Tuesday, 17 June 2025
ค้นหา พบ 48853 ที่เกี่ยวข้อง

‘ณัฐชา’ นำทีม 'ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี' เดินหน้าหาเสียง พร้อมลุยเลือกตั้ง ลั่น!! ผู้แทนไม่จำเป็นต้องนามสกุลดัง

(21 ก.พ. 66) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตบางขุนเทียน ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล นำทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี ทั้ง 5 เขต เดินพบปะประชาชนในพื้นที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เพื่อขอความไว้วางใจให้พรรคก้าวไกลได้เข้าไปเป็นรัฐบาล ทำนโยบายให้เป็นจริง สร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

นายณัฐชา กล่าวว่า มีความมั่นใจในจังหวัดราชบุรี เนื่องจากว่าที่ผู้สมัครของพรรคมีความหลากหลาย ทั้งเรื่องอายุและอาชีพ เมื่อเทียบกับกลุ่มการเมืองบ้านใหญ่ ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์บ้านแตกสาแหรกขาด หาทางย้ายพรรคไปต่อในทางการเมือง

ส่วนผู้สมัครของก้าวไกลมุ่งเดินหน้า เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน และอยากสื่อสารให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดราชบุรีทราบว่า การเป็นผู้แทนประชาชนไม่จำเป็นต้องนามสกุลโด่งดัง หรือมีบ้านใหญ่หลังโต แต่มีความตั้งใจมุ่งมั่น ก็สามารถเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชนได้

‘Netflix’ ลดราคา แพ็กเกจจอเดียว ความชัด HD จาก 279 บาท/ด. เหลือเพียง 169 บาท/ด.

(21 ก.พ. 66) นับเป็นข่าวดีของผู้ใช้บริการ Netflix สตรีมมิ่งสื่อบันเทิงชื่อดัง รวมทั้งผู้สนใจจะเริ่มใช้งาน เมื่อวันนี้ Netflix ปรับลดราคาแพคเกจพื้นฐาน (Basic Plan) จากเดิม 279 บาท เป็น 169 บาท ซึ่งผู้ใช้จะยังได้รับฟีเจอร์และสิทธิประโยชน์เหมือนเดิมทุกประการ และจะเริ่มปรับลดราคาแพคเกจตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป (21 กุมภาพันธ์)

ผู้ใช้ที่เลือกรับชม Netflix ด้วยแพคเกจพื้นฐาน (Basic Plan) ในราคา 169 บาท สามารถรับชมคอนเทนต์วิดีโอคุณภาพสูงระดับ HD (720p) ให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินไปกับภาพยนตร์ รายการทีวี และเกมมือถือได้ไม่จำกัด และสามารถรับชมได้ครั้งละ 1 เครื่อง ทั้งจากสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ สมาร์ตทีวี หรืออุปกรณ์สตรีมมิ่งต่าง ๆ รวมถึงสามารถดาวน์โหลดลงในอุปกรณ์ที่รองรับได้ครั้งละ 1 เครื่อง

สำหรับรายละเอียดแพคเกจ Netflix แบ่งเป็น 4 ชนิด คือ 
1.) มือถือ ราคา 99 บาท/เดือน 
2.) พื้นฐาน ราคา 169 บาท/เดือน (ที่เพิ่งปรับราคาลง) 
3.) มาตรฐาน ราคา 349 บาท/เดือน 
และ 4.) พรีเมียม ราคา 419 บาท/เดือน

โฆษก ตร. แจง การแต่งตั้ง พ.ต.ท.ไพบูลย์ สว.เก็บกู้วัตถุระเบิด จชต. เป็นตำแหน่งเฉพาะทาง ไม่สามารถนับรวมอาวุโสทั่วไปได้ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่จะเร่งวางหลักเกณฑ์ เปิดโอกาสให้ก้าวหน้าในสายงานเสี่ยงภัยต่อไป พร้อมเปิดรับหลักฐานข้อมูลแต่งตั้งมิชอบ

(20 ก.พ.66) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “กรณีปรากฎข่าว พ.ต.ท.ไพบูลย์ พูนมะณี  สว.กก.เก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด บก.สส.จชต. มีหนังสือร้องทุกข์ กรณีไม่ใด้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2565

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ให้ความสำคัญกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทุกระดับ แม้ว่าการแต่งตั้งระดับ รอง ผกก.- ส.ว. จะเป็นอำนาจ ผบช. แต่ได้กำชับให้พิจารณาตามความเหมาะสม ยึดทั้งหลักอาวุโส ผลงาน ความรู้ความสามารถ เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย โดยหลังจากทราบเรื่องได้ให้ ภ.9 ชี้แจงการแต่งตั้งของ พ.ต.ท.ไพบูลย์ ให้ชัดเจน

โดย ภ.9 แจ้งว่า พ.ต.ท.ไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งอยู่ในกลุ่มงานเทคนิค ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น 'ตำแหน่งเฉพาะทาง' โดยตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2561 ข้อ 28(2) ข้าราชการตำรวจที่จะแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ระดับ รอง ผบก. ลงมา ถึงระดับ สว. ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนร้อยละ 33 ของจำนวนตำแหน่งว่าง แต่ให้ใช้บังคับกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจซึ่ง ดำรงตำแหน่งทั่วไป ที่มิใช่ตำแหน่งเฉพาะทาง 

แม้ พ.ต.ท.ไพบูลย์  จะมีรายชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีลำดับอาวุโสระดับ สว. ลำดับที่ 12 ของ ภ.9 แต่เนื่องจาก พ.ต.ท.ไพบูลย์ อยู่ในกลุ่มงานเทคนิค ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น 'ตำแหน่งเฉพาะทาง' และไม่สามารถนำมารวมในกลุ่มอาวุโส 33% ของตำแหน่งทั่วไปได้ ต้องนำไปคิดในกลุ่มสายเทคนิคด้วยกัน ซึ่งในวาระประจำปี 2565 ไม่มีตำแหน่ง สายงานสรรพาวุธในระดับ รอง ผกก.ว่าง จึงไม่สามารถแต่งตั้ง พ.ต.ท.ไพบูลย์ พูนมะณี ดำรงตำแหน่ง รอง ผกก.สายงานสรรพาวุธ ในกลุ่มอาวุโสได้ 

ส่วนข้าราชการตำรวจระดับ สว. ที่ดำรงตำแหน่งทั่วไป ที่จะต้องเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นเป็น รอง ผกก. ในกลุ่มอาวุโสร้อยละ 33 ตามกฎ ก.ตร.ฯ จำนวน 16 ราย จากตำแหน่งว่างทั้งหมด 50 ราย  ภ.9 ได้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามลำดับอาวุโสทุกราย (ลำดับที่ 1 – 11และลำดับที่ 13-17 ) 

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง กำชับหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศแก้ไขปัญหาเด็กแว้น ปชช. ผู้ให้ข้อมูลข่าวสารหรือเบาะแสจะได้รับเงินค่าตอบแทน 3,000 บาท

เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ตระหนักและให้ความสำคัญในปัญหาการแข่งรถในทางของเด็กและเยาวชน (เด็กแว้น) อันเป็นปัญหาที่สร้างอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้รถใช้ถนน และสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ประชาชนในชุมชนและสังคม จึงมุ่งหวังให้ ตร. แก้ไขปัญหาดังกล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติ โดยจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปข.ตร.) และมอบหมายให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เป็น ผอ.ศปข.ตร. และมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น รอง ผอ.ศปข.ตร. เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้ดำเนินการขับเคลื่อนการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง โดยใช้นโยบายบังคับใช้กฎหมาย ใน 4 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการก่อนเกิดเหตุ มาตรการขณะเกิดเหตุ มาตรการสอบสวนขยายผล และ มาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 

พล.ต.ท.ประจวบฯ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อน ศปข.ตร. ได้กำหนดมาตรการการปฏิบัติและกำชับให้หน่วย บช.น., ภ.1 - 9 และ บก.ทล. นำไปขับเคลื่อนเพื่อป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง สำหรับพื้นที่ที่มีสถิติการร้องเรียนและการจับกุมในปริมาณมาก ให้เร่งรัดกวดขันตรวจสอบการกระทำความผิดทุกช่องทาง ทั้ง ONLINE เช่น คลิปการแข่งรถ, การขับรถที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย, ร้านค้าออนไลน์ ฯลฯ และ ON GROUND เพิ่มความเข้มออกกวดขันตรวจตรา แหล่งมั่วสุม จุดนัดหมาย สถานศึกษา ร้านจำหน่ายอะไหล่ ร้านซ่อมรถ ร้านดัดแปลงสภาพรถ ร้านแต่งซิ่ง โรงงาน และร้านขายท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐาน ฯลฯ ดำเนินการตามกฎหมายกับตัวการ และสอบสวนขยายผลไปยังผู้สนับสนุน เช่น ผู้ผลิต ครอบครอง จำหน่าย ประกอบ ดัดแปลง ยุยงส่งเสริม สนับสนุนการแข่งรถในทาง Admin page และกองเชียร์ กรณีสืบทราบหรือพบเห็นการรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถในทาง ให้ สน./สภ. บูรณาการกำลังทุกฝ่ายให้ยุติกิจกรรมพร้อมติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งเร่งรัดกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพิ่มเติม เพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาในพื้นที่

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมกรมอุทยาน ดำเนินคดีลักลอบทำประมงพื้นที่ตะรุเตา โทษหนักปรับ 40.5 ล้าน พร้อมริบเรือ 27 ลำ

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ม.ค.66 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมที่ดิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากชาวบ้านกว่า 200 คน ซึ่งขณะลงพื้นที่ได้ตรวจสอบพบเรือประมงขนาดใหญ่จำนวน 27 ลำ ลากอวนขนาดใหญ่อยู่ในทะเล ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล

กรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แก้ไขปัญหาข้อพิพาทบนพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ รวมทั้งฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ ให้เข้ากับวิถีชีวิตของชาวเลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จึงได้มอบหมายให้ กรมประมง และกรมอุทยานแห่งชาติ ตรวจสอบกรณีเรือประมงที่ลักลอบเข้าไปทำประมงในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งจากการตรวจสอบ ทั้งสองหน่วยงานยืนยันว่า เรือประมงขนาดใหญ่ทั้ง 27 ลำดังกล่าว เข้าไปลากอวนยักษ์ทำประมงในเขตอุทยานจริง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top