Saturday, 10 May 2025
ค้นหา พบ 47995 ที่เกี่ยวข้อง

สวนนงนุชพัทยา ปรับภูมิทัศน์สถานทูตภูฏาน 1 ใน 13 สวนมิตรภาพฉันพี่น้อง

วันนี้ 22 มี.ค.66  สวนนงนุชพัทยา นำโดย นายกัมพล ตันสัจจา  ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้นำทีมนักจัดสวนมากกว่า 100 คน เข้าปรับปรุงภูมิทัศน์สถานเอกอัครราชทูตภูฏาน ประจำประเทศไทย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เป็นครั้งที่ 2 บนเนื้อที่ 3 ไร่ ในแนวคิด Friendship Garden จัดสวนแห่งมิตรภาพ ฉันพี่น้อง โดยมี นายคินซัง ดอร์จี (H.E.Mr. Kinzang Dorji) เอกอัครราชทูตภูฏาน ประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับ

 

นายกัมพล ตันสัจจา กล่าวว่าไทยกับภูฏาน มีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนาน ที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. 2561 สวนนงนุชพัทยา ได้เข้ามาปรับภูมิทัศน์ภายในสถานทูตแห่งนี้มาแล้ว และในวันนี้ได้เข้ามาปรับภูมิทัศน์อีกครั้ง ภายใต้แนวคิด Friendship Garden ในการจัดสวนแห่งมิตรภาพ ฉันพี่น้อง ที่เจริญเติบโตและมั่นคง ดั่งต้นไม้ที่ปลูกขึ้นทุกต้นในสถานที่แห่งนี้ สำหรับการปรับปรุงภูมิทัศน์ในครั้งนี้ นับเป็นสถานทูตแห่งที่ 2 ของปี 2566

 

ทั้งนี้สวนนงนุชพัทยา ได้เริ่มดำเนินการจัดสวนในสถานทูต ตั้งแต่ปี 2560 รวมเป็นระยะเวลามากกว่า 5 ปี และยังคงมุ่งมั่นในการจัดสวนแห่งมิตรภาพตลอดไป

 

โดยมี 13 สวนสถานทูตประจำประเทศไทย ที่ทางสวนนงนุชพัทยา เข้าไปดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ ได้แก่ สถานทูตฝรั่งเศส,สถานทูตอินโดนีเซีย,สถานทูตภูฎาน ,สถานทูตปากีสถาน,สถานทูตลาว,สถานทูตเนปาล,สถานทูตกัมพูชา,สถานทูตพม่า,สถานทูตรัสเซีย,สถานทูตเบลเยียม,สถานทูตอุซเบกิสถาน, สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์และสถานทูตอิหร่าน
 

'เศรษฐา' ขอบคุณ 'ทักษิณ' ชมเป็นนายกฯได้ ด้าน 'ชลน่าน' ออกตัวยังไม่เคาะชื่อแคนดิเดตฯ

‘เศรษฐา’ เผย รู้สึกเป็นเกียรติ ‘ทักษิณ’ ชม ชี้ ยังมีข้อต่างอีกเยอะ ลั่น หากเป็นนายกฯ จะไม่ตั้งคณะกรรมการซ้อนกรรมการ แก้ปัญหาปชช. ชู หลักคิดเร็ว ทำเร็ว ด้าน ‘ชลน่าน’ บอก เรื่องแคนดิเดตเป็นแค่ความเห็นของ ‘อดีตนายกฯ’

(22 มี.ค. 66) ที่จ.นนทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปราศรัยในเวทีแรก หลังนายกฯประกาศยุบสภาฯ ว่า จัดเต็มทุกเวที ไม่มีข้อยกเว้น เราเสนอนโยบายตามความเป็นจริงทุกอย่าง ทั้งนี้ สำหรับเวทีที่นนทบุรี เราจะเน้นหลายประเด็น ซึ่งเหมือนทุกจังหวัดที่เน้นเรื่องความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ความล้มเหลว ขณะนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของกระบวนการคืนอำนาจสู่ประชาชน และขอให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันเยอะๆ

เมื่อถามว่า มองประเด็นที่เมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปรียบเทียบนายเศรษฐา เหมือนตอนที่นายทักษิณเข้ามาทำงานการเมืองแรกๆว่าอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า เราก็มีความเหมือนกันได้ แต่เมื่อมีความเหมือนก็มีความแตกต่างในตัวของมันเอง ถือเป็นเกียรติเพราะท่านก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่ประสบความสำเร็จ และได้รับความนิยมชมชอบมาตลอดกาล ส่วนในความแตกต่างที่ตนพูดถึงนั้นมีหลายอย่าง ท่านเองเป็นคนที่ก่อร่างสร้างตัวมา ตนมาช่วยเติมเต็ม ท่านวางรากฐานมาไว้ดีอยู่แล้ว และเรามีบุคคลที่มีคุณภาพในพรรค

เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณ ชมนายเศรษฐาเช่นนั้นอนาคตจะชูเป็นแคนดิเดตใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้เป็นขั้นเป็นตอนไป คณะกรรมการบริหารก็จะประชุมกันในเร็ววันนี้ ขอให้อดใจรออีกนิด เพราะมีคนที่มีคุณภาพอยู่หลายคน ขอเวลาเล็กน้อย ให้เป็นไปตามขั้นตอนดีกว่า

เมื่อถามว่า หากเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งแรกจะทำได้ดีเหมือนนายทักษิณหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เมื่อย้อนหลังไป 20 ปี ที่ผ่านมา ตนมองว่าธุรกิจที่ท่านทำประสบความสำเร็จมากกว่าตนเยอะ ท่านก่อร่างสร้างตัวจากตรงนั้นก็เป็นอะไรที่น่าชื่นชม และเป็นอะไรที่เปรียบเทียบกับตนยังไม่ได้

เมื่อถามต่อว่า ทั้งนายทักษิณและนายเศรษฐามาจากภาคธุรกิจเช่นกัน ในทางการเมืองจะนำวิธีการทำงานอะไรของนายทักษิณมาปรับใช้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นหลักการคิดเร็ว ทำเร็ว และต้องมีการวิเคราะห์ถึงความเสี่ยง เปรียบเทียบกับความเร่งด่วนว่าจะมีการบริหารจัดการอย่างไร ไม่ใช่การตั้งคณะกรรมการซ้อนกรรมการ ถ้าทำแบบนั้นปากท้องแห้งพอดี

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่กองเชียร์พรรคเพื่อไทย ออกปากเชียร์ทั้งนายเศรษฐา และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นแคนดิเดตนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่กองเชียร์ไม่ได้เอ่ยชื่อ เพียงแต่ตนอาจจะได้การสนับสนุน หรือออกสื่อมากหน่อย อาจจะเป็นเพราะตัวสูงมองเห็นง่าย แต่ตนก็รู้สึกว่ายังต้องเจียมตัว เพราะผู้ใหญ่ในพรรคหลายคนล้วนมีความสุดยอดทั้งนั้น

เปิดชื่อ 8 ขุนพล ทีมเศรษฐกิจ 'รทสช.' แต่ละคนล้วนบิ๊กเนม ดีกรีไม่ธรรมดา

เปิดรายชื่อ 8 ขุนพลทีมเศรษฐกิจ "รทสช." เตรียมเปิดตัว 23 มี.ค.นี้ 

(22 มี.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งเตรียมแถลงข่าวเปิดตัวทีมเศรษฐกิจของพรรค ในช่วงบ่ายวันที่ 23 มี.ค.นั้น มีรายงานข่าวว่าบุคคลที่จะมาเปิดตัวเป็นทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย

1.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน

2.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

3.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ

4. ม.ล. ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทยในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์
 

5.นายจักร บุญหลง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) อดีตเอกอัครราชฑูตหลายประเทศ

6.นายชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท 1.6 ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

7.นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

8. นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล

23 มีนาคม พ.ศ. 2369 วีรกรรมหญิงกล้า ‘ท้าวสุรนารี’ วันแห่งชัยชนะเหนือทัพลาว

วันนี้ในอดีต เมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 'ท้าวสุรนารี' (คุณหญิงโม) นำทัพต่อสู้ปกป้องเมืองนครราชสีมา กอบกู้อิสรภาพเเละกำชัยเหนือทัพลาวได้สำเร็จ จนเป็นที่มาของ 'วันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี'

ถ้าเอ่ยนาม ท้าวสุรนารี คนไทยจะรู้จักกันดีว่า หมายถึง ย่าโมของชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งที่จริงแล้วคนไทยทั้งประเทศก็ให้ความเคารพบูชาและรำลึกถึงในวีรกรรมที่ท่านทรงทำไว้เพื่อชาติบ้านเมืองอยู่เสมอ

วันนี้เมื่อ 197 ปีก่อน หรือตรงกับวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 คือวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ได้จารึกพระนามของท่าน ที่สามารถปกป้องอธิปไตยของชาวไทยไว้ได้อย่างกล้าหาญ เกินกว่าสตรีทั่วไปจะทำได้

ตามประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ ในช่วงปี พ.ศ. 2369 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ก็ตรงกับรัชสมัยของ เจ้าอนุรุทธราช (เจ้าอนุวงศ์) ผู้ครองนครเวียงจันทร์ ได้ขอเกณฑ์ครอบครัวคนลาวที่เมืองสระบุรี ซึ่งถูกกวาดต้อนมาจากเวียงจันทน์ ในคราวสงครามครั้งที่ได้พระพุทธปฏิมากรแก้วมรกตมาประดิษฐานไว้ ณ กรุงธนบุรีนั้น กลับนครเวียงจันทร์ แต่ได้รับการปฏิเสธ

