Saturday, 12 July 2025
ค้นหา พบ 49357 ที่เกี่ยวข้อง

‘โรเซ่ แบล็กพิงก์’ เผยของโปรดในไทย คือ ‘มะม่วงน้ำปลาหวาน’ ทำเอาชาว Blink เห็นแล้วน้ำลายสอ

หลังจากที่ ‘ลิซ่า ลลิษา มโนบาล’ เพื่อนร่วมวง ‘BlackPink’ เคยทำลูกชิ้นยืนกินขายดีถล่มทลายเป็นกระแสไปทั่วประเทศ รวมถึงขนมโรตีสายไหม หลังจากที่ให้สัมภาษณ์และโพสต์ลงไอจีไป ล่าสุดทาง ‘โรเซ่’ สาวเอวบางร่างน้อยแต่รักการกิน ก็ทำเอาชาว Blink น้ำลายสอเตรียมควักกระเป๋ากันบ้าง หลังเจ้าตัวเผยของโปรดที่ไม่ใช่ ผัดไทย, ต้มยำกุ้ง ,ปูผัดผงกะหรี่ หรือ น้ำแตงโมปั่น แบบที่ไอดอลเค-ป็อปนิยมกัน 

นายกฯ ชู ยุทธศาสตร์ 3 น. ‘นา-น้ำ-นวัตกรรม’ ปฏิวัติการทำนา ต่อยอดโครงการข้าวรักษ์โลก เดินหน้าสร้างความยั่งยืนเกษตรกรไทย

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ ระบุว่า 

พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักครับ

เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ม.ค.66 ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.สิงห์บุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการสำคัญในพื้นที่ 2 โครงการ ดังนี้

1. โครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและน้ำกัดเซาะตลิ่ง ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ระยะราว 3.5 กิโลเมตร คืบหน้ากว่า 80% ซึ่งหากแล้วเสร็จราว พ.ค.ปีนี้ ก็จะทันหน้าฝน สามารถป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ 1,375 ไร่ ที่เป็นทั้งพื้นที่เกษตรกรรม ปศุสัตว์ แหล่งเศรษฐกิจ ศาสนสถาน ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ สถานที่ราชการ ตลอดจนบ้านเรือนประชาชน-เกษตรกร 3,650 ครัวเรือน 11,054 คน 

2. โครงการ “ข้าวรักษ์โลก BCG โมเดล นาปรัง” ที่เป็นการต่อยอดมาจาก "โครงการนำร่องข้าวรักษ์โลก BCG โมเดล" ที่ฝากผลงานน่าประทับใจระดับโลก ในการประชุมผู้นำ APEC ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลได้นำผลผลิตข้าวรักษ์โลก ซึ่งออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นสินค้าพรีเมียม สำหรับมอบให้กับแขกผู้มาเยือนและสื่อมวลชนภายในงาน และได้รับการชื่นชม จนสร้างความภาคภูมิใจให้กับเกษตรกรไทยอีกด้วย

ทั้งนี้ โครงการข้าวรักษ์โลก "ระยะที่ 1" นั้น รัฐบาลได้นