Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49041 ที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร.ติวเข้มทุกหน่วย ติดตามบริษัทจำหน่ายสลากออนไลน์ พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกลุ่มผิดกฎหมาย เตรียมแจ้งข้อหาทันที

ผบ.ตร.ติวเข้มทุกหน่วย ติดตามบริษัทจำหน่ายสลากออนไลน์ พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกลุ่มผิดกฎหมาย เตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงิน การพนัน และจำหน่ายสลากให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี ชงศาลเสนอสั่งปิดแพลตฟอร์ม สร้างความเชื่อมั่นประชาชน

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.66 เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมกำหนดแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร., พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมการปกครอง กรมสรรพากร และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พร้อมด้วยหน่วยงานตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

สำหรับการประชุมฯ เป็นการประชุมเพื่อติดตามและเร่งรัดการดำเนินการของหน่วยต่าง ๆ เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชน ตามนโยบายของรัฐบาล

ที่ประชุมได้รายงานผลการปฏิบัติ การดำเนินการกรณี สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเข้าร้องทุกข์กับชุดปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินคดีกับบริษัทล็อตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) จนต่อมาทุกหน่วยได้บูรณาการเข้าตรวจค้นกองสลากพลัส เมื่อวันที่ 16 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ตรวจพบสลากขายเกินราคา 70 ฉบับ อายัดฉลากงวด 17 ม.ค. 66 เพื่อตรวจสอบ และมีการดำเนินคดีความผิดฐานจำหน่ายสลากเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนดและความผิดฐานประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดตรงโดยไม่จดทะเบียน ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวนคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งได้ช่วงกลางเดือน ก.พ.66

จากผลการตรวจสอบรายชื่อผู้ซื้อสลากจากกองสลากพลัส เพียง 2 งวด คือ งวด 16 มี.ค.65 และ งวด 1 เม.ย.65 มีการโอนซื้อกว่า 1.6 แสนราย พบว่า มีการขายสลากเกินราคา 4,214 ราย มีการจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 20 ราย โดยมีเด็กอายุ 8 ปี รวมอยู่ด้วย 

ผบ.ตร.จึงสั่งให้ตรวจสอบโดยละเอียดตั้งแต่ 1 มี.ค.2565 ถึงปัจจุบัน และเร่งให้ตรวจสอบดำเนินการทุกพื้นที่ พร้อมให้รวบรวมข้อมูลการขายสลากเกินราคา ซึ่งมีผู้ซื้อจำนวนมาก ถือเป็นการกระทำผิดซ้ำซาก ประกอบกับข้อมูลผู้ซื้อสลากมีอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นการมอมเมาเยาวชน ส่งข้อมูลให้กระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัสต่อไป

ทั้งนี้ จากการบูรณาการร่วมกันของทุกหน่วยงาน แล้วรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการ พบว่าการทำธุรกิจในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดกฎหมายหลายข้อหา ที่ผ่านมาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มออนไลน์ ในข้อหาขายสลากเกินราคา ตาม พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลฯ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรงฯ คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน 

ในส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง ปปง. รายงานพบพยานหลักฐานไปเชื่อมโยงกับเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน ทั้งการพนันออนไลน์ และยาเสพติด จำนวนหลายล้านบาทซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมทั้งกรมการปกครองพิจารณาว่าเป็นความผิดตาม พรบ.การพนัน ในเรื่องภาษี กรมสรรพากร อยู่ระหว่างตรวจสอบ หากดำเนินการไม่ถูกต้อง จะดำเนินการเรื่องการเสียภาษีไม่ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป ส่วน กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลขอคุ้มครองชั่วคราวโดยการระงับการเผยแพร่แล้ว

ศอ.บต. จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยใน จชต. พี่น้องเชื้อสายจีนร่วมงานคับคั่ง

ศอ.บต. จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยใน จชต. พี่น้องเชื้อสายจีนร่วมงานคับคั่ง ด้านเลขาธิการ ศอ.บต. เผย พร้อมหนุนทุกศาสนิกปฏิบัติตามความเชื่ออย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างความหลากหลายทางวัฒนธรรมชายแดนใต้

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับสมาคมคนไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จัดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อมุ่งเน้นสังคมที่หลากหลายทางวัฒนธรรมพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งเป้า มีผู้เข้าร่วมในแต่ละพื้นที่ รวม 5,000 คน โดยวันนี้ (27 มกราคม 2566) จัดกิจกรรมขึ้น ณ หอประชุมมูลนิธิยะลาบำรุง ผดุงประชา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม และมี พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา หัวหน้าส่วนราชการ และมีพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก 

