(29 มี.ค.66) - ที่สวนสาธารณะใต้สะพานพระรามแปด ฝั่งธนบุรี นายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตบางกอกน้อย บางพลัด พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) จัดเวทีปราศรัยหาเสียง เปิดนโยบายช่วยเศรษฐกิจฐานราก โดยในครั้งนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคปชป. มาช่วยหาเสียงด้วยซึ่งถือเป็นการปราศรัยครั้งแรกนับตั้งแต่มีประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร นอกจากนี้ ยังมีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่-จตุจักร นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. และน.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมือง ร่วมเวทีปราศรัยด้วย
ทั้งนี้ ยังมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล และอดีตส.ส.กทม. พร้อมว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขตต่างๆในกทม. มาร่วมเป็นกำลังใจและฟังการปราศรัย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก
โดยในช่วงต้นของการหาเสียงครั้งนี้ พล.ต.ต.วิชัย ย้ำชัดเจนว่าประชาธิปัตย์ไม่เอากัญชาเสรี ไม่เอายาเสพติด และจะปราบทุจริตซึ่งเป็นวิกฤตของชาติ ส่วนนายสุชัชวีร์ เน้นในเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคแรก และพรรคเดียวที่เสนอแก้ปัญหาน้ำท่วมแบบเบ็ดเสร็จให้กับคนกรุงเทพ และไม่มีพรรคใดแก้ไขเรื่องนี้เลย แสดงว่าเขาไม่ได้ฟังชาวกรุงเทพฯ รวมทั้งเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5
ด้านนายชนินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดนโยบายจากการไปฟังความคิดเห็นจากประชาชน จึงมั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด โดยเฉพาะเรื่องปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของคนรากหญ้า ที่เดือดร้อนมาตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดโควิด พรรคมุ่งมั่นที่จะทำให้ความรวยกระจาย ไม่กระจุก และตั้งใจเสริมสร้างกองทัพมดให้เข้มแข็ง ก่อนหน้านี้ได้ประกาศไปแล้วถึงนโยบายธนาคารชุมชน ชุมชนละ 2 ล้านบาท ลดค่าไรเดอร์เหลือไม่เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า ลดหย่อนภาษีให้แก่ร้านค้าชุมชน กองทุนไอเดีย เพื่อช่วยคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ในการทำธุรกิจ วันนี้ขอนำเสนอนโยบายใหม่เพิ่มเติม คืออาสาสมัครพารวยทุกชุมชน ที่จะทำหน้าที่ช่วยดูแลให้คำปรึกษาในทุกเรื่องแก่ผู้ที่จะประกอบอาชีพทำธุรกิจในชุมชน ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจไปประสบความสำเร็จคือ รวยแบบยั่งยืน นอกจากนี้ ยังขอเสนอนโยบายจัดโซนนิ่งปลอดร้านสะดวกซื้อ เพื่อร้านขายของชำในชุมชนจะต้องสามารถดำเนินการค้าขายไปได้ไม่แพ้ร้านค้าที่มาจากนายทุนใหญ่ด้วย
“พรรคไม่มีนโยบายใช้เงินประชาชนล่อซื้อเสียงประชาชน ด้วยนโยบาย แจก3 พัน 5พัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจหรือพรรคที่มีวาระซ่อนเร้น ผมมั่นใจว่าผมเป็นทางเลือกที่พิสูจน์แล้วว่าทำงานให้กับพี่น้องคนทุกรุ่นได้ เรามีทีมงาน สก.ที่จะทำงานควบคู่ไปกับส.ส.เขต ผมและทีมงานทุกคนใส่ใจและรู้งานในพื้นที่จริง โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันเราเพิ่งผ่านพ้นวิกฤตโควิด แต่ยังไม่หลุดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ ผมทำงานมาตลอดแม้จะมีตำแหน่งหรือไม่ตำแหน่ง เกือบ 30 ปีทางการเมืองของผมอยู่กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ผมพร้อมมาดูแลพี่น้อง พร้อมเป็นส.ส. ผมทำทุกอย่างเพื่อพี่น้องได้ยกเว้นความผิดหวัง สุดท้าย ผมพูดจากใจอยากทำงานให้กับพี่น้องให้ชาวบางพลัด บางกอกน้อย การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบัตร 2 ใบ ใบหนึ่งโปรดเลือกผมเป็นส.ส.เขต และอีกใบหนึ่งโปรดกาให้กับพรรคประชาธิปัตย์” ว่าที่ผู้สมัครเขตบางกอกน้อย บางพลัด พรรคประชาธิปัตย์ ระบุ