Friday, 16 May 2025
ค้นหา พบ 48112 ที่เกี่ยวข้อง

‘ชัยวุฒิ’ สั่งจัดการ-ตรวจสอบ กรณี ‘9near’  กร้าว!! เผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลผู้อื่น มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

(31 มี.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณี ผู้ใช้งานบัญชี ‘9near’ ได้โพสต์ขายข้อมูลที่อ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums โดยอ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งในไทย (Somewhere in government) และโพสต์ ตัวอย่างไฟล์ ซึ่งมี ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และเลขประจําตัวประชาชน รวมทั้งมีการโพสต์ ลักษณะข่มขู่หน่วยงานและประชาชนในวงกว้าง

โดยวันที่ 30 มี.ค.66 เว็บไซต์ 9near.org (https://9near.org/) ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับบัญชี 9near โพสต์ ขายข้อมูลบนเว็บไซต์ Bleach Forums) ได้แอบอ้างใส่ชื่อ นายปริญญา หอมเอนก (อ.ปริญญาฯ) เป็นผู้สนับสนุน (Sponsored By...) พร้อมทั้งนํา Youtube Video Clip สัมภาษณ์ อ.ปริญญาฯ รายการ Digital Life Spring ช่อง Spring News ใส่บนเว็บไซต์ด้วย ซึ่งในเว็บไซต์ มีลิงก์ดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูล (!! Download !!) ซึ่งเป็นไฟล์ข้อมูล รายชื่อ วันเกิด ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ โดยมีการปิดบังในลักษณะ xxxx ไม่แสดงข้อมูลทั้งหมด ส่วนด้านล่างของ เว็บไซต์ได้ระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไปก่อนวันที่ 5 เม.ย. 16.00 น. เวลาประเทศไทย ไม่เช่นนั้นจะทําการเผยแพร่ข้อมูล 

ทั้งนี้ อ.ปริญญาฯ ได้เข้าแจ้งความกับกองบังคับการ ปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) แล้ว 

ในวันเดียวกัน ด้านผู้ประกาศข่าว นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา ได้โพสต์ข้อความใน facebook ส่วนตัว ว่าได้รับข้อความ SMS ข้อมูลส่วนบุคคลของตน ประกอบด้วย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่, เบอร์มือถือ จาก 9 near

ทั้งนี้ รัฐมนตรีชัยวุฒิ กล่าวถึงแนวทางการดําเนินการของกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า...

1) ดศ. ได้ประสานผู้ให้บริการ domain name สําหรับเว็บไซต์ 9near.org (Namesilo, LLC) ซึ่งเป็น ผู้ให้บริการในต่างประเทศ เพื่อขอปิดกั้นเว็บไซต์ 9near.org ตั้งแต่วันพุธที่ 29 มี.ค. 66 เวลา 19.00 น. เนื่องจากมี การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น และระบุข้อความในลักษณะข่มขู่ให้ผู้คิดว่าข้อมูลของตนรั่วไหล ติดต่อกลับไป ซึ่งเข้าข่ายกระทบต่อความมั่นคงของประเทศทําให้ประชาชนตื่นตระหนก ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ได้รับการตอบรับหรือ ดําเนินการจากผู้ให้บริการ

2) ดศ. อยู่ระหว่างดําเนินการขอคําสั่งศาลตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจเข้าข่าย

ตำรวจไซเบอร์ นำตัว ‘เมฆ รามา’ พร้อมพวก 8 ราย ถูกนำตัวฝากขังศาลอาญา

(31 มี.ค. 66) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พนักงานสอบสวน บก.สอท.2 บช.สอท. เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เพื่อลงบันทึกประจำวันในการขอเบิกตัว ‘เมฆ รามา’ หรือ นายรามา รัศมีรามา อายุ 37 ปี กับพวกอีก 8 คน

ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 915/2566 ลงวันที่ 28 มี.ค. ในฐานความผิด "ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่น หรือ ทำอุบายล่อ ช่วยประกาศการโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับจากเจ้าพนักงานและร่วมกันฟอกเงิน" ออกจากห้องควบคุมตัว หลังจากทางพนักงานสอบสวนสอบปากคำ เมฆ รามา อย่างละเอียดที่ บช.สอท. ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำของวันเดียวกันนานกว่า 6 ชั่วโมง โดยยังให้การปฏิเสธ ก่อนนำตัวมาฝากควบคุมไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อรอไปฝากขังที่ศาลอาญา ผลัดแรกในช่วงเช้าวันนี้

‘ตร.’ รวบ ‘นศ.สาว’ หลอกรับพรีออเดอร์การ์ดศิลปินเกาหลี พบผู้เสียหายนับ 100 ราย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท

(31 มี.ค. 66) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.อาธิรัตน์ ทิพย์เจริญ สว.กก.3 บก.ป. จับกุม น.ส.มุทิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ จ.120 /2566 ลงวันที่ 24 มี.ค.2566 ข้อหา “ฉ้อโกง, ฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ” ได้ที่บ้านพัก ในตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