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ จัดขึ้นเนื่องในเทศกาลวันตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญสำหรับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ ซึ่งเป็นประชากรที่สำคัญในการสร้างสันคมพหุวัฒนธรรมให้เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงในวันนี้ ไม่มีสังคมใดในโลกที่จะเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนโดยคนเชื้อชาติเดียว วัฒนธรรมเดียว หรือความเชื้อเดียว โดยส่วนใหญ่เป็นสังคมที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติ หากนำจุดแข็งของแต่ละเชื้อชาติมาเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคม เชื่อว่า จะสามารถทำให้สังคมนั้นเจริญก้าวหน้าโดยเร็ว ทั้งนี้ ศอ.บต. ในฐานะหน่วยงานรัฐ ที่มีหน้าที่กำกับดูแล จชต. ด้านการพัฒนา ได้ตระหนักถึงการดูแลประชาชนทุกเชื้อชาติ ศาสนา ไม่เน้นจำนวนปริมาณว่าจะเป็นพี่น้องมุสลิม พุทธ หรือพี่น้องคนไทยเชื้อสายจีน และพร้อมสนับสนุน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกศาสนิกได้ปฏิบัติกิจตามความเชื่อ ความศรัทธาของศาสนา ผ่านการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมอย่างเท่าเทียม ให้เกิดการยอมรับในอัตลักษณ์ ความแตกต่าง สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม 

 

สำหรับกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังคมหลากหลายวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศอ.บต. ร่วมกับ สมาคมคนไทยเชื้อสายจีน 3 จังหวัด จัดขึ้นเพื่อให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนได้มีการพบปะ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น บำรุงขวัญ กำลังใจพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและศาสนิกอื่นๆ ในพื้นที่ เพื่อให้ผู้นำองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมพูดคุย สังสรรค์ สร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นร่วมกันในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่อย่างไร้รอยต่อ พร้อมหาแนวทางข้อเสนอแนะจากชาวไทยเชื้อสายจีนมาใช้ในการแก้ปัญหาให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีเป้าหมายพัฒนาศักยภาพพื้นที่และคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ และไม่ให้ประชาชนละทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิด 

ผบ.ตร.สั่ง น 1 ส่งทีมสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวไต้หวัน

ผบ.ตร.สั่ง น 1 ส่งทีมสืบสวนนครบาล ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวไต้หวัน เร่งทำความจริงให้ปรากฎ ยืนยันไม่เข้าข้างใคร ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย  

วันที่ 28 ม.ค.2566 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงประเด็น นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันอ้างถูกตำรวจเรียกรับเงิน ว่า "พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้ติดตามให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มาโดยตลอด สั่งกำชับให้ตำรวจดำเนินการตรงไปตรงมา โดยวันนี้ ผบ.ตร. ได้สั่งการเพิ่มเติมไปยังผู้บัญชาการกอตำรวจนครบาล ให้ตำรวจกองบังคับการสืบสวนนครบาล (บก.สส.) ลงพื้นที่หาหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนักท่องเที่ยวไต้หวันเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วน ทุกประเด็น"

'กองทัพอากาศ' จัดการฝึกบินควบคุมไฟป่า ประจำปี 2566

กองทัพอากาศ จัดการฝึกบินควบคุมไฟป่า ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 23 - 27 มกราคม 2566 ณ พื้นที่กองบิน 46 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสนามฝึกทางยุทธวิธี ทภ.3 (บ้านด่าน) จังหวัดสุโขทัย โดยมี พลอากาศตรี วชิระพล เมืองน้อย ผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ เป็นผู้ควบคุมการฝึกฯ สำหรับอากาศยานที่เข้าร่วมการฝึกบินควบคุมไฟป่าในครั้งนี้ ประกอบด้วย เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130) จากฝูงบิน 601 กองบิน 6, เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 ก (BT-67) จากฝูงบิน 461 กองบิน 46 , เฮลิคอปเตอร์ค้นหาและช่วยชีวิตแบบที่ 11 (EC-725) จากฝูงบิน 203 กองบิน 2, เครื่องบินลาดตระเวนทางอากาศ (DA-42MPP) จากฝูงบิน 402 กองบิน 4 และอากาศยานไร้คนขับ (UAV) จากฝูงบิน 302 กองบิน 3 โดยการฝึกประกอบด้วย การฝึกแก้ปัญหาสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ (จำลอง) (TTX) และ การฝึกภาคอากาศ (FTX) การฝึกในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อดำรงขีดความสามารถ และทบทวนขั้นตอนการปฏิบัติของหน่วยเกี่ยวข้อง ตามแผนบรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ โดยยึดหลักการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations : NCO) ในการฝึก รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถร่วมกับหน่วยงานภายนอกกองทัพอากาศ เพื่อให้เกิดการบูรณาการ การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของประเทศไทยในอนาคต ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งครั้งนี้กองทัพอากาศได้เชิญผู้แทนจาก กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาภัยในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมการฝึกด้วย ภาวะไฟป่าและหมอกควันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี กองทัพอากาศจึงมีการเตรียมความพร้อมและร่วมการแก้ปัญหาร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน และพร้อมระดมขีดความสามารถทุกด้าน ทั้งกำลังพล อากาศยาน ยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี สนับสนุนทุกภารกิจเพื่อประชาชน 

