Thursday, 26 June 2025
ค้นหา พบ 49042 ที่เกี่ยวข้อง

สามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง และแชมป์โลกมวยสากลอาชีพคนที่ 10 ของไทย โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อ 27 ม.ค.2566

เมื่อวันที่ 27 ม.ค.66 ที่ผ่านมา นายสามารถ พยัคฆ์อรุณ อดีตยอดนักมวยไทยชื่อดัง และแชมป์โลกมวยสากลอาชีพคนที่ 10 ของไทย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องมวยไทย ภายหลังที่มีกระแสการเคลมมวยไทยจากชาวกัมพูชาผ่านเฟซบุ๊ก 'Samart Payakaroon' ว่า...

เนื่องจากมีแฟนมวยหลายๆ คน ต้องการให้ผมแสดงความคิดเห็นในกรณีประเทศเพื่อนบ้าน ผมไม่ได้มีความรู้ทางด้านประวัติศาสตร์อะไร เลยไม่อยากที่จะวิพากษ์วิจารณ์อะไรออกมา

แต่สิ่งที่ผมรู้ มวยไทยของเรา มีหลักฐานการบันทึก รูปภาพ การแข่งขัน มาอย่างยาวนานอยู่แล้ว และพวกเราชาวมวยไทยได้ผ่านอุปสรรค ได้ต่อสู้อะไรกันมามากมายกว่าจะมาถึงจุดนี้ จุดที่มวยไทยเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากทุกมุมโลก

สำหรับความคิดผม พวกเรามาไกลเกินกว่าที่จะมาสนใจ ว่าใครจะใช้เราเป็นบันไดในการใช้สร้างชื่อเสียง สร้างเครดิตให้พวกเขา

มวยไทยเป็นกีฬาศิลปะการต่อสู้ที่มีเสน่ห์ มีศักดิ์ศรี มีเอกลักษณ์ มีความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งหาได้ยากจากกีฬาทั่วไปและไม่มีใครเหมือนแน่นอนครับ

'อนุทิน' รุดโคราชพบ 'บุญจง' คืนถิ่นภูมิใจไทย พร้อมส่งชนเด็ก 'กำนันป้อ' หลังชิ่งไปซบ พท.

'ลุงหนู' ลงพื้นที่โคราช พบ 'บุญจง' หลังรีเทิร์น พรรคภูมิใจไทย ชนเด็ก 'กำนันป้อ' ที่หอบกันไปย้ายซบเพื่อไทย

เมื่อวานนี้ (27ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว. สาธารณสุข และ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่นครราชสีมา และได้พบกับ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย 

โดยมีรายงานว่า นายบุญจง จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง และลงสมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 9 แข่งกับ นายอภิชา เลิศพชรกมล อดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่พึ่งลาออกจากพรรคภูมิใจไทย พร้อม นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม ที่มีกระแสข่าวจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย

'ณัฐวุฒิ'​ ปัด 'ทักษิณ'​ แยกสลายเสื้อแดง โบ้ยต้นเหตุมาจาก 'จตุพร'​ ถูกพรรคเพื่อชาติต้ม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่อง "จุดแยกทางแกนนำนปช. ความจริงอีกมุมหนึ่ง เพื่อความครบถ้วนรอบด้าน" โดยระบุว่า “เมื่อมีเหตุการณ์ที่แกนนำ นปช. แยกทางกันออกเป็น 2 ส่วน และการดำรงสภาพขององค์กร นปช.ไม่ได้มีอยู่จริงอีกเลยนับตั้งแต่บัดนั้น หลังจากที่คุณจตุพรในฐานะแกนนำ ออกจากคุกกลางปี 2561 เราก็มีการพบปะ ประชุมกันตามปกติ เพราะวิถีขององค์กร นปช.ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงช่วงเวลานั้น กระทั่งวันหนึ่งคุณจตุพรได้ปรารภหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว ในช่วงที่มีการสังสรรค์กันกับพี่น้องนปช.จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผมนั่งอยู่ในนั้นด้วยว่า ได้ตกลงใจที่จะทำพรรคการเมืองหนึ่งคือ พรรคเพื่อชาติ ร่วมกับนักการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง นำโดยนักการเมืองคนสำคัญ ซึ่งเป็นที่ข่าวปรากฎว่าร่วมกันก่อตั้งพรรคการเมืองกับคุณจตุพร นั่นเอง”

“ผมนั่งฟังจนจบแล้วก็ทักท้วงขึ้นมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มา สำหรับขบวนการของเราที่เดินกันมา เพราะเราไม่เคยคุยกันอย่างจริงจังว่าเราจะตั้งพรรคการเมือง ผมจึงเสนอไปว่าเรื่องนี้ควรต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ถ้าหากไปตกลงกันไว้ก่อน มันไม่ใช่วิถีทางที่เรายึดถือ ปฏิบัติร่วมกันมา บรรยากาศตอนนั้นก็เริ่มกลายเป็นความเห็นไม่ตรงกัน ผมมีเซ้นส์ว่าภารกิจนั้นจะเดินต่อไปด้วยความลำบาก และถึงที่สุดคงไม่ประสบความสำเร็จ จังหวะหนึ่งผมเดินไปเข้าห้องน้ำ พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ ก็เดินตามไป ผมบอกพราหมณ์ว่าเป็นห่วงใยอย่างยิ่งในเรื่องที่เราคุยกัน และเรื่องนี้จะมีการต้มกันครั้งยิ่งใหญ่ ความหมายของผมในตอนนั้นคือระวังกลุ่มที่มาชวนคุณจตุพรนั่นแหละ จะต้มกันและภายหลังก็ทราบว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองนี้มีความขัดแย้งกันอย่างสูง ตั้งแต่ส่งรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งเหตุผลข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างไรผมไม่ก้าวล่วง หลังจากนั้นผมก็เสนอไป 2-3 ครั้งในไลน์กลุ่มของแกนนำนปช.ว่าเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ซึ่งอาจารย์ธิดาก็เห็นตรงกันว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมตามวิถีของเรา แต่ข้อเสนอไม่ได้รับการตอบสนอง ไม่มีการประชุมนัดหมายแกนนำนปช.อีกเลย ขณะที่วาระของพรรคเพื่อชาติก็ยังเดินทางต่อไป”

“เรื่องของพรรคเพื่อชาติ ผมได้ติดต่อไปยังนายกฯทักษิณ ว่าท่านมีแนวทางให้ทำพรรคเพื่อชาติหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีแนวทางดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งอยากตรวจสอบ เราไม่ได้ไปด้วยกับพรรคเพื่อชาติ เพราะไม่ได้มีการหารือกันตั้งแต่ต้น เวลานั้นยังไม่มีเรื่องพรรคไทยรักษาชาติ...ซึ่งเราเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติในภายหลัง โดยการพูดคุยกันได้ข้อสรุปรวมกัน ดังนั้นจุดแยกที่สำคัญขององค์กร นปช.จึงอยู่ที่กระนวนการในการทำงานซึ่งเราไม่ได้รักษาวิถีแห่งเรา ไม่ได้บอกกล่าว ไม่ได้ประชุมใด ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญ นี่เป็นข้อเท็จจริงยังผลให้องค์กรนำของนปช. ไม่คงสภาพอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวก็ผ่านมาหลายปี ผมไม่มีเจตนาจะหาคนถูกคนผิดในเรื่องนี้ แต่เหตุผลของผมก็คือความจริงมันต้องถูกบันทึก และนำเสนอ ผมกับพี่น้องแกนนำนปช.ที่เรายังทำงานการเมืองร่วมกัน เราก็รักษาแนวปฏิบัติเดิม คือมีอะไรเราก็ต้องหารือร่วมกัน เราหันว่าเหตุการณ์ที่เป็นจุดแยกของแกนนำนปช.เป็นเรื่องสำคัญต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ให้ครบถ้วนรอบด้าน"

ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า "ในช่วงที่ติดคุกนั้น มีคนทักษิณไปเยี่ยมตลอด และพูดให้มาช่วยพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 เพื่อเอาคะแนนไปเติมให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ตนบอกให้ทักษิณการันตีจึงจะไป เมื่อออกจากคุกทักษิณก็โทรศัพท์มาการันตี ขณะเดียวกันก็เอา นปช.อีกส่วนหนึ่งไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไปคนละทาง แล้วต้องมาโกรธกันจริงจังเลยในตอนนี้ ส่วนคนที่เดินเกมที่เป็นคนของทักษิณ ก็เอาลูกไปอยู่ไทยรักษาชาติ แล้วตัวเองมาอยู่เพื่อชาติที่ชวนผมไปช่วยหาเสียง ขณะเดียวกันก็ดึงคนที่อยู่เพื่อไทยไปอยู่ไทยรักษาชาติ คนหนึ่งถูกหลอกมาเป็นแคนดิเดทนายกฯ ส่วนเพื่อไทยเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแคนดิเดทนายกฯ โดยที่ไม่บอกว่า ไทยรักษาชาติจะเสนอใครเป็นแคนดิเดทนายกฯ"

"เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว แต่ดิ้นไม่ออกต้องบากหน้าเดินหาเสียงให้เพื่อชาติไปจนจบ แล้วประกาศเลิกลากันไป ทั้งที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ครอบครัวเดือดร้อนสาหัส ยิ่งกว่านั้น ขบวนการเสื้อแดงถูกเกมทักษิณแยกสลาย และก็ทำได้ด้วย ที่สำคัญมีบาดแผลยากเยียวยา แล้วต้องแยกกันตลอดกาล เราพยายามเจอกันบ้างเวลาขึ้นศาลมีคดี"

ฮูยา!! เปิดตัวเลือดใหม่นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล 'บิ๊กปาน' ประธานมอบปีกเชิดชูเกียรติรุ่นที่ 1

(28 ม.ค.66) พลเรือเอก เชษฐา ใจเปี่ยม (บิ๊กปาน) อดีตโฆษกกองทัพเรือ เป็นประธานพิธีประดับเครื่องหมาย "นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล" และมอบใบประกาศนียบัตร ให้กับผู้สำเร็จหลักสูตรนักกู้ภัยทางน้ำทางทะเล (RESCUE SWIMMER) ของชมรมกู้ภัยทางน้ำทางทะเล (SEA RESCUE) 

โดยมี นาวาเอก พรพิชิต สุวรรณศิริ ผอ.โรงเรียนนาวิกเวชกิจ กรมแพทย์ทหารเรือ, เรือเอก ดร.ฐาพล สมสกุล ประธานชมรมกู้ภัยทางน้ำทางทะเล ผอ.หลักสูตรและอำนวยการฝึก คณะครูฝึก และนักเรียนผู้สำเร็จการฝึก พร้อมแขกผู้มีเกียรติร่วมพิธี ณ หอประชุม โรงเรียนนาวิกเวชกิจ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ กรุงเทพฯ

เรือเอก ดร.ฐาพล เปิดเผยถึงเจตนารมณ์ว่า เริ่มแรกต้องการช่วยบรรเทาภัยพิบัติทางน้ำทางทะเลที่มีความรุนแรงและมีความถี่ที่เพิ่มขึ้นภายใต้เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ทั้งจากคลื่นความร้อนสุดขั้ว การพังทะลายของระบบนิเวศปะการัง ระดับน้ำทะเลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 15% กระทั่งยกระดับกลายเป็นวิกฤติสภาพภูมิอากาศของโลก ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือพายุ ได้สร้างความสูญเสียชีวิต เกิดความเสียหายมหาศาลที่ไม่อาจประเมินค่าหรือทดแทนได้ด้วยการชดเชยผลประโยชน์อื่นๆ จึงมีปณิธานก่อตั้งชมรมฯ และสร้างหลักสูตรเกี่ยวกับการกู้ภัยทางน้ำทางทะเลขึ้น 

วัตถุประสงค์หลักเพื่อผลิตนักกู้ภัยทางน้ำทางทะเลให้มีทักษะความเชี่ยวชาญ สามารถตอบโต้ต่อสถานการณ์ฉุกเฉินทางทะเลได้อย่างทันท่วงทีและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้ความร่วมมือกับเครือข่ายพัฒนาความเข้มแข็งต่อภัยพิบัติไทย (TNDR) เพื่อให้ขับเคลื่อนแนวทางการพัฒนาทักษะการกู้ภัยทางน้ำทางทะเลให้กับอาสาสมัครผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม ที่มีทั้งข้าราชการพลเรือน ทหารเรือ ทหารบก ทหารอากาศ ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิการกุศลหลายแห่ง ได้อุทิศตนเข้าร่วมการฝึกที่หนักหน่วงระหว่างวันที่ 16 - 19 พ.ย.65 ในพื้นที่การฝึกทั้งภาคบก และภาคทะเล ณ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนบรรลุเป้าหมายสำเร็จการฝึกเป็นรุ่นที่ 1 

"ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมจัดการฝึกในรุ่นที่ 2 สร้างศักยภาพที่ต่อเนื่อง เบื้องต้นอาจเป็นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยนำร่องโมเดลจังหวัดชายทะเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อเป็นกำลังภาคจิตอาสาสนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่น เสริมสร้างพื้นที่เศรษฐกิจชายทะเลที่เข้มแข็งเพิ่มความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวทะเลไทย" เรือเอก ดร.ฐาพล กล่าวย้ำเป้าหมายต่อไป

ด้านเรือเอก ดร.ฐาพล กล่าวด้วยว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้กระทำคุณประโยชน์ที่ได้สนับสนุนหลักสูตรฯ โดยคณะกรรมการชมรมฯ ได้พิจารณามอบเครื่องหมาย "นักกู้ภัยทางน้ำทางทะเลกิตติมศักดิ์" และใบประกาศนียบัตร ให้ทุกท่านที่ผ่านการเลือกสรรจากการให้ความช่วยเหลือชมรมฯ ในด้านต่างๆ จนเป็นที่ประจักษ์และซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งในความเสียสละของท่าน และต้องขอขอบคุณข้าราชการจิตอาสา และอาสาสมัครทุกคน ทุกหน่วยงาน ทุกสังกัดที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาร่วมฝึกทักษะการกู้ภัยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำทางทะเลในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ที่สำคัญเราทุกคนต้องช่วยกันกอบกู้วิกฤติสภาพภูมิอากาศในวันนี้เพื่อสร้างโลกที่ปลอดภัยและยั่งยืนของทุกคนในอนาคต

สวนนงนุชพัทยาจัดโปรโมชันต้อนรับเดือนแห่งความรักมา 4 จ่าย 2 พิเศษสุดท่านที่ 5 ขึ้นไป ลด 50%

สวนนงนุชพัทยา นำโดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยาประกาศโปรโมชันพิเศษ สำหรับเดือนกุมภาพันธ์เดือนแห่งความรัก เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบไทยเที่ยวไทย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มา 4 ท่านจ่ายแค่เพียง 2 ท่าน เฉพาะซื้อบัตรผ่านประตูเท่านั้น พิเศษสุดสำหรับคนที่ 5 ขึ้นไปซื้อบัตรผ่านประตูลด 50% โปรโมชันนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1- 28 กุมภาพันธ์ 2566

ส่วนท่านที่สนใจเข้าชมการแสดงนงนุชโชว์ และการแสดงช้างแสนรู้ สามารถซื้อบัตรเพิ่มในราคา 100 บาทต่อท่านโดยเปิดให้ชมวันละ 3 รอบ รอบเช้า 10.30 น. รอบบ่าย 13.30 และ 15.00 น. สำหรับเด็กๆ ที่มากับครอบครัวสูงไม่เกิน 140 ซม. เข้าชมสวนฟรีทุกวัน ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเข้าชมสวนฟรีทุกวันศุกร์ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top