Sunday, 22 June 2025
ค้นหา พบ 48957 ที่เกี่ยวข้อง

บริษัททัวร์ภูเก็ต 'ทำร้าย-โกง' นักท่องเที่ยวจีน แถมเอามีดฟันแขน คลิปหลุดว่อนโซเชียลจีน

เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.66) เพจ 'ลุยจีน' ได้โพสต์เรื่องราวของหญิงชาวจีนท่านหนึ่ง ซึ่งโพสต์คลิปเล่าประสบการณ์ การโดนบริษัททัวร์ในไทยโกงช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งถูกทำร้ายร่างกาย โดยมีการบันทึกภาพชัดเจนมากๆ ว่า...

มีหญิงคนไทยเสื้อสีน้ำเงินที่น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่บริษัททัวร์ด่าทอว่า "มึงจะถ่ายวีดีโอหาพ่อมึงเหรอ?" แล้วเข้ามาถีบหญิงคนที่ถ่ายคลิปแทบจะล้ม จากนั้นก็ควักมีดพับด้ามยาวออกมาฟันที่แขน นทท.จีนคนถ่ายคลิป เห็นแผลสดๆ ที่เลือดไหล...เรื่องราวเป็นมายังไง จากที่แอดไปติดตามในแอคเคาท์หญิงจีนคนดังกล่าวมาจะขอมาสรุปให้ฟังครับ

1. หญิงจีนกับครอบครัวจองทริปมาเที่ยวไทยที่ภูเก็ตวันที่ 30 ม.ค. 2023 เธอบอกอยากมาดูเต่าทะเล จึงไปติดต่อบริษัทแห่งนึงแถวโรงแรมตัวย่อ บ ให้ช่วยจัดหารถมารับไปขึ้นเรือเพื่อไปเกาะสิมิลัน ค่าเหมาทัวร์ทั้งวัน 9000 บาท เธอจ่ายค่ามัดจำไป 5,000 บาท มีภาพใบเสร็จบริษัทที่ออกโดยเจ้าหน้าที่เป็นหลักฐานพร้อม

​2. ช่วงกลางคืนนั้น 2 ทุ่มเธอมีส่งภาพนามบัตรโรงแรมที่เธอเข้าพักเพื่อคอนเฟิร์มกับทาง บ.ทัวร์ทางแชท และคอนเฟิร์มว่าพรุ่งนี้เช้าจะมีรถมารับแน่ๆ ใช่มั้ย? แต่เหมือนทางนั้นอ่านไม่ตอบ

​3. ถึงเวลานัดเช้าวันรุ่งขึ้น เธอบอกว่าตื่นไปรอรถที่หน้าโรงแรมตั้งแต่ 05.50 แต่ก็ไม่มีรถมารับ เธอพยายามโทรติดต่อทางบริษัททัวร์ตั้งแต่ 6 โมงถึง 7 โมงเช้าหลายสิบสายแต่ไม่มีคนรับสาย

​4. เธอเข้าใจว่าโดนบริษัททัวร์โกงเข้าแล้ว จึงโทรแจ้งตำรวจท่องเที่ยว 1155 ตร.ท่องเที่ยวบอกเค้าไม่รับจัดการเคสแบบนี้ (?) แล้วโยนไปบอกว่ายูต้องโทรหาตำรวจ 191 เธอก็โทรหา 191 ตอนแรก ตร.ท้องที่บอกปัดอีกว่า เธอควรไปเคลียร์กับทางบริษัทเอง อารมณ์ไม่อยากช่วย เธอเลยโทรหาสถานทูต เจ้าหน้าที่สถานทูตก็บอกปัดว่าเรื่องนี้สถานทูตไม่ยุ่ง เธอต้องโทรหาตำรวจ 191 โยนกันไปกันมา เธอเริ่มหมดหวังลองโทรหาศูนย์ช่วยเหลือ นทท.ที่ภูเก็ต ศูนย์ฯ บอกเรื่องนี้ไม่อยู่ในความดูแล (ศูนย์ช่วยเหลือ???) ยูต้องโทรหาตำรวจเอง จนสุดท้ายเธอต้องโทรไปตื๊อให้ตำรวจมา

5. สักพักมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตามเธอไปที่บริษัททัวร์ ทางบริษัททัวร์แจ้งว่ารถไปผิดโรงแรม (???) ทางหญิงจีนเรียกร้องให้บริษัททัวร์คืนเงินให้เธอเต็มจำนวน บริษัททัวร์ไม่ยอม สุดท้ายตกลงกันไม่ได้ ตำรวจพาทั้งสองฝ่ายไปเจรจาต่อที่โรงพัก

แผ่นดินไหว 'ตุรเคีย-ซีเรีย' ตายพุ่ง 3,600 ราย บาดเจ็บอีกมากกว่า 15,600 คน

(7 ก.พ. 66) เจ้าหน้าที่กู้ภัยในตุรเคีย (ตุรกี) และซีเรีย ยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารที่พังถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.8 ช่วงเช้ามืดวานนี้ (6 ก.พ.) ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3,600 ราย บาดเจ็บอีกมากกว่า 15,600 คน

แผ่นดินไหวครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 04.17 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 08.17 น. เช้าวานนี้ (6 ก.พ.) ตามเวลาในประเทศไทย ศูนย์กลางอยู่ทางตะวันตกของเมืองกาเซียนเตป ทางใต้ของตุรเคีย ไม่ไกลจากพรมแดนทางเหนือของซีเรีย ระดับความลึกจากพื้นดิน 17 กิโลเมตร วัดความรุนแรงได้ 7.8 จากนั้นเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลายสิบครั้ง ก่อนที่ในช่วงบ่ายวันเดียวกันจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.5 ตามมา ในจังหวัดคาห์รามานนาราสของตุรเคีย

แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้อาคารหลายพันหลังในหลายเมืองใหญ่ทั่วภาคใต้ของตุรเคียพังราบ รวมถึงอาคารจำนวนมากในซีเรียที่อยู่ติดกัน แรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ไกลถึงไซปรัส, เลบานอน, อิสราเอล และอียิปต์ ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตร รวมถึงเกาะกรีนแลนด์ ทางเหนือของเดนมาร์ก ห่างออกไปหลายพันกิโลเมตร

ประธานาธิบดีเรเซฟ เทย์ยิบ แอร์โดอัน ผู้นำตุรเคีย บอกว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้รุนแรงที่สุดที่ตุรเคียเคยเผชิญในรอบเกือบ 100 ปี จนถึงตอนนี้ยืนยันผู้เสียชีวิตในตุรเคียอย่างน้อย 2,316 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 13,300 คน อาคารบ้านเรือนกว่า 6,000 หลัง ในพื้นที่ 10 จังหวัด พังถล่มเสียหายยับเยิน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร โดยเฉพาะในจังหวัดกาเซียนเตป และดียาร์บาคีร์ ที่เสียหายหนัก ท่ามกลางอุปสรรคจากสภาพอากาศที่หนาวจัด ทำให้มีน้ำแข็งและหิมะปกคลุมตามท้องถนน

ส่วนที่ซีเรีย หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัยของรัฐบาลบอกว่าเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สร้างความเสียหายมากที่สุดของซีเรีย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,250 ราย ทั้งในพื้นที่ที่รัฐบาลและกลุ่มกบฏครองอิทธิพลอยู่ โดยเฉพาะเมืองอะเลปโป ลาตาเกีย และฮามา และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 2,400 คน

ย้อนตำนาน 'การเลือกตั้งครั้งแรก' ในประเทศไทย จุดเริ่มต้นของการใช้สิทธิ์ ของประชาชนไทย

หายใจอีกไม่กี่ที กะพริบตาอีกไม่กี่หนก็จะถึงช่วงเวลาที่ 'คนไทย' ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กว่า 52 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งใหญ่ครั้งแรก หรือที่เรียกว่า 'นิวโหวตเตอร์' จำนวนกว่า 8.1 แสนคน จะได้ใช้อำนาจทางการเมืองผ่านปลายปากกา เลือกผู้แทนราษฎรเข้าสภาอีกครั้ง 

ไม่ว่าเงื่อนไขที่นำไปสู่การเลือกตั้ง จะเกิดจากการยุบสภา หรือ การสิ้นสุดวาระของสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม หากไม่มีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน หรืออุบัติเหตุเกิดขึ้น คาดว่าห้วงเวลาของการจัดการเลือกตั้งใหญ่ จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ 

แต่ก่อนจะถึงวันเข้าคูหา กากบาทเลือกพรรคที่ชอบ & คนที่ใช่ The State Times ขอหยิบยกเอาเรื่องราวการเลือกตั้งของประเทศไทย นับจากอดีต สู่ปัจจุบัน มาบอกเล่ากัน โหมโรงเรื่องแรก #เลือกตั้งสตอรี่ เราพาย้อนเวลากลับไป ในวันที่คนไทยทุกคน เริ่มต้นเป็น 'นิวโหวตเตอร์' ในการเลือกตั้งครั้งแรก 

กว่า 90 ปีก่อน ห้วงเวลาแห่งการอภิวัฒน์สยาม 24 มิถุนายน  2475 คือวันที่นำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบอบการเมืองไทย ซึ่งขณะนั้นยังใช้ชื่อสยาม จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเปลี่ยนรูปแบบการปกครองมาเป็นระบบรัฐสภา

กลไกการปกครองแบบประชาธิปไตยถูกประกอบสร้างและเริ่มวางรากฐานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ การจัดการเลือกตั้ง การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และการเปิดทางให้มีการจัดตั้งพรรคการเมือง

แค่ราว 1 ปี หลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 10 ธันวาคม 2475 รัฐบาลคณะราษฎร  ซึ่งมีพระยาพหล พลพยุหเสนาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 โดยเป็น 'การเลือกตั้งทางอ้อม' ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 

‘ศุภชัย’ ยัน!! ภท. ร่วมเป็นองค์ประชุมซักฟอก 152 ขู่!! หากอภิปรายแบบ 151 จะเสนอนับองค์ประชุม

(7 ก.พ.66) เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรค ภท.ยืนยันว่าจะเข้าเป็นองค์ประชุมในการประชุมวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ แต่ทั้งนี้การอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 รัฐธรรมนูญให้เจตนารมณ์คือ การตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอแนะปัญหาให้รัฐมนตรี ซึ่งประเด็นนี้ต้องทำความเข้าใจว่าไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 หากการอภิปรายเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เราก็จะร่วมประชุมด้วย แต่หากพบว่าการอภิปรายไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 มีการอภิปรายเหมือนมาตรา 151 หรือนำเรื่องเดิมมาอภิปรายซ้ำ พรรค ภท. จะแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย และคงจะต้องมีการประท้วง รวมถึงขอให้นับองค์ประชุม โดยเราจะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม 

“วันนี้จะครบวาระสภา 4 ปีแล้ว ปรากฏว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรล่มไปแล้วประมาณ 30 ครั้ง และการประชุมร่วมรัฐสภาล่มไปแล้ว 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พรรค ภท.ร่วมเป็นองค์ประชุมและสมาชิกอยู่ครบตลอดมา เราไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้องค์ประชุมล่ม” นายศุภชัย กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top