Enemies in Love ตำนานรักต้องห้ามของ ‘Powell- Albert’ ในยุคที่การ ‘เหยียดสีผิว-เชื้อชาติ’ รุนแรง

Alexis Clark ผู้เขียน

สวัสดีครับนักอ่านทุกท่าน วันนี้ผม ดร.โญธิน มานะบุญ มีเรื่องราวอันเป็น ‘ตำนานรักต่างสีผิวและเชื้อชาติ’ ที่เป็นรักแท้และสุดที่จะลึกซึ้งมาเล่าให้ฟังครับ ความพิเศษของเรื่องนี้คือเป็นเรื่องราวความรักต้องห้ามที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเรื่องราวรักต้องห้ามนี้ถูกเรียบเรียงขึ้นโดย Alexis Clark 

ก่อนจะเข้าเรื่องขอยกคำนำของหนังสือเล่มนี้ของ Darren Walker ประธานมูลนิธิฟอร์ดที่เคยกล่าวไว้ว่า “Enemies in Love ไม่ใช่เรื่องสั้นที่เล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่เราคิดว่าเรารู้ แต่ Alexis Clark ได้เล่าเรื่องราวที่เราไม่เคยรู้เลยเกี่ยวกับเชื้อชาติในสหรัฐอเมริกา โดยเล่าผ่านเรื่องราวความรักที่น่าเหลือเชื่อ (แต่เป็นความจริงและยากจะลืมเลือน)”

Enemies in Love เป็นเรื่องราวความรักต่างเชื้อชาติที่เกิดขึ้นระหว่าง ‘Elinor Powell’ นางพยาบาลชาวอเมริกัน-แอฟริกันที่ทำงานในกองทัพสหรัฐฯ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับ Frederick Albert นายทหารเสนารักษ์ในกองทัพ NAZI ของ Hitler ซึ่งถูกฝ่ายสัมพันธมิตรจับตัวได้ในอิตาลี และส่งไปยังค่ายเชลยศึกกลางทะเลทรายแอริโซนา 

เช่นเดียวกับพยาบาลผิวสีคนอื่น ๆ Elinor ได้รับมอบหมายให้ทำงานระดับรองในเมืองทางตะวันตกที่เต็มไปด้วยฝุ่น แดดอบอ้าว และความโดดเดี่ยว โดยกองทัพสหรัฐฯ คิดว่า โอกาสที่พยาบาลผิวดำกับเชลยศึกผิวขาวชาวเยอรมันจะรักกันนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และไม่มีวันเกิดขึ้น

แต่ในความเป็นจริงแล้ว Elinor และ Frederick กลับมีความสัมพันธ์ต่อกัน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในยุคที่การเหยียดเชื้อชาติรุนแรงมาก อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ดูเหมือนเหตุการณ์แวดล้อมจะไม่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของพวกเขาแม้แต่นิด เรื่องราวความรักของ Elinor และ Frederick ถูกนำมาเขียนเรียบเรียงโดย Alexis Clark นักข่าว ผู้ซึ่งทำการสัมภาษณ์และการวิจัยทางประวัติศาสตร์เป็นเวลาหลายปี และได้ปะติดปะต่อเรื่องราวที่น่าทึ่งนี้ออกมาเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้

โดยรายละเอียดของเรื่องราวนี้ ระบุไว้ว่า... ‘Elinor Powell’ เป็นพยาบาลชาวแอฟริกัน-อเมริกันที่เข้าร่วมกองทัพสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1944 ซึ่งตรงกับช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เธอเป็นหนึ่งในพยาบาลผิวสีเพียง ๓๐๐ คนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมหน่วยพยาบาลกองทัพบกภายใต้โควตาที่เข้มงวด ทั้งนี้เธอได้รับยศร้อยตรีในหน่วยพยาบาลของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่ค่ายเชลยศึกฟลอเรนซ์ มลรัฐแอริโซนา โดยเธอต้องช่วยเหลือดูแลเชลยสงครามซึ่งเป็นทหารเยอรมันนาซีที่ถูกจับในยุโรปและแอฟริกาเหนือด้วย

เนื่องจากมีกฎว่าพยาบาลผิวสีไม่มีสิทธิ์ให้การรักษาทหารอเมริกันผิวขาวจนกว่าจะถึงปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1945) แต่เพราะกองทัพกลัวว่า พยาบาลผิวขาวและทหารซึ่งเป็นเชลยสงครามจะมีความสัมพันธ์กัน จึงได้เปลี่ยนให้พยาบาลผิวสีเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในค่ายเชลยศึกฟลอเรนซ์แทนโดยต้องทำงานภายใต้กฎที่เข้มงวด

ขณะปฏิบัติหน้าที่ในค่ายเชลยศึก Elinor Powell พบรักกับ Frederick Albert ทหารเสนารักษ์เยอรมันจากกรุงเวียนนาที่ถูกจับตัวไปในอิตาลี โดยพวกเขาพบเจอกันในห้องครัว เนื่องจาก Albert ได้รับมอบหมายให้เป็นพ่อครัว

ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาถือเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก เพราะความสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลกับเชลยศึกเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในเวลานั้น และอาจทำให้เธอถูกศาลทหารตัดสินได้ และเสี่ยงที่จะเจอผลกระทบทางกฎหมายอื่น ๆ แต่พวกเขาก็เต็มใจที่จะเสี่ยงเพื่อความรักของพวกเขา

หลังสงครามสิ้นสุดลง Albert ได้รับการปล่อยตัวและเนรเทศกลับประเทศในเดือนเมษายน ค.ศ. 1946 ซึ่งขณะนั้น Powell กำลังตั้งครรภ์บุตรชายคนหนึ่ง เป็นเหตุให้ Albert ได้รับวีซ่าและกลับมาแต่งงานในนครนิวยอร์กในปีถัดมา

พวกเขาสร้างครอบครัวและย้ายไปอยู่ในนครบอสตัน แต่ด้วยการเหยียดเชื้อชาติยังรุนแรงอยู่ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติเนื่องจากพวกเขาแต่งงานข้ามเชื้อชาติ 

พวกเขาจึงตัดสินใจย้ายไปเยอรมนี แต่ก็ไม่มีผลดีไปกว่ากัน จึงกลับไปตั้งถิ่นฐานในมลรัฐคอนเนตทิคัต พวกเขาใช้ชีวิตด้วยกันยี่สิบห้าปีก่อนที่ศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกาจะตัดสินให้การแต่งงานของชนต่างเชื้อชาติถูกต้องตามกฎหมาย 

Chris Albert ลูกชายคนเล็กของทั้งสองเป็นนักดนตรีของวง Duke Ellington Orchestra

Albert เสียชีวิตในปี ค.ศ. 2001 เมื่ออายุได้ ๗๕ ปี และ Powell เสียชีวิตในปี ค.ศ. 2005 เมื่อเธออายุได้ ๘๕ ปี พวกเขามีลูกชายสองคนคือ Steven และ Chris ซึ่งต่อมา Chris เป็นนักดนตรีของวง Duke Ellington Orchestra พวกเขาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนกระทั่งเสียชีวิต พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักไม่มีขอบเขตและสามารถเอาชนะได้แม้กระทั่งบรรทัดฐานทางสังคมที่มีทั้งการกดขี่และแปลกแยก

Enemies in Love จึงเป็นหนังสือที่ดึงดูดความสนใจของคนอเมริกันทั้งชาติ โดยวาดฉากความฝันที่เลื่อนลอยและความรักที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เรื่องราวของคนทั้งสองเป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังถึงความกล้าหาญและความแน่วแน่ที่จะยืนหยัดต่อสู้กับการเลือกปฏิบัติและอคติ แสดงว่า ไม่ว่าจะมีอุปสรรคอย่างไร รักแท้ย่อมมีทางออกเสมอ

และไม่ใช่เพียงแต่เป็นแค่เรื่องราวของผู้หญิงที่กล้าหาญเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังแห่งความรักที่อยู่เหนือขอบเขตทางเชื้อชาติและสังคม เรื่องราวของ Elinor Powell เป็นเครื่องเตือนใจว่าแม้จะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากมากมายเพียงใดก็ตาม แต่ความรักก็สามารถพิชิตทุกสิ่งได้