของประเทศจีน เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทย กับ สปป.ลาว ทำให้การขนส่งสินค้าจากไทยไปสู่ตลาดในจีนตอนใต้ เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าจากภาคกลางของ สปป.ลาว สู่ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังของไทย เพื่อส่งออกทางทะเลต่อไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

‘ดร.ทมิตา’ เล่าถึงพระเมตตาของ ‘ในหลวงรัชกาลที่ 9’ หลังทรงพระราชทานสัญชาติไทยแก่ชาวกะเหรี่ยง-ชาวมอญ

เมื่อไม่นานนี้ ได้มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ชื่อ ‘dr.tammytiktok’ หรือ ‘ดร.ทมิตา วนาพิทักษ์กุล’ ได้ออกมาเล่าประสบการณ์ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงพระราชทานสัญชาติไทยให้แก่ชาวกะเหรี่ยง และชาวมอญในอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ โดย ดร.ทมิตา กล่าวว่า…

“โอชุงลาไซค่ะ (แปลว่า สวัสดีค่ะ) ดิฉัน ‘ดร.ทมิตา วนาพิทักษ์กุล’ สาวกะเหรี่ยงบ้านๆ คนหนึ่ง ที่ได้รับ ‘สัญชาติไทย’ จากสถาบันพระมหากษัตริย์ เด็กกะเหรี่ยงที่ไม่มีสัญชาติ เด็กกะเหรี่ยงที่ไม่มีทุนการศึกษา พ่อแม่ยากลำบากจนไม่มีคำไหนที่จะสามารถบรรยายได้ แต่สิ่งที่เราบรรยายจากหัวใจของเราได้ คือ กราบขอบพระคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 และราชวงศ์ทุกๆ พระองค์ ที่ยังสานต่อด้วยการดูแลประชาชน คนที่ไร้สัญชาติในอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์อีกมากมาย และจนถึงทุกวันนี้ทั้งนายอำเภอ ทั้งผู้ใหญ่ที่ใจดีทุกท่าน ก็ยังคงสานต่อสิ่งเหล่านี้อยู่ ทั้งชาวกะเหรี่ยง ชาวมอญ ก็ยังคงได้รับโอกาสดีๆ เหมือนที่ ดร.คนนี้ได้รับเช่นกัน

สิ่งสำคัญที่น้องๆ คนรุ่นหลังอาจจะไม่รู้ เพราะหนูโตขึ้นมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกให้พวกหนูหมดแล้ว แต่คนรุ่นก่อนอย่างพี่ที่ผ่านการใช้ชีวิตที่ยากลำบากมา ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีทีวีดู แต่มีหนึ่งสถาบันฯ ที่เข้ามาช่วยซัพพอร์ต คือ ‘สถาบันพระมหากษัตริย์’ วันนี้เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร เราไม่ว่า… แต่ขออย่ามาเหยียบ อย่ามาย่ำสถาบันฯ นี้เลยค่ะ เพราะยังมีคนอีกมากมายที่รักและยังคงธำรงไว้ เทิดเกล้า เทิดกระหม่อม ขออย่าไปยุ่งเลยค่ะ เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเรารู้ดีอยู่แล้ว ดังนั้น ทำดีเพื่อพ่อหลวงของเรา รับผิดชอบตัวเองตามรอยพระราชดำรัส เศรษฐกิจพอเพียง ไม่มีคำว่าเศรษฐกิจไม่ดีค่ะ ถ้าหากว่าวันนี้เรารับผิดชอบตัวเอง ขอบคุณค่ะ”

‘นาย ณภัทร’ เคลียร์ชัด!! ปม ‘แม่หมู’ อันฟอลไอจี เผย เพราะเครียดสะสม ด้านความสัมพันธ์ ‘ใบเฟิร์น’ ยังรักกันดี