29 มกราคม พ.ศ.2546 จลาจลเผาสถานทูตไทยในเขมร ผลพวง การยุยง ปลุกปั่นให้เกลียดชังไทย

วันนี้ เมื่อ 20 ปีก่อน เกิดเหตุจลาจลเผาสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ ของกัมพูชา หลังหนังสือพิมพ์รัศมี อังกอร์ ( Rasmei Angkor) ตีพิมพ์บทความปลุกปั่นให้คนคลั่งเกลียดชังไทย

29 มกราคม พ.ศ.2546 เกิดเหตุจลาจลในกรุงพนมเปญ ของกัมพูชา ที่ชาวไทยยังจำได้ไม่ลืม โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องมาจากข่าวแปลก ๆ ออกมาว่า เขมรจะทวงคืนปราสาทตาเมือนธมและสต๊กก๊กธม ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2478 และบูรณะมาตลอด

กล่าวกันว่า เป็นการปล่อยข่าวจากพรรคฝ่ายค้านของนายสม รังสี ซึ่งต้องการสร้างกระแสชาตินิยมเป็นคะแนนให้พรรคสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนกรกฎาคมนั้น ข่าวนี้ทำคะแนนให้พรรคที่เป็นเจ้าของความคิดพอสมควร พรรคการเมืองคู่แข่งจึงต้องหาทางสร้างกระแสทำคะแนนบ้าง

ต่อมาในวันที่ 18 มกราคม 2456 ก็มีข่าวในหนังสือพิมพ์ ‘รัศมีอังกอร์’ ลงข่าวว่าดาราสาวไทย ‘กบ’ สุวนันท์ คงยิ่ง ให้สัมภาษณ์ในทีวีช่องหนึ่ง ตอบผู้สัมภาษณ์ที่ถามว่าเธอเกลียดอะไรมากที่สุดในโลก กบ สุวนันท์ บอกว่า เกลียดคนเขมรเหมือนเกลียดหมา เพราะชาวเขมรขโมยนครวัดไปจากไทย เมื่อถามว่าเธอจะเดินทางไปกัมพูชาหรือเล่นละครที่กัมพูชาเป็นผู้สร้างหรือไม่ ดาราสาวไทยก็บอกว่าจะเล่นก็ต่อเมื่อเขมรยอมคืนนครวัดให้แก่ไทย

นสพ.รัศมีอังกอร์เป็นหนังสือพิมพ์เล็กๆ มีคนอ่านไม่เท่าไหร่ ข่าวนี้เลยจุดไม่ติด ต่อมาในวันที่ 26 มกราคม นสพ. ‘เกาะสันติภาพ เดลี่’ ซึ่งเป็นหนังสือขายดีของเขมร ก็เลยต้องถ่ายทอดจาก นสพ.รัศมีอังกอร์ไปกระพือต่อ ทีนี้เลยได้ผล

ยังมี นสพ.กัมพูชาใหม่ รับลูกเสนอเป็นข่าวใหญ่ต่อมาว่า นักศึกษา 3 มหาวิทยาลัยในกรุงพนมเปญ รวมทั้งมหาวิทยาลัยแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์ประณามดาราสาวไทย รับกับการเสนอข่าวกุของหนังสือพิมพ์ โดยไม่ได้วินิจฉัยความเป็นไปได้ของข่าว

เป็นที่รู้กันว่า สุวนันท์ คงยิ่ง เป็นดาราสาวไทยที่ได้รับความนิยมจากคนเขมรอย่างคลั่งไคล้ และระดับการศึกษาของเธอก็ขั้นปริญญา คงไม่ปัญญาอ่อนไปด่าคนเขมรที่นิยมในตัวเธออย่างท่วมท้นแบบนั้น ตรงกันข้าม เธอจะต้องรักคนเขมรอย่างมากด้วย ที่นิยมในตัวเธอ สนับสนุนความเป็นดาราของเธอ ซึ่ง กบ สุวนันท์ ได้แถลงทั้งน้ำตาว่า เธอไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับคนเขมรแบบนั้นเลย ทั้งยังอยากไปชมนครวัดสักครั้งด้วย ถ้าหากเธอพูดก็น่าจะบอกให้ชัดเจนว่าเธอพูดที่ไหน เมื่อไหร่ จะได้เอาเทปมาพิสูจน์กัน

