Wednesday, 25 June 2025
ค้นหา พบ 49021 ที่เกี่ยวข้อง

‘จิรวัฒน์’ ปลุก ปชช. เข้าคูหากา ‘เพื่อไทย’ สกัดอำนาจ ส.ว. เลือก ‘ประยุทธ์’ นั่งนายกฯ

(30 ม.ค. 66) นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.เขตทวีวัฒนา พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการล้มวาระแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ที่เสนอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 159 และมาตรา 272 ที่เสนอโดยพรรคเพื่อไทยว่า การเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตรานี้เป็นความพยายามแก้ไขเพื่อให้นายกฯ ต้องเป็น ส.ส. และตัดอำนาจ ส.ว.ไม่ให้มีอำนาจโหวตเลือกนายกฯ การล้มมติดังกล่าวเป็นการขับเคี่ยวกันทางการเมือง ซึ่งฝ่ายประชาธิปไตยได้ยื่นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้มา 7 ครั้งแล้ว แต่ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมประมาณ 25 ฉบับกลับถูกตีตก ผ่านเพียงฉบับเดียวคือกฎหมายเลือกตั้งซึ่งเปลี่ยนระบบแก้ไขเรื่องของบัญชีรายชื่อแล้วก็เขตเลือกตั้งเท่านั้น เหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่จะยังคงต้องการสืบทอดอำนาจ คสช.ต่อไปอย่างชัดเจน

นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีความพยายามโดย ส.ว.บางคน ที่หยิบยกประเด็นดังกล่าวโยนหินถามทางในเวทีการเมือง เพื่อจะใช้กลไกและเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญอุ้มนายกฯ ที่ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่ออายุของพล.อ.ประยุทธ์ ไปให้มากกว่าแปดปี ทั้งนี้ ประชาชนสามารถหยุดยั้งกระบวนการต่าง ๆ เหล่านี้ได้โดยการเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ เพื่อไม่ให้พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสเป็นนายกฯ ต่อ เชื่อว่าหากพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ จะมีการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อปลดล็อกกรอบเวลา 8 ปีอย่างแน่นอน และอาจจะมีการแก้ให้รัฐธรรมนูญให้ ส.ว.คงอำนาจในการโหวตเลือกนายกฯ พร้อมต่ออายุของส.ว.จากห้าปีต่อไปอีกก็เป็นไปได้

‘บิ๊กป้อม’ อ้าแขนรับ ‘2 กุมาร-บิ๊กน้อย’ กลับพรรค ชี้ ช่วยเศรษฐกิจ-การเมือง

(30 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.38 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางเข้าที่ทำการพรรค พปชร. ถ.รัชดาภิเษก จากนั้น พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน รวมถึงนายอุตตม สาวนายน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่เดินทางตามหลังขบวนรถพล.อ.ประวิตร มาติดกัน มีนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค และนายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีม กทม.ได้ให้การต้อนรับ พร้อมขึ้นไปยังห้องทำงานพล.อ. ประวิตรทันที เพื่อยื่นใบสมัคร โดยพล.อ.ประวิตร ลงนามใบสมัครด้วยตัวเอง ก่อนที่จะสวมเสื้อพรรคให้นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ก่อนที่ทั้งหมดจะลงมาแถลงข่าวร่วมกัน

ต่อมาเวลา 15.10 น. พล.อ.ประวิตร พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัว พล.อ.วิชญ์ นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ 

โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นที่น่าดีใจที่เราได้ต้อนรับทั้ง 3 คน คนแรก พล.อ.วิชญ์ คนที่สอง คือ นายอุตตม และคนที่สามคือ นายสนธิรัตน์ ถือเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ตนพูดไม่เก่ง แต่ฟังเก่ง แล้วฟังรู้เรื่องด้วย อยากจะฝากบอกกับทุกคนว่าพรรคของเราเป็นพรรคที่เรารวมกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด ฉะนั้น ทั้งสามคนจะมาช่วย พปชร.ในการดำเนินการกิจกรรมการเมืองและเศรษฐกิจ เพื่อที่จะให้พรรคมีความเข้มแข็ง เราต้องขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจกันทั้งสามคน เราได้สองหัวหน้าพรรค กับหนึ่งเลขาธิการพรรคนับว่าเป็นเกียรติกับ พปชร.เป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้นายอุตตมจะมาช่วยดูแลเรื่องเศรษฐกิจ นายสนธิรัตน์จะช่วยดูเศรษฐกิจและการเมืองด้วย ส่วนพล.อ.วิชญ์ ช่วยทั้งพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า การกลับมาของทั้งสามคน จะทำให้ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องประชาชนเลือก คุณถามอย่างนี้ผิดนะ จะให้ตนเป็นนายกฯ คนที่ 30ได้อย่างไร ประชาชนต้องเป็นคนเลือก ถ้าไม่ได้เลือกจะเป็นได้อย่างไร 

เมื่อถามว่า ตอนนี้แคนดิเดตนายกฯ ในพรรค มีแค่คนเดียว ไม่มีคนอื่นแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถ้าตอบว่าตนไม่รู้ จะหาว่าตนไม่รู้อีก 

เมื่อถามย้ำว่า แล้วที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ระบุจะเข้ามาและเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ใครบอก ถ้านายมิ่งขวัญบอกเองก็ต้องไปถามนายมิ่งขวัญ แต่ยืนยันว่านายมิ่งขวัญยังอยู่กับพรรค และช่วยด้านเศรษฐกิจ เพราะในพรรคมีงานให้ทำเยอะแยะ ไม่ต้องห่วง 