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 66 กลายเป็นกระเด็นร้อนแรงที่หลายคนต่างให้ความสนใจ หลังจากที่ชาวโซเชียลตาดีเห็น ‘แม่หมู พิมพ์ผกา’ อันฟอลโล่ทั้งลูกชายสุดที่รักอย่าง ‘นาย ณภัทร’ และ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ จนหลายคนต่างตั้งคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ว่า ยังคงรักกันดีเหมือนเดิมหรือเปล่า? เพราะแม่หมูก็ออกมาแจงชัดแล้วว่า “ลบเอง เพราะไม่อยากยุ่งเรื่องงานลูกชาย”

ล่าสุด ทางด้านของพระเอกหนุ่ม ‘นาย ณภัทร’ ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “ขอบคุณมากๆ สำหรับความเป็นห่วง ถ้าผมพูดออกไปอาจจะทำร้ายตัวแม่ หรือผม ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร ตอนนี้เฟิร์น และคนรอบตัวเข้าใจ รักแม่ ทุกคนรักกันดี ไม่มีใครมีปัญหาเลย”

เรายุ่งจนไม่มีเวลาให้แม่ไหม?
นาย ณภัทร : ที่จริงผมทำงานตามปกติมานานมากครับ กลับมาก็คุยเหมือนเดิม เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากความเครียดในเรื่องงานของเขาที่สะสมมานานแล้ว และด้วยความรักเรา เลยอยากให้ทุกคนเข้าใจ ไม่อยากให้บั่นทอนจิตใจกัน

เครียดไหม?
นาย ณภัทร : ยอมรับว่า เครียด เชื่อว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลา ไม่มีใครอยากให้เกิด

แม่หมูบอกในโพสต์ล่าสุด ฉันเป็นลบเอง (อันฟอลไอจีนายและใบเฟิร์น)?
นาย ณภัทร : ผมเห็นพร้อมทุกคน และเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ยังอยู่ในกระบวนการ อยู่ในความดูแลของคุณหมออยู่ครับ พวกเราทุกคนอยากมีความสุข

เวลาไปทำงาน มีใครอยู่เป็นเพื่อนแม่หมูไหมหรือท่ายอยู่คนเดียว?
นาย ณภัทร : อย่างที่ทราบ มีกันอยู่ 2 คนมาโดยตลอด แต่ก็มีพี่ๆ ในวงการก็แวะเข้ามาบ้าง ตอนนี้ก็อยู่กับคุณหมอก็สบายใจครับ

ใบให้กำลังใจไหม?
นาย ณภัทร : หลังๆ มองข้ามปัญหาไปหมด เพราะเรารู้ปัญหา ใบก็ให้กำลังใจ ใบเป็นคนที่มีพลังบวกมาก ก่อนอื่นเลยผมทำทุกอย่างตามปกติ มีความเข้าใจกันกัน

นายก็ไม่ได้เปลี่ยนไป?
นาย ณภัทร : ใช่ครับ งานผมก็มีแต่ยุ่งขึ้นทุกวัน ย้ำชัดเจนว่า ผมเป็นคนบ้างาน แต่ผมมีเวลาส่วนตัวเสมอ เราใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ตอนนี้ยังคงอยู่ในช่วงของการปรับตัว อยากให้ทุกคนสนับสนุน และหวังดีต่อกันและกันมากกว่า

คุณแม่กับทุกคนยังคงไปเจอกับใบเฟิร์น บ่อยไหม?
นาย ณภัทร : ไปปกติครับ ไม่มีใครมีปัญหากันทั้งนั้นครับ

บางคอมเมนต์จากโลกโซเชียล บอกให้นายปล่อยใบเฟิร์นไปเถอะ?
นาย ณภัทร : ไม่เป็นไรครับ ถือว่า เป็นความเป็นห่วงที่ทุกคนมอบให้ เราเดินไปข้างหน้ากันดีกว่า ความสัมพันธ์ของผมกับเฟิร์นยังดีเหมือนเดิมครับ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ อยากให้เวลาครับ ถ้าคนที่เป็นห่วงขอบคุณมากๆ ครับ ถ้าคนที่เจอปัญหานี่แหละครับชีวิตมนุษย์มีปัญหาเป็นเรื่องธรรมดาครับ

ผช.ผบ.ทร. เป็นผู้แทน ผบ.ทร.ร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันชาติฝรั่งเศส

พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ ร่วมงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันชาติฝรั่งเศส ตามคำเชิญของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมี นายตีแยรี  มาตู (H.E. Mr. Thierry  MATHOU) เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และภริยา เป็นเจ้าภาพ ณ ห้องบอลรูม โรงแรมสวิสโฮเตล ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร

ไทยกับฝรั่งเศส สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ.2399 ผ่านการลงนามสนธิสัญญาเจริญสัมพันธไมตรี โดยประเทศไทยถือเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศสในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือไทย และกองทัพเรือฝรั่งเศส เป็นไปด้วยดี โดยฝรั่งเศสมีสำนักงานผู้ช่วยทูตทหาร ฝรั่งเศส/กรุงเทพฯ ในส่วนของกองทัพเรือมีผู้ช่วยทูตทหารเรือ/ปารีส ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพเรือฝรั่งเศส ประกอบด้วย 

- ด้านการศึกษา ซึ่งกองทัพเรือจัดส่งข้าราชการไปศึกษาอบรมหลักสูตรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
- การเยี่ยมเยือนและการเยี่ยมคำนับ เป็นการเยี่ยมเยือนเมืองท่าของเรือรบ ซึ่งเรือรบฝรั่งเศสมีการเยี่ยมเยือนเป็นระยะ และการเข้าเยี่ยมคำนับของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ
- การฝึก มีการฝึก PASSEX ซึ่งเป็นการฝึกในโอกาสที่เรือรบของฝรั่งเศสเดินทางผ่านน่านน้ำ หรือแวะเยี่ยมประเทศไทย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ของกองทัพเรือทั้งสองประเทศ
- การจัดหายุทโธปกรณ์ กองทัพเรือมีการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ EC-645T2 รวมทั้งยุทโธปกรณ์อื่นอีกหลายรายการ

เป็นไปตามนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และการมีบทบาทนำด้านความร่วมมือ และความมั่นคงในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยออนไลน์ “ระวัง: แอพดูดเงินปลอมอาละวาด ปลอม Google Play และใช้นามสกุลเว็บ .CC”

เนื่องจากในรอบสัปดาห์  มีการรับแจ้งความออนไลน์คดีหลอกให้กดลิงก์แอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์ แล้วโอนเงินออกไป สร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนเพิ่มมากขึ้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง  ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. หัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ จึงมอบหมายให้  พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยคณะทำงาน แถลงข่าวเตือนภัย เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2566 เวลา 11.00 น. ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-15 ก.ค.2566) มีสถิติการรับแจ้งความคดีออนไลน์มากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่  อันดับ 1) คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ 2) คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ 3) คดีหลอกลวงให้กู้เงิน 4) คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ฯ และ 5) คดีข่มขู่ทางทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัวแล้วหลอกให้โอนเงิน (Call Center) ซึ่งเมื่อช่วงเดือน มีนาคม 2566 - มิถุนายน 2566 สถิติคดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ฯ อยู่ในลำดับที่ 7 แต่ช่วง 2 สัปดาห์นี้สถิติการรับแจ้งความเพิ่มมากขึ้นจนขยับมาอยู่ลำดับที่ 4  มีสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ในรอบ 2 สัปดาห์ห้วงวันที่ 2-15 ก.ค.2566 จำนวน 595 เคส ความเสียหาย 90.5 ล้านบาทเศษ เห็นได้ว่าคนร้ายได้พัฒนารูปแบบและวิธีการหลอกลวง ถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนต้องแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบ

พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด ผบก.ตอท.บช.สอท. กล่าวว่า “ตำรวจเตือนให้กดโหลดแอปพลิเคชันจาก Google Play Store คนร้ายก็เขียน Google Play ในเว็บไซต์ปลอมตบตา” โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวงส่ง SMS แจ้งว่า “เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่คำนวณค่า FT ไฟฟ้าผิด ทำให้เก็บค่า FT ไฟฟ้ามาเกินให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ http://mea.bwz-th.cc” เหยื่อหลงเชื่อกดลิงก์เพิ่มเพื่อนไลน์ ขอชื่อและเบอร์โทรศัพท์ แล้วคนร้ายจะโทรมาพร้อมหลอกให้โหลดแอปพลิเคชันการไฟฟ้านครหลวงปลอมที่ส่งลิ้งมาให้ทางไลน์  ซึ่งเมื่อกดเข้าไปจะมีข้อความและสัญลักษณ์ด้านบนเป็น Google Play เพื่อให้เหมือนว่าเป็นการโหลดจาก Google Play แต่ความจริงเป็น Google Play ปลอม จากนั้นจะหลอกให้กดโหลดแอปพลิเคชั่นควบคุมเครื่องโทรศัพท์  แล้วให้เหยื่อกรอกชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ตั้งรหัสผ่าน 6 ตัว 2 ชุด ที่ไม่ซ้ำกัน กดยืนยันข้อมูล 3 จุดให้เป็นสีน้ำเงิน เพื่อยืนยันตัว จากนั้นหน้าจอจะเกิดข้อความค้าง ขึ้นข้อความว่า “อยู่ระหว่างโหลดข้อมูล” โดยคนร้ายจะหลอกว่าให้โหลดข้อมูลไม่ต่ำกว่า 15% แล้วเงินจะเข้าบัญชี แต่ปรากฏว่าในระหว่างนั้นคนร้ายได้สุ่มนำรหัสที่เราใส่ไป หรือจากวันเดือนปีเกิดเรา หรือจากหมายเลขโทรศัพท์ไปทดลองเข้าแอปธนาคารในโทรศัพท์ โอนเงินออกจากบัญชีเหยื่อไป

จุดสังเกตุ  
การเปรียบเทียบของปลอม-ของจริง 
ของปลอม ของจริง
1) ไลน์เป็นชื่อบัญชีส่วนบุคคล สามารถโทรหากันได้ 1) ไลน์เป็นชื่อบัญชี MEA Connect ซึ่งเป็นบัญชีทางการ (Official) ไม่สามารถโทรหากันได้
2) เว็บไซต์ปลอม นามสกุลของโดเมนของ มักลงท้ายด้วย .cc    2) เว็บไซต์ชื่อ www.mea.or.th นามสกุล ของโดเมนคือ .or.th
3) บนหน้าจอระบุหน้าเว็บไซต์ Google Play 
แต่ลิงก์ที่แสดงเป็น http://mea.tw-th.cc 3) เมื่อต้องการ Download App บน Google Play 
ลิงก์ที่แสดงจะระบุ https://play.google.com
4) แอปพลิเคชันของปลอม MEA Smart Life ไม่มีข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และแอปฯ ในเครือ 4) แอปพลิเคชันของจริง MEA Smart Life มีข้อมูลติดต่อของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ และมีแอปฯ ในเครือ

วิธีป้องกัน 

1) ไม่เปิดอ่านหรือ กดลิงก์ใน SMS แปลกปลอม หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้ง 
2) กรณีมีการส่ง SMS ที่ผิดปกติ ควรโทรศัพท์ตรวจสอบกับการไฟฟ้านครหลวง MEA call center 
โทร. 1130 โดยตรง 
3) หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ Apple 
Store เท่านั้น ไม่ควรดาวน์โหลดจากลิ้งค์หรือข้อความที่มีคนส่งให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รู้เท่าทัน รูปแบบกลโกงของคนร้ายที่ได้พัฒนาวิธีการหลอกลวง โดยการส่ง sms พร้อมแนบลิงก์ควบคุมเครื่องโทรศัพท์มาด้วย  และมีวิธีการป้องกันง่ายๆ คือ ไม่เปิดอ่านหรือ กดลิงก์ใน sms แปลกปลอม หรือติดตั้งแอปพลิเคชันที่มิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้ง หากต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ ควรโหลดและติดตั้งจาก Google Play store หรือ Apple Store เท่านั้น และเพื่อให้รู้เท่าทันภัยออนไลน์ในรูปแบบใหม่  สามารถติดตามข้อมูลการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ได้จาก เว็บไซต์ และเพจ เตือนภัยออนไลน์ หมายเลขโทรศัพท์ 081-866-3000 หรือโทรสายด่วน 1441 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top