เมื่อไม่ได้ดังประสงค์ก็ก่อการกบฏ โดยยกกองทัพจะลงมาตีกรุงเทพมหานคร โดยเดินทัพมาอย่างเงียบๆ ให้กรุงรัตนโกสินทร์ไม่ทราบความเคลื่อนไหว โดยมีกองทัพหน้าเดินทางไปทางทิศตะวันตกตรงไปยังเมืองสระบุรี (ปากเพรียว)

ต่อมาวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2369 เมื่อกองทัพมาถึงเมืองนครราชสีมา ได้ตั้งมั่นฐานทัพอยู่จนถึงวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 จึงได้เข้าโจมตี ซึ่งเป็นช่วงที่พระยาปลัดทองคำ (พระยาสุริยเดชวิเศษฤทธิ์ทศทิศวิชัย) สามีของคุณหยิงโม ผู้รักษาเมืองไม่อยู่พอดี ด้วยติดปราบการจลาจลที่เมืองขุขันธ์

กองทหารของเจ้าอนุวงศ์ จึงตีเมืองโคราชได้โดยง่าย แล้วกวาดต้อนกรมการเมือง ตลอดจนพลเมืองทั้งชายหญิงไปเป็นเชลย รวมถึง คุณหญิงโม และราชบริพารไปด้วย โดยมี เพี้ยรามพิชัย เป็นหัวหน้าควบคุม เหล่าเชลยออกเดินทางสู่เมืองเวียงจันทน์โดยผ่านเมืองพิมาย ส่วนเจ้าอนุวงศ์นั้น ยังตั้งฐานทัพอยู่ที่เมืองนครราชสีมา

ต่อมาวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2369 ในระหว่างการเดินทางเป็นเชลยศึกนั้น คุณหญิงโม ได้คิดแผนการกอบกู้อิสรภาพกับกรมการเมือง ซึ่งมีนางสาวบุญเหลือ บุตรีหลวงเจริญกรมการเมืองนครราชสีมา ได้มีส่วนร่วมให้ข้อปรึกษาอย่างใกล้ชิด

คุณหญิงโมได้มอบหมายให้นางสาวบุญเหลือ ซึ่งเสมือนเป็นหลาน เป็นผู้รับแผนการไปปฏิบัติ โดยใช้อุบายให้ชาวบ้านเชื่อฟังทหารผู้ควบคุม แกล้งทำกลัวเกรง และประจบเอาใจจนทหารของเจ้าอนุวงศ์ทั้งหลายหลงตายใจ และพยายามถ่วงเวลาในการเดินทาง กับทั้งยังลอบส่งข่าวถึงเจ้าเมืองนครราชสีมา เจ้าพระยากำแหงสงครามรามภักดี (ทองอินทร์ ณ ราชสีมา) และพระยาปลัดทองคำ อีกด้วย

ที่สุดเมื่อเดินทางมาถึง ทุ่งสัมฤทธิ์แขวงเมืองพิมาย ได้พักตั้งค่ายค้างคืนอยู่ คุณหญิงโมจึงได้ออกอุบายให้ชาวเมืองนำอาหารและสุราไปเลี้ยงดูผู้ควบคุมอย่างเต็มที่ จนทหารต่างก็เมามายไม่ได้สติ หมดความระมัดระวัง

ครั้นถึงเวลาสองยามไปแล้วของวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2369 แผนการทุกอย่างจึงเริ่มเปิดฉากขึ้นโดยชาวนครราชสีมา พากันระดมยื้อแย่งอาวุธจากเหล่าทหารลาว และได้โห่ร้องขึ้นทำให้กองทัพเวียงจันทน์เกิดความโกลาหล

24 มีนาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จนิวัติประเทศไทย พร้อม ม.ร.ว. สิริกิติ์ กิติยากร พระคู่หมั้น

วันนี้ เมื่อ 73 ปีก่อน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จนิวัติประเทศไทยพร้อม ม.ร.ว. สิริกิติ์ กิติยากร พระคู่หมั้น และได้ทรงประทับบนเรือหลวงศรีอยุธยา ที่กองทัพเรือจัดถวาย เป็นเรือพระที่นั่งในคราวเสด็จพระราชดำเนิน จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นิวัติพระนคร

วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินนิวัติถึงประเทศไทยพร้อมด้วยหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร พระคู่หมั้น เป็นครั้งแรก เพื่อทรงประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การเสด็จฯนิวัติพระนครของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระคู่หมั้น ในครั้งนั้น เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทรงประกอบพิธีหมั้น ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top