Monday, 19 May 2025
ค้นหา พบ 48181 ที่เกี่ยวข้อง

‘เซ็นทรัลฯ’ เผย ทุ่มงบ 400 ล้าน จัด 2 อีเวนต์ใหญ่ช่วงสงกรานต์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว คาด ยอดใช้จ่าย-ลูกค้าเพิ่มขึ้น 30%

(3 เม.ย.66) แหล่งข่าวจากห้างสรรพสินค้า ระบุว่า ในเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทุกห้างค้าปลีกตื่นตัวกับการจัดกิจกรรมช่วงสงกรานต์ และแต่ละค่ายเตรียมใช้งบประมาณอย่างต่ำ 50-100 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นประชาชนให้ออกมาฉลองสงกรานต์ หลังจาก 3 ปีที่ผ่านมาเจอการระบาดของโควิด-19 ทำให้การจัดงานต้องงด อีกทั้งเดือนเมษายนนี้ คาดว่าอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้ชูเป็นจุดขายดึงคนออกนอกบ้าน และเล่นน้ำตามสถานที่ต่างๆ ก็จะทำให้เกิดการเข้าซื้อสินค้าและสังสรรค์ทานอาหารกันมากขึ้น โดยประเมินว่าจะเกิดขึ้นสะพัดกว่า 1 หมื่นล้านบาทในช่วงสงกรานต์ปีนี้ ที่เน้นเรื่องอาหารดับร้อน เสื้อผ้า เป็นต้น

ด้านนายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล แถลงว่า เซ็นทรัลพัฒนา ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน กระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 2/2566 และเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่กำลังกลับมาเที่ยวเมืองไทย จึงใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท จัด 2 อีเวนต์ใหญ่ คือ แคมเปญซัมเมอร์ ด้วยงบ 300 ล้านบาท และ THAILAND’S SONGKRAN FESTIVAL 2023 ด้วยงบ 100 ล้านบาท

‘ธนาธร’ ชี้ ‘กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น’ มีผลดีมหาศาล ช่วยขับเคลื่อน ศก.-เกิดการจ้างงาน-ลดความเหลื่อมล้ำ

(3 เม.ย. 66) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย ชำนาญ จันทร์เรือง กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และวสันต์ เหลืองประภัสร์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมวงเสวนาวิชาการ ‘30 ปี ข้อถกเถียงเรื่องการกระจายอำนาจ กับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของไทย’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแถลงข่าว โดย สันติสุข กาญจนประกร บรรณาธิการ The Voters ที่กำลังเปิดการรณรงค์ล่ารายชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งประเทศ

ธนาธร ระบุว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดในประเทศไทยนั้นยังเป็นโจทย์ที่ต้องมาพูดคุยกันในรายละเอียดอีกมาก แต่หลักการสำคัญที่สุดที่ไม่อาจขาดได้ คือการทำให้หน่วยการปกครองที่มีอำนาจสูงสุดทั้งในระดับจังหวัดและในระดับท้องถิ่นพื้นฐานอย่างเทศบาล และ อบต. ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งไม่ใช่รูปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของการปกครองท้องถิ่น ภายใต้กลไกราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแน่ ๆ

การจัดความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของอำนาจและงบประมาณ ที่เต็มไปด้วย ‘งบฝาก’ ให้ท้องถิ่นทำภารกิจที่ไม่ใช่เรื่องของท้องถิ่น แต่แทบไม่มีงบประมาณให้ท้องถิ่นได้ทำเรื่องของตัวเองจริงๆ กลายเป็นอุปสรรคที่บดบังเจตนารมณ์ของประชาชนที่จะสร้างบ้านสร้างเมืองของตัวเอง ทำให้ประชาธิปไตยไม่มีความหมาย ทำให้การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ไม่มีครั้งไหนที่ทำให้ชีวิตดีได้อย่างมีนัยสำคัญ