เมื่อถามอีกว่า แล้วจะให้ใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นทั้งหมดเลยครับ ไม่เป็นไร หัวหน้ามีได้หลายคน

เมื่อถามว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย จะตามมาร่วมงานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องถามนายสมคิด จะถามตนได้อย่างไร เพราะไม่ได้คุยกันเลย 

เมื่อถามว่า จะป้องกันปัญหาเรื่องความขัดแย้งอย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ที่นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ออกไปจากพรรค เพราะมีเรื่องความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีความขัดแย้ง ออกไปก็ไม่ได้ขัดแย้ง 

ด้านนายอุตตม กล่าวเปิดใจถึงสาเหตุที่กลับมา พปชร. ว่า เรื่องสำคัญสุดคือ การสร้างปรองดอง ต้องขอบคุณหัวหน้าพรรคที่ได้เชิญชวนพวกตนมาทำงานร่วมกันในเวลาที่ประเทศชาติต้องการเดินหน้า พล.อ.ประวิตรแสดงอุดมการณ์มุ่งมั่นชัดเจนที่จะรวบรวมผู้คนจากหลาย ๆ ฝ่ายมาทำงานด้วยกัน อีกเหตุผลหนึ่งคือ พวกตนเคยเป็นสมาชิกในบ้าน สมาชิกเก่าในบ้านหลังนี้ มีส่วนร่วมริเริ่มสร้าง พปชร.มา มีส่วนในการคิดและผลักดันนโยบายส่วนหนึ่งขึ้น เช่น บัตรประชารัฐ ที่พวกเราช่วยกันทำมา หัวหน้าพรรค พปชร.ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะนำพรรคขับเคลื่อนนโยบายสำคัญเหล่านี้ เรายินดีที่จะทำงานร่วมกับทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน ก้าวข้ามขัดแย้งได้แล้ว

31 มกราคม พ.ศ.2408 เชิญ ‘พระบาง’ จากวัดจักรวรรดิราชาวาสฯ คืนสู่หลวงพระบาง

วันนี้ เมื่อ 158 ปีก่อน อัญเชิญ ‘พระบาง’ จากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหวิหาร ไปยังหลวงพระบาง

ในปี พ.ศ. 2369-2371 เจ้าอนุวงศ์แห่งนครเวียงจันทน์ได้ยกกองทัพเข้าตีหัวเมืองอีสานทั้งหมด ยึดได้เมืองนครราชสีมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์) ยกกองทัพไปปราบ ในที่สุดปราบเจ้าอนุวงศ์เวียงจันทน์ได้ เมื่อจัดการบ้านเมืองทางอีสานให้เข้าสู่ความสงบเรียบร้อยแล้ว

ผบ.ตร. ชื่นชม สารวัตร ปคม. สวมจิตวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ ตะครุบตัวรวบคนร้ายบุกชิงทองในห้างได้ทันควัน ขณะเจ้าตัวเดินอยู่ในห้าง

วันนี้ (30 ม.ค.66) เวลา 15.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบรางวัลโครงการ “ทำดี มีรางวัล” แก่ สารวัตร ปคม. ช่วยรวบคนร้ายชิงทอง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2566 เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะที่ พ.ต.ต.ประเวศน์ แสงพรหม สว.กก.1 บก.ปคม. กำลังทำธุระส่วนตัวอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้ยินเสียงคนตะโกนให้ช่วยจับคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทอง และพยายามจะหลบหนีวิ่งออกจากห้าง ขณะนั้นมีพลเมืองดีวิ่งไล่ติดตามและตะโกนให้ช่วยจับ พ.ต.ต.ประเวศน์ฯ จึงได้ตัดสินใจวิ่งไล่ตามรวบตัวคนร้ายเอาไว้ได้ในที่สุด พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น จึงได้ประสานตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ท้องที่เกิดเหตุมาควบคุมตัวเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจ ปส. สกัดผู้ต้องหา คาด่านชั่งน้ำหนักย่านพระราม 2 หลังลอบขนยาบ้า 3 ล้านเม็ด ก่อนยาหลุดลงภาคใต้

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร.(กม)/ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผช.ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2  ให้ ตำรวจ ปส. เร่งเดินหน้ากวาดล้าง จับกุม และขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติด รวมทั้งการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชน และการทำลายเครือข่ายค้ายาเสพติดให้ครอบคลุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นย้ำ ในการสืบสวนหาข่าวเครือข่ายหน้าใหม่ รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายเก่า 

ตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ล่าสุด ช่วงสายของวันที่ 27 ม.ค.2566 เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดพัทยา กก.1 ร่วมกับ ศูนย์วิเคราะห์ข่าว บก.ปส.2, ตำรวจทางหลวง และ ป.ป.ส.ภ.7 เข้าจับกุม นายยมนา หรือหมี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ได้ที่บริเวณหน่วยบริการตำรวจทางหลวงสมุทรสงคราม ถ.พระราม 2 ในจุดสถานีตรวจสอบน้ำหนัก (ขาออก) อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร ก่อนจับกุมได้รับแจ้งว่ากลุ่มเครือข่ายยาเสพติดจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ จว.สระบุรี ลงไปยังพื้นที่ภาคใต้ โดยจะใช้รถบรรทุก 12 ล้อ เป็นพาหนะที่ใช้ลำเลียงยาเสพติด 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top