ทั้งนี้ เมื่อปี 2564 - 2566 น.ส.มุทิตา ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นนักศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ประกาศรับพรีออเดอร์การ์ดศิลปินและดาราเกาหลีผ่านทางทวิตเตอร์ ในราคาหลักร้อยถึงหลักพันบาทต่อการ์ด 1 ใบ แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินให้แล้ว น.ส.มุทิตา กลับไม่ส่งสินค้าให้ ซ้ำยังคงประกาศรับพรีออเดอร์การ์ดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้เสียหายจึงทยอยเข้าแจ้งความจนศาลออกหมายจับไว้ เบื้องต้นมีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท

‘รฟท.’ จัดโปรฯ เที่ยวไทยสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยขบวนรถไฟ ‘KIHA 183’ ในธีม ‘ย้อนรอยประวัติศาสตร์’ กระจายรายได้-กระตุ้นการท่องเที่ยว

(31 มีค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย แผนเดินหน้าเพิ่มรายได้ขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA 183 เชิญชวนประชาชนสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว รถไฟไทย สไตล์ญี่ปุ่น ด้วยแนวคิด ‘ย้อนรอยประวัติศาสตร์’ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน

“ในเดือนเมษายน 2566 รฟท. ได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวกับขบวนรถไฟ KIHA 183 ภายใต้แนวคิดย้อนรอยประวัติศาสตร์ โดยมีโปรแกรมท่องเที่ยวไปตามเส้นทางต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในรูปแบบรถไฟไทย สไตล์ญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียด ดังนี้

วันที่ 1 - 2 เมษายน 2566 โปรแกรม แต่งกายย้อนยุค นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘เที่ยวงานแก่งคอย ย้อนรอยอดีตสงครามโลกครั้งที่ 2’

วันที่ 8 - 9 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองแปดริ้ว เติมความหวาน ในวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว’

วันที่ 22 - 23 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘แต่งชุดไทย แลหาพี่หมื่น ตามหาออเจ้า ที่กรุงเก่าอโยธยา’

วันที่ 29 - 30 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 ‘เที่ยวเมืองอาร์ต ราชบุรี ชมเชิดหนังใหญ่ – เพ้นท์โอ่ง (มังกร)’

นอกจากนี้ รฟท. ยังมีการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวต่อเนื่องในทุกเดือน เช่น เดือนพฤษภาคม โปรแกรมท่องเที่ยว ในแนวคิด ‘ผจญภัยเหนือสายน้ำ’ เดือนมิถุนายน โปรแกรมท่องเที่ยวในแนวคิด ‘Save The World รักษ์โลก รัก(ของ)เรา’ ในเส้นทางจังหวัดต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

‘หมอนักวิ่ง’ เตือน ‘โรคฮีทสโตรก’ ภัยเงียบใกล้ตัว แนะเลี่ยงออกกำลังกายในที่อากาศร้อน-ดื่มน้ำให้เพียงพอ

(31 มี.ค.66) หลังจาก ‘เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม’ เสียชีวิตจากโรคฮีทสโตรก ในคืนที่ผ่านมา นพ.อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือ หมอแอร์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลสมิติเวชศรีนครินทร์ ซึ่งเป็น ‘คุณหมอนักวิ่ง’ ได้แชร์บทความที่ตัวเองเคยลงไว้เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ในเฟซบุ๊ก Akanis Srisukwattana ถึงเรื่องอันตรายจากโรคฮีทสโตรก โดยระบุว่า…

“Heat Stroke (ฮีทสโตก) สำหรับนักกีฬาและประชาชน

ออกกำลังร้อนไป อันตรายถึงชีวิตได้!

ผมเพิ่งได้รับทราบ ว่ามีนักกีฬา ต่างประเทศท่านนึง มาแข่งวิ่งเทรลเมืองไทย แล้วเกิด Heat Stroke จน Coma (เหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว) เลยคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องไกลตัวและอันตรายมาก จึงอยากให้ ประชาชนทั่วไป และคนที่ออกกำลังกลางแจ้ง ทำความเข้าใจ Heat Stroke จะได้ ป้องกันไม่ให้เกิดครับ

1 Heat Stroke คืออะไร
คือ ภาวะที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัว กับความร้อนที่สูงมากขึ้นได้ ทำให้อุณหภูมิทั่วร่างกายสูง เกิน 40.5 C จนระบบการทำงานต่างๆ เสียไป โดยเฉพาะที่สมอง ทำให้เกิดอาการคล้าย หลอดเลือดสมอง (stroke) คือ ซึม อ่อนแรง ชักเกร็ง แต่ไม่ได้มีความผิดปกติจากหลอดเลือดโดยตรง เป็นผลเกิดจากความร้อนที่มากเกินไป ทำให้สมองทำงานผิดปกติ เลยเรียกว่า Heat Stroke

นอกจากนี้ ความร้อน ยังไปทำลายระบบต่างๆ ได้มากมาย อาทิ กล้ามเนื้อ เกิดภาวะกล้ามเนื้อแตกสลาย จนไตวายได้