ธนาธรกล่าวต่อไปว่า ในด้านหนึ่งการรวมศูนย์เช่นนี้คือต้นเหตุหนึ่งของความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงมากในประเทศไทย ที่สะท้อนออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดในต่างจังหวัด งานและรายได้ที่กระจุกตัวอยู่แต่เฉพาะตามเมืองใหญ่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ระบบราชการรวมศูนย์ยังเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งด้วย นั่นเป็นเพราะภายใต้โครงสร้างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การอนุมัติโครงการใด ๆ แม้กระทั่งการสร้างสะพานลอยสักเส้นหนึ่งในตำบลหนึ่ง ล้วนแต่เป็นเรื่องของส่วนกลาง ต้องรอให้ถูกหยิบยกมาพิจารณาแล้วรอการอนุมัติ ทำให้ทุกการแก้ปัญหาเป็นเรื่องล่าช้า

เรื่องของอำนาจท้องถิ่นจึงเป็นเรื่องที่ส่งผลโดยตรงในทุกมิติของชีวิตประชาชน โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง และได้เกิดข้อพิสูจน์มาแล้วว่าการกระจายอำนาจสามารถระเบิดพลังทางเศรษฐกิจได้จริง อย่างเช่นที่ญี่ปุ่น ที่ในปลายทศวรรษที่ 1980 เมื่อเผชิญกับวิกฤติฟองสบู่แตก ต้องหา new s-curve (อุตสาหกรรมใหม่) ที่จะพาประเทศไปข้างหน้าได้ สิ่งที่ญี่ปุ่นทำคือการกระจายอำนาจอย่างเต็มรูปแบบ เกิดการยกเลิกกฎหมายกว่า 100 ฉบับที่เดิมเคยให้ส่วนกลางเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจในทุกเรื่องของท้องถิ่น เปลี่ยนมาเป็นการให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็ม จนแต่ละเมืองเริ่มมีการผลักดันสถานที่ท่องเที่ยว สินค้าและผลิตภัณฑ์ของท้องถิ่นขึ้นมาเป็นจุดขายใหม่ ออกแบบระบบขนส่งสาธารณะ และบริการสาธารณะต่าง ๆ ของตัวเองขึ้นมา

ธนาธรกล่าวต่อไป ว่า new s-curve คือสิ่งที่ประเทศไทยก็กำลังพยายามแสวงหาอยู่เช่นกัน เพราะอุตสาหกรรมที่เป็นเสาหลักของประเทศไทยมาโดยตลอดอย่างยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ มาถึงจุดอิ่มตัวของมันเองแล้ว แม้จะเพิ่มการลงทุนในรูปแบบเม็ดเงินใหม่ได้ แต่ไม่อาจเพิ่มกำลังการผลิต ไม่สามารถนำไปสู่การจ้างงานใหม่ ๆ ได้อีกต่อไป เรียกได้ว่าอุตสาหกรรมทั้งยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ จบที่ยุคนี้แล้ว

'พรรคพลังประชารัฐ' พัฒนาปทุมธานีมาสมัคร ส.ส.แบ่งเขตปทุมธานีวันแรกพร้อมกองเชียร์ คึกคัก

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 เวลา 08.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี (วกศ.ปทุมธานี) ถนนรังสิต-ปทุม อ.เมือง จ.ปทุมธานี ดร.ปรีชา ชื่นชนพิบูล ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตวันแรก พร้อมว่าที่ผู้สมัคร เขต 1-7 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และพรรคต่าง ๆ เดินทางมายืนใบสมัครกันอย่างคึกคักในวันแรกของการเปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง จังหวัดปทุมธานี ตามที่ กกต. ประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 3-7 เม.ย. 

โดยมีกลุ่มกองเชียร์ของแต่ละพรรคเดินทางมาให้กำลังใจกับผู้สมัคร เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรครวมแผ่นดิน เป็นต้น บรรยากาศเริ่มคึกคักตั้งแต่เช้ามีผู้สมัครและผู้สนับสนุนต่างทยอยเดินทางมาก่อนเวลา ยังสถานที่รับสมัครโดยทั้งหมดต่างสวมเสื้อแสดงสัญลักษณ์ของพรรคหรือผู้สมัครที่ตนเองสนับสนุน มีการเตรียม ดอกกุหลาบ พวงมาลัยดอกดาวเรือง ป้ายข้อความให้กำลังใจโดยมุ่งหวังให้ผู้สมัครที่ตนสนับสนุนได้รับหมายเลขประจำตัวที่เป็นเลขมงคลและง่ายต่อการหาเสียง ทุกคนก็อยู่ในกฎระเบียบของกฎหมายเลือกตั้งในภาพรวมสงบเรียบร้อย โดยผู้สมัครแต่ละคนต่างก็มีความมั่นใจที่จะลง ต่อสู้แข่งขันการเมืองในครั้งนี้ อย่างสร้างสรรค์เมื่อสมัครเสร็จสิ้นก็จะขึ้นรถและเริ่มออกหาเสียงสำหรับผู้สมัครบางส่วนทั้ง 7 เขตอย่างไม่เป็นทางการ นายป้องปราการ โสธรเทวาพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า วันนี้กกต.ได้รับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตของจังหวัดปทุมธานี มีด้วยกัน 7 เขตเลือกตั้ง 