เลวร้ายไปกว่านั้นก็คือ ในวันที่ 27 มกราคม สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ไปปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดกัมปงจาม บ้านเกิดของนายสม รังสี กล่าวแสดงความไม่พอใจในคำให้สัมภาษณ์ของดาราสาวไทย และว่าเธอไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าต้นหญ้าที่ขึ้นรอบนครวัด พร้อมทั้งเรียกร้องให้คนกัมพูชามีความพอใจในวัฒนธรรมของตน โดยระบุว่าชาวบ้านหลายคนไม่ยอมประดับพระบรมฉายาลักษณ์ของพระมหากษัตริย์และพระราชินีกัมพูชา หรือแม้แต่ภาพพ่อแม่ของตน แต่กลับนำรูปของสุวนันท์ คงยิ่งมาติดแทน ทั้งยังประกาศว่าได้ออกคำสั่งให้งดฉายละครโทรทัศน์ของไทยเรื่อง ‘ลูกไม้หล่นไกลต้น’ ที่มี กบ สุวนันท์แสดงไปแล้ว

ในวันที่ 29 มกราคม นายเหมา อาวุธ ประธานสมาคมโทรทัศน์กัมพูชา ได้แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันที่ผ่านมา คณะของผู้บริหารสถานีโทรทัศน์กัมพูชามีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ทุกสถานีหยุดแพร่ภาพออกอากาศรายการโทรทัศน์ของไทยทั้งหมดไว้ก่อน

จากนั้น ในเช้าวันที่ 29 นั้น มีนักศึกษาประชาชนกว่า 500 คนไปชุมนุมกันที่หน้าสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวุฒิสภา และห่างจากกระทรวงมหาดไทยไม่ถึง 100 เมตร ผู้ชุมนุมซึ่งเชื่อกันว่าเป็นม็อบจัดตั้งได้ชูป้ายด่ากบ สุวนันท์ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ต่อมาก็ได้มีการนำธงชาติไทยมาเหยียบย่ำและจุดไฟเผา นายชัชเวทย์ ชาติสุวรรณ เอกอัครราชทูตไทย เห็นว่าเหตุการณ์ไม่น่าไว้วางใจ มีตำรวจยืนดูอยู่ไม่กี่คน จึงโทรศัพท์ไปหาพลเอก เตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอกำลังสารวัตรทหารมาคุ้มครอง แต่ก็ได้รับคำปฏิเสธ อ้างว่าตำรวจคุ้มครองได้

ช่วงบ่ายสถานการณ์รุนแรงยิ่งขึ้น มีการงัดป้ายสถานทูตไทยไปเผา ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้เจ้าหน้าที่ไทยที่ถูกกักตัวอยู่ในสถานทูต จึงได้โทรศัพท์ไปถึงพลเอก เตีย บันห์อีกถึง 3 ครั้ง และนายกฯทักษิณ ชินวัตร ยังได้โทรศัพท์สายตรงถึงสมเด็จฮุนเซนขอให้ช่วยดูแลคนไทย ซึ่งก็ได้รับคำรับรอง แต่ประมาณ 17.00 น. ผู้ประท้วงหลายร้อยคนลุกฮือเข้าไปในสถานทูตและทำลายข้าวของ ท่านทูตได้เรียกเจ้าหน้าที่สถานทูตให้หลบไปอยู่ในบ้านพักด้านหลัง ผู้ชุมนุมก็ตามไปอีก เจ้าหน้าที่สถานทูต 14 คนต่างปีนรั้วหนีตายลงในแม่น้ำ บางคนก็ได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่มีคนไทยเอาเรือมารับไปพักที่โรงแรมรอยัลพนมเปญ ขณะหนีก็เห็นไฟลุกขึ้นในสถานทูตแล้ว ต่อมาผู้ช่วยทูตทหารได้มารับท่านทูตไปพักที่บ้านพัก เจ้าหน้าที่บางส่วนยังพักที่โรงแรมต่อไป แต่ต่อมาทั้งโรงแรมรอยัลพนมเปญและบ้านพักผู้ช่วยทูตทหารก็ไม่รอด ถูกเผาวอดทั้ง 2 แห่ง ต้องหนีตายกันต่อไป

หลังจากเผาสถานทูตไทยโชติช่วงแล้ว ม็อบมอเตอร์ไซค์ก็ตะเวนเผาโรงแรมและบริษัทห้างร้านของคนไทย บรรดาคนไทยต้องหนีตายกันหัวซุกหัวซุน หลายคนถูกปล้นรูดทรัพย์เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่ถูกอาศัยโอกาสไปด้วย พวกโจรได้สมทบเข้าปล้นและงัดแงะทรัพย์สินของคนไทย โดยไม่มีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองมาดูแล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top