2 Heat Stroke เกิดจากอะไร
ความร้อนในร่างกายมาจาก ปัจจัยภายใน และ ภายนอก 
ภายใน ได้แก่ การออกกำลังที่หนัก ร่างกายจะร้อนขึ้น ส่วนภายนอกได้แก่ อากาศ แสงแดด Heat Wave ต่างๆ ปกติเมื่อร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น สมองส่วน Hypothalamus จะกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ทำให้เราเหงื่อออก และ เลือดไปเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น ทำให้เราระบายความร้อนผ่านทางการระเหยของเหงื่อที่ผิวหนัง ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลง

แต่เมื่อสมดุลย์ตรงนี้เสียไป เช่น อากาศร้อนมากๆ พร้อมออกกำลังหนักมาก เป็นเวลานาน หรือ การระบายความร้อนที่ทำได้ลดลง เช่น อากาศมีความชื้นสูง ทำให้การระบายเหงื่อพาความร้อนไปในอากาศเกิดลดลง

ภาพรวมทำให้ สมดุลย์ของการระบายความร้อนทำได้ไม่ดี จึงนำไปสู่อุณหภูมิร่างกายที่ค่อยๆสูงขึ้น จนสูงมากและเกิด Heat Stroke ในที่สุด กลุ่ม Heat Stroke ที่เกิดจากการออกกำลัง ออกแรง ฝึกทหาร และระบายความร้อนไม่ทัน เราเรียกกลุ่มนี้ว่า Exertional heat stroke

3 ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิด Heat Stroke ง่ายขึ้น มาจาก
การออกกำลังที่หนักในที่อากาศร้อนนานๆ, อากาศที่ร้อนมาก โดยเฉพาะการเกิด Heat Wave, การไม่ชินสภาวะ อากาศร้อน หรือมีอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน, อากาศที่ชื้นมาก เกิน 75% จนทำให้การระบายเหงื่อยากขึ้น

ดื่มน้ำไม่พอ ร่างกายขาดน้ำดื่ม เครื่องดื่ม ที่มี คาเฟอีนและ Alcohol ทำให้ร่างกายเสียน้ำจากปัสสาวะมากกว่าปกติใส่เสื้อผ้าที่หนาและไม่ระบายอากาศ

4 อาการของ Heat Stroke ที่เราต้องสังเกต
ปวดศีรษะ ขณะออกกำลัง, HR (ฮาร์ตเรต-จังหวะการเต้นของหัวใจ) ไม่ลง แม้เบาการออกกำลังลง, คลื่นไส้ อาเจียน, ผิวหนังแดง ร้อน แห้ง บางรายอาจมีเหงื่อได้, เป็นตะคริวตามกล้ามเนื้อๆ หลายๆที่, หน้ามืด เป็นลม, ถ้าเป็นหนัก จะเริ่มมีอาการทางสมอง เบลอ พูดจาสับสน ชักเกร็ง หมดสติ

ดังนั้น ถ้าเริ่มมีอาการปวดหัว HR สูงแปลกๆกว่าที่เคย คลื่นไส้ อาเจียน ขณะออกกำลัง ให้สงสัยว่า เราอาจเริ่มมีอาการของ Heat Stroke ได้ ให้หยุดออกกำลังทันที และรีบทำให้ร่างกายเย็นลง แจ้งเพื่อนๆที่ไปด้วยกันทันที

5 เราสามารถป้องกัน และลดการเกิดได้อย่างไร
ตรงไปตรงมา หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เวลาที่อากาศร้อนจัด เช่นเลือกเวลาออกกำลังกายตอน เช้า และเย็น ดูอุณหภูมิก่อนออกกำลังกาย ถ้าเกิน 38 องศาเซลเซียส ควรหลีกเลี่ยง หรือต้องเตรียมตัวให้พร้อม

ถ้าจำเป็นต้องฝึกซ้อม เพื่อให้ร่างกายทนความร้อน ต้องค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาแบบค่อยเป็นค่อยไปเพื่อฝึกให้ร่างกายปรับตัว

ดื่มน้ำให้เพียงพอ พรมน้ำตามร่างกายเป็นระยะๆ เอาแค่พอประมาณ ไม่เปียกโชก สามารถลดอุณหภูมิได้ ไม่ควรฝึกอดน้ำ หรือกินน้ำน้อยๆ ระหว่างแข่งหรือซ้อม สวม เสื้อ กางเกง ที่ระบายอากาศ ระบายความร้อนได้ดี

6 ข้อแนะนำการดื่มน้ำในวันที่อากาศร้อนมาก
แนะนำให้ดื่มน้ำ 700 ml ก่อนออกกำลัง 2 ชั่วโมง ค่อยๆดื่มเรื่อยๆ และพิจารณาดื่ม Sports Drink ประมาณ 250 ml แทนน้ำเปล่าบางส่วน
ทุก 20 นาทีของการออกกำลังกาย ให้ดื่มน้ำอย่างน้อย ประมาณ 250 ml สลับกับเกลือแร่
สังเกตสีปัสสาวะคร่าวๆ ว่าเรากินน้ำพอไหม ถ้าเข้มมาก แสดงว่าร่างกายยังขาดน้ำ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top