'กูรูใหญ่' ฟันธง!! พปชร. หัวหอกขั้วที่ 3 ตั้งรัฐบาล ได้เวลาการเมืองยุคใหม่ที่เปิดเผยตรงไปตรงมา

(3 เม.ย.66) นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า การเมืองยุคใหม่ที่เปิดเผยตรงไปตรงมา สง่างาม!!!

1.ในวาระวันสมัครรับเลือกตั้ง2566 วันแรก ลุงป้อม ไสช้างออกมากลางสมรภูมิแล้ว ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 โดย “จะเป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน” จึงสวม 3 บท คือ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบปาร์ตี้ลิสต์ และเป็นแคนดิเดตนายกลำดับ 1 ของ พปชร.

2.ในขณะเดียวกันก็เป็นแกนพรรคขั้วที่สาม ซึ่งขณะนี้มี 5 พรรค เตรียมการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งไปพร้อมกัน และจัดขบวน 6 สาย ประสาน ส.ว. ประกันให้ได้เสียงเกิน 376 ในการเลือกนายกรัฐมนตรี

3.ในการฟอร์มรัฐบาลจะให้มีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเกิน 300 เสียง ซึ่งอาจมี 3 พรรคเป็นฝ่ายค้าน 150 เสียง เพื่อความงดงามในระบอบประชาธิปไตย ใช้ยุทธศาสตร์ก้าวข้ามความขัดแย้งเริ่มต้นใหม่ประเทศไทย และสามัคคีประชาชาติไทย ทำสงครามกับความยากจน

จาก 'โรงงานยาสูบเก่า' พื้นที่กว่า 311 ไร่ สู่โครงการ 'สวนเบญจกิติ' สวนสาธาณะแห่งใหม่ ปอดใหญ่ใจกลางเมือง เพื่อประชาชนทุกคน

หากจะบอกว่า 'สวนป่าเบญจกิติ' คือสิ่งปลูกสร้างที่ช่วยเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ให้กับกรุงเทพ คงไม่ผิดไปนัก จากพื้นที่ที่ซึ่งเป็นของโรงงานยาสูบเดิม ปัจจุบันถูกปรับปรุงโฉม ให้กลายเป็น 'สวนสาธารณะ' แบบเต็มรูปแบบ มากไปกว่านั้น ยังถือเป็น 'ป่าในเมือง' หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น 'ปอดใหญ่' ที่ช่วยสร้างสมดุลทางธรรมชาติให้กับพื้นที่กรุงเทพมหานคร

ย้อนเวลากลับไปราวปี พ.ศ.2535 กรมธนารักษ์และกระทรวงการคลัง ผู้เป็นเจ้าของที่ดินของโรงงานยาสูบ มีความตั้งใจที่จะคืนพื้นที่บริเวณดังกล่าวนี้ให้เป็นสวนสาธารณะให้กับคนเมือง โดยทำการปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่โรงงานยาสูบเดิม ราว 130 ไร่ ให้กลายเป็นสวนน้ำเบญจกิติ 

กระทั่งต่อมา ได้มีการทยอยย้ายโรงงานยาสูบออกไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนหมดสิ้น ทำให้พื้นที่เดิมอีกกว่า 300 ไร่ ได้รับการขยายสร้างให้เป็น 'สวนป่าเบญจกิติ' โดยโครงการดังกล่าวถูกสร้างขึ้นในปี 2559 ในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กระทั่งเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565 พร้อมเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาใช้ประโยชน์บนพื้นที่กว่า 300 ไร่แห่งนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top