Tuesday, 1 July 2025
ค้นหา พบ 49115 ที่เกี่ยวข้อง

จับตา 'อิ๊งค์-เศรษฐา' 2 ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ร่วมลงพื้นที่ พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่านเยาวราช

(21 ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีกำหนดการลงพื้นที่เยาวราช เพื่อพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจที่มูลนิธิเทียนฟ้า รวมถึงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดเล่งเน่ยยี่ (วัดมังกรกมลาวาส) ในวันที่ 21 ม.ค.นี้

Enemies in Love ตำนานรักต้องห้ามของ ‘Powell- Albert’ ในยุคที่การ ‘เหยียดสีผิว-เชื้อชาติ’ รุนแรง

Alexis Clark ผู้เขียน

สวัสดีครับนักอ่านทุกท่าน วันนี้ผม ดร.โญธิน มานะบุญ มีเรื่องราวอันเป็น ‘ตำนานรักต่างสีผิวและเชื้อชาติ’ ที่เป็นรักแท้และสุดที่จะลึกซึ้งมาเล่าให้ฟังครับ ความพิเศษของเรื่องนี้คือเป็นเรื่องราวความรักต้องห้ามที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเรื่องราวรักต้องห้ามนี้ถูกเรียบเรียงขึ้นโดย Alexis Clark 

ก่อนจะเข้าเรื่องขอยกคำนำของหนังสือเล่มนี้ของ Darren Walker ประธานมูลนิธิฟอร์ดที่เคยกล่าวไว้ว่า “Enemies in Love ไม่ใช่เรื่องสั้นที่เล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เราคิดว่าเรารู้ แต่ Alexis Clark ได้เล่าเรื่องราวที่เราไม่เคยรู้เลยเกี่ยวกับเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกา โดยเล่าผ่านเรื่องราวความรักที่น่าเหลือเชื่อ (แต่เป็นความจริงและยากจะลืมเลือน)”

Enemies in Love เป็นเรื่องราวความรักต่างเชื้อชาติที่เกิดขึ้นระหว่าง ‘Elinor Powell’ นางพยาบาลชาวอเมริกัน-แอฟริกันที่ทำงานในกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับ Frederick Albert นายทหารเสนารักษ์ในกองทัพ NAZI ของ Hitler ซึ่งถูกฝ่ายสัมพันธมิตรจับตัวได้ในอิตาลี และส่งไปยังค่ายเชลยศึกกลางทะเลทรายแอริโซนา 

เช่นเดียวกับพยาบาลผิวสีคนอื่น ๆ Elinor ได้รับมอบหมายให้ทำงานระดับรองในเมืองทางตะวันตกที่เต็มไปด้วยฝุ่น แดดอบอ้าว และความโดดเดี่ยว โดยกองทัพสหรัฐฯ คิดว่า โอกาสที่พยาบาลผิวดำกับเชลยศึกผิวขาวชาวเยอรมันจะรักกันนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และไม่มีวันเกิดขึ้น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว Elinor และ Frederick กลับมีความสัมพันธ์ต่อกัน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในยุคที่การเหยียดเชื้อชาติรุนแรงมาก อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ดูเหมือนเหตุการณ์แวดล้อมจะไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาแม้แต่นิด เรื่องราวความรักของ Elinor และ Frederick ถูกนำมาเขียนเรียบเรียงโดย Alexis Clark นักข่าว ผู้ซึ่งทำการสัมภาษณ์และการวิจัยทางประวัติศาสตร์เป็นเวลาหลายปี และได้ปะติดปะต่อเรื่องราวที่น่าทึ่งนี้ออกมาเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้

โดยรายละเอียดของเรื่องราวนี้ ระบุไว้ว่า... ‘Elinor Powell’ เป็นพยาบาลชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่เข้าร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1944 ซึ่งตรงกับช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เธอเป็นหนึ่งในพยาบาลผิวสีเพียง ๓๐๐ คนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมหน่วยพยาบาลกองทัพบกภายใต้โควตาที่เข้มงวด ทั้งนี้เธอได้รับยศร้อยตรีในหน่วยพยาบาลของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่ค่ายเชลยศึกฟลอเรนซ์ มลรัฐแอริโซนา โดยเธอต้องช่วยเหลือดูแลเชลยสงครามซึ่งเป็นทหารเยอรมันนาซีที่ถูกจับในยุโรปและแอฟริกาเหนือด้วย

เนื่องจากมีกฎว่าพยาบาลผิวสีไม่มีสิทธิ์ให้การรักษาทหารอเมริกันผิวขาวจนกว่าจะถึงปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1945) แต่เพราะกองทัพกลัวว่า พยาบาลผิวขาวและทหารซึ่งเป็นเชลยสงครามจะมีความสัมพันธ์กัน จึงได้เปลี่ยนให้พยาบาลผิวสีเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในค่ายเชลยศึกฟลอเรนซ์แทนโดยต้องทำงานภายใต้กฎที่เข้มงวด

'บิ๊กตู่' อวยพรตรุษจีน “สุขสมหวัง ร่ำรวยตลอดปี” เดินทางท่องเที่ยวปลอดภัย

(21 ม.ค.66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อวยพรพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนทั่วประเทศ เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนประจำปี 2566 ให้มีความสุข มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ทำมาค้าขายประกอบอาชีพด้วยความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ขอให้เฉลิมฉลองตรุษจีนด้วยความสุข รวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวเทศกาลตรุษจีนอย่างปลอดภัย มีน้ำใจกับเพื่อนร่วมทาง เพื่อให้เทศกาลตรุษจีนนี้ เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีความสุขอย่างแท้จริง 

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะได้ระลึกถึงสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีน มิตรภาพ ความผูกพัน และความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าไทยและจีนจะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และก้าวข้ามผ่านความท้าทายต่าง ๆ ได้ด้วยดี พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีชื่นชมมิตรภาพความสัมพันธ์ไทยจีนเสมอมา ซึ่งเป็นความร่วมมือทวิภาคีที่มีพลวัตอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือกันในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจและสังคมเพื่อเดินหน้าสู่การพัฒนาร่วมกันต่อไป

'ชัยวุฒิ' เตือน ปชช. 'อย่าโอน-กดแอปฯ-ลิงก์' หลอกลวง แนะตรวจสอบทุกครั้ง ขู่!! คนรับเปิดบัญชีม้า ผิดด้วย!!

'ชัยวุฒิ' เตือน ปชช. รู้ทันโซเชียล 'อย่าโอนไว-อย่าหลงเชื่อกดแอปฯ-กดลิงค์' หลอกลวง แนะ ตรวจสอบทุกครั้ง ขู่!! คนรับเปิดบัญชีม้า มีความผิดด้วย แย้ม!! เร่งระบบดิจิทัลไอดี ยืนยันตัวตนออนไลน์ อำนวยความสะดวก งานบริการ 

(21 ม.ค.66) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในรายการ 'คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี' ทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทยและเฟซบุ๊ก Radio Thailand Live ถึงประเด็นเรื่องบัญชีม้า อาชญากรรมออนไลน์ สมาร์ตซิตี้ และฟรี Wi-Fi ว่า...

ประเทศไทยมีนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในการวางโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ต วันนี้กว่า 80% สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตสื่อสารออนไลน์ เช่น การใช้โมบายแบงกิ้ง พร้อมเพย์ เพื่อให้โอนเงินง่าย แต่ก็ทำให้โดนหลอกจำนวนมาก 

โดยปีที่ผ่านมาเราเปิดระบบแจ้งความออนไลน์ พบว่ามีการแจ้งเรื่องว่าแสนคดี เฉลี่ยหมื่นคดีต่อเดือน ทั้งหลอกลงทุน คอลเซ็นเตอร์ข่มขู่ ซื้อขายออนไลน์ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขโดยมีตำรวจไซเบอร์ ดูแลประชาชนแต่ยังเป็นไปในเชิงป้องกัน ตั้งรับส่วนใหญ่ 

และแม้จะอายัดบัญชี แต่ตามเงินกลับได้ประมาณ 10% ส่วนอื่นๆ เมื่อเส้นทางไปต่างประเทศ ก็ยากที่จะติดตาม เพราะมีการหลอกให้เปิดบัญชีม้า โอนเงินหลายชั้น ไปต่างประเทศ หรือในประเทศก็ใช้เวลานานกว่าจะได้คืน และคนที่โอนง่ายคือคนไม่มีภูมิต้านทาน เห็นจากภาพในโซเชียล แล้วหลงเชื่อไปรับเปิดบัญชีม้า 

ขณะนี้เราเร่งตรวจสอบ สกัดกั้น เพื่อหยุดขบวนการหลอกลวงออนไลน์ ที่ต้องหยุดที่การรับบัญชีม้า โดยหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยกเลิกการบัญชีที่เปิดแทนกัน รวมถึงหยุดการโอนเงินที่ผิดปกติ โดยกระทรวงดีอร ได้เสนอแก้กฎหมาย ให้ธปท.สามารถระงับบัญชีได้รวดเร็ว เมื่อทำได้ดีอีจะมีเอไอตรวจสอบระบบทั้งหมด เพื่อสกัดการเดินบัญชีม้า นอกจากนั้นจะใช้กฎหมายเข้มข้นโดยเจ้าหน้าที่จะจับกุมคนเปิดบัญชีแทน เพราะเป็นการขายบัญชีเปิดทางให้มิจฉาชีพ จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้และฟังไม่ขึ้น จึงเตือนประชาชนใครที่รับจ้างเปิดให้ไปยกเลิกบัญชี วันนี้ถ้าตรวจสอบพบมีชื่อจะจับทุกคน และให้ไปประกันตัวในศาล เพราะรู้อยู่แล้วการเอาชื่อไป จะต้องทำสิ่งที่ไม่ดีเพราะคนดีๆ ใครจะมาขอให้เปิดบัญชีให้ ทั้งนี้เราเข้มงวดในการตรวจสอบ โดยมีการตั้งตำรวจไซเบอร์ และวางเป้าหมาย 2,000 คน เพื่อจะหยุดบัญชีให้เร็วขึ้น แม้คนร้ายจะปรับตัวตามและเราไม่สามารถไปห้ามการโทรศัพท์หรือโซเชียลได้ เพราะเป็นเสรีภาพประชาชน ดังนั้นต้องให้ความรู้ประชาชน ให้มีภูมิต้านทาน อย่าเชื่อโซเชียลหรือกดลิงค์ในแอป ต้องตรวจสอบจากต้องทางเซ็บไซด์ ก่อนทุกครั้ง

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนปัญหาพนันออนไลน์ ที่เกิดกับเยาวชน ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอว.เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ สร้างเครือข่ายเปลี่ยนจากตั้งรับให้ทำเชิงรุก ให้มีตำรวจชุมชนเข้าไปให้ความรู้เพราะไม่ใช่ชาวบ้านเท่านั้นที่ถูกหลอก แต่คนมีความรู้ หมอ ยังโดนหลอก รวมถึงกรณีส่งเอสเอ็มเอสหลอกลวง เข้าไปแฮกข้อมูล ที่มีหลายรูปแบบ มีการปลอมชื่อธนาคาร เว็บไซต์ จึงพยายามประชาสัมพันธ์องค์กรหรือหน่วยงานให้ตรวจสอบ และประชาชนอย่าเข้าไปกดลิงค์ที่ไม่รู้จัก ที่มีมัลแวร์หลอกให้กรอกข้อมูล ให้กดลิงค์ส่งพัสดุ โดยให้ดูที่แพลตฟอร์มแอปและตรวจสอบจากต้นทางก่อนทุกครั้ง

นอกจากนั้นปัญหาหลอกซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้ของ มีร้องเรียนเยอะที่สุด 80-90% มาจากเฟซบุ๊ก ดังนั้นการทำการค้าในโซเชียลให้ระวัง ถ้าไม่รู้จักร้านค้า ไม่เคยติดต่อกันอย่าไปยุ่ง เพราะในเฟซบุ๊กพบมิจฉาชีพแฝงตัวเยอะมาก จึงแนะนำให้ซื้อจากแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ซื้อของฝากระบบคนกลาง และที่สำคัญอย่าเชื่อหลอกให้กู้เงิน ขายของราคารถูก ชักชวนลงทุนได้เงินจำนวนมาก การจ้างงานต่างๆ ทั้งนี้หากประชาชนเกิดปัญหาก่อนหรือหลัง สามารถปรึกษาที่สายด่วน 1212 หรือแจ้งความออนไลน์ ย้ำว่าอย่าโอนเงินให้ใคร เพราะเงินอยู่กับเราเป็นเงินเรา อยู่กับเขาเป็นเงินเขา

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ส่วนการลักลอบใช้เน็ตข้ามประเทศ โดยคนร้ายจากบริเวณชายแดน เช่น ปอยเปต แอบซื้อเน็ตจากประเทศไทย แล้วเดินสายต่อข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ไปใช้ผิดกฎหมาย การพนันออนไลน์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อตรวจสอบแล้วจึงตัดสาย สกัดพนันออนไลน์ในระดับหนึ่ง แต่คนร้ายสามารถใช้เน็ตในประเทศของเขาใช้ทำสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทย เมื่อพบกระทำผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดำเนินการจับกุม

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขณะที่ความคืบหน้าเน็ตประชารัฐ ให้พื้นที่ห่างไกลมีใช้ทุกหมู่บ้าน ดำเนินการไปกว่า 4 หมื่นหมู่บ้าน แต่ยังไม่พอและต้องทำเรื่อยๆ โดยเฉพาะนักเรียนในชนบทที่ไม่สามารถเข้าถึงได้เท่ากับในเมือง ขาดอุปกรณ์ในการเข้าถึงจึงเกิดความเหลื่อมล้ำ เพราะคนที่มีอุปกรณ์สามารถไปไกลกว่า จึงคิดโครงการมอบอุปกรณ์ประมาณ 1 ล้านเครื่อง ให้เด็กที่ฐานะไม่ดี สามารถนำไปใช้ในการเรียน โดยคุยกับกระทรวงศึกษาธิการถึงการดำเนินการในเรื่องนีแล้ว นอกจากนั้นมีแนวคิดจะทำในชุมชนเมือง ให้ผู้ที่มีรายได้น้อย มีฟรีไวไฟในชุมชนมากขึ้นด้วย

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการขับเคลื่อนดิจิทัลไอดี ยืนยันตัวตนออนไลน์ ผ่านการแสกนใบหน้า โดยไม่ใช้บัตรประชาชน เพื่อขับเคลื่อนการติดต่อธุรกรรมให้ง่ายขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาระบบ และโปรโมทให้ใช้ในเดือนก.พ.นี้ โดยลงทะเบียนกรมการปกครอง หรือทางสำนักงานเขตเพื่อเก็บข้อมูลในระบบออนไลน์ สามารถใช้ยืนยันตัวตนกับเรื่องต่างๆออนไลน์ รวมถึงเปิดบัญชีธนาคาร เปิดซิมมือถือ ย้ายทะเบียนบ้าน สร้างบ้าน ขึเนเครื่องบิน ที่จะต้องตรวจดูบัตรประชาชน มาเป็นระบบออนไลน์ ซึ่งเป้าหมายสูงสุดสามารถโอนที่ดินได้ 

ส่วนที่เป็นห่วงว่าระบบดังกล่าวจะเปิดช่องทางมิจฉาชีพเขเาถึงง่ายนั้น ในทางตรงข้ามสามารถตรวจสอบตัวตนบุคคลได้จริง ต่างกับบัตรประชาชน ซึ่งตนจะหารือกับนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เพื่อนำมาดิจิทัลไอดี มาใช้ทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และจะสอดคล้องกับสมาร์ตซิตี้ กระจายความเจริญ คือทำให้ทุกเมืองเป็นสมาร์ทซิตี้ ใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วย และปรพชาชนไม่ต้องเข้ามาอาศัยในเมือง เพราะมีระบบสาธารณูปโภค รักษาพยาบาล จ้างงาน ทำให้ทุกจังหวัดเท่าเทียมกัน จะขณะนี้มีการจัดทำระบบบัญชีกลางดิจิทัล ในจัดซื้อจัดจ้างง่ายขึ้นเพื่อดำเนินงานสมาร์ทซิตี้ในแต่ละจังหวัด โดยไม่ต้องกลัวการตรวจสอบโดนร้องตามมา ซึ่งได้เสนอเข้าครม.แล้ว

นายชัยวุฒิ ตอบคำถามถึงกรณีการเปิดซิมโทรศัพท์มือถือที่จะเปิดหลายซิม สามารถทำได้หรือไม่ ว่า ตามระบบ 1 คน ต่อ 5 ซิม แต่หากจะเปิดเกินให้ลงทะเบียนที่ศูนย์บริการ เพราะบางรายที่ซื้อซิมจำนวนมากไปขายต่อไป และมิจฉาชีพซื้อไปนำไปใช้ผิดกฎหมาย เราอยากยกเลิกให้หมด ดังนั้นใครมีเกิน100 ซิม ให้มาจดแจ้งกับโอเปอร์เรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายนั้นๆ รับทราบ

เมื่อถามถึงเว็บพนันในมาเก๊า และการพนันออนไลน์ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การพนันกับคนไทยอยู่คู่กัน เล่นในประเทศเพื่อนบ้านไม่ผิดกฎหมาย แต่ในบ้านเราผิดกฎหมาย ดังนั้นตำรวจจะต้องดำเนินการ ขณะนี้ได้ปิดกั้น 7 ยูอาร์แอลที่เป็นเว็บพนัน และจะตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนให้เข้าเว็บในประเทศไทย โดยสังเกตนามสกุล 'ดอททีเอช' และอย่าเข้าแอปฯปลอมที่มีประมาณ 200 แอปฯ ที่จะเข้ามาดูดข้อมูลมือถือ แล้วไปดูดเงินภายหลัง 

'ทิพานัน' แจ้งข่าวดี 'ชาวลพบุรี-นครสวรรค์' รถไฟทางคู่ช่วง 'ลพบุรี–ปากน้ำโพ' คาดเสร็จปีนี้

'ทิพานัน' แจ้งข่าวดีชาวลพบุรี-นครสวรรค์ รถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี–ปากน้ำโพ คาดแล้วเสร็จภายในปีนี้ ชูเป็นผลงาน 'พล.อ.ประยุทธ์' พลิกโฉมการขนส่งทางรางไทย เดินทางรวดเร็ว ยกระดับการขนส่งและโลจิสติกส์ กระตุ้นการค้าขาย ท่องเที่ยวภาคเหนือ-อีสาน

(21 ม.ค.66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าและทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบขนส่งทางราง ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางและขนส่ง มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้การดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งธุรกิจ การค้า การลงทุน เป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เสริมศักยภาพด้านเศรษฐกิจการค้าและโลจิสติกส์ เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในภูมิภาค ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาได้อย่างเต็มที่โดยได้ผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ งบประมาณก่อสร้าง จำนวน 21,467 ล้านบาท ผ่านมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง รองรับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น และลดระยะเวลาในการเดินทางและการขนส่งสินค้า เพื่อเร่งยกระดับให้บริการโลจิสติกส์สู่พื้นที่ภาคเหนือ

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่ขนานไปกับทางรถไฟเส้นเดิมของช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ รวมระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร โดยส่วนใหญ่อยู่ในเขตทางรถไฟและเป็นทางวิ่งระดับพื้นระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร และทางช่วงเลี่ยงเมืองลพบุรีเป็นโครงสร้างทางรถไฟยกระดับ ระยะทางประมาณ 29 กิโลเมตร ประกอบด้วยงานก่อสร้างรถไฟทางคู่ จำนวน 2 สัญญา และงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม 

สัญญาที่ 1 ได้แก่ ช่วงบ้านกลับ – โคกกระเทียม เป็นการเป็นก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ใหม่ เพื่อเบี่ยงแนวเส้นทางเดิมช่วงที่ผ่านเข้าตัวเมืองลพบุรี ระยะทาง 29 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีบ้านกลับ จังหวัดสระบุรี สิ้นสุดบริเวณสถานีโคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี ประกอบด้วย ทางรถไฟยกระดับ 23 กิโลเมตร และทางรถไฟระดับพื้นดิน 6 กิโลเมตร เดือนธันวาคม 2565 ก้าวหน้าไปแล้ว 81.72%

สัญญาที่ 2 ช่วง ท่าแค – ปากน้ำโพ เป็นงานก่อสร้างทางรถไฟใหม่เพิ่มอีก 1 ทาง ขนานไปกับเส้นทางรถไฟเดิม ระยะทาง 116 กิโลเมตร เริ่มต้นที่บริเวณสถานีท่าแค จังหวัดลพบุรี โดยก่อสร้างตามแนวเส้นทางรถไฟเดิม สิ้นสุดบริเวณสถานีปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ เดือนธันวาคม ก้าวหน้าไปกว่า 75.60 %

ส่วนงานติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและโทรคมนาคม เดือนธันวาคม มีความก้าวหน้า 26.33% ทั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการพัฒนารถไฟทางคู่ใหม่ รูปแบบการพัฒนาทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทางขนานไปกับทางรถไฟเดิม ในส่วนของการออกแบบก่อสร้างสถานียังคงเอกลักษณ์ท้องถิ่นเป็นหลัก มีการนำสถาปัตยกรรมท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ เพื่อให้เกิดความสวยงามและกลมกลืนกับสภาพภูมิประเทศ ผสมผสานกับความทันสมัยและความคิดสร้างสรรค์ทั้งสถานีขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก เน้นความปลอดภัย ง่ายต่อการขนส่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันเพื่อสนับสนุนการเดินทางของประชาชน และการคมนาคมขนส่งของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจ และมีการอนุรักษ์อาคารสถานีรถไฟเดิมทุกสถานี โดยคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในปี 2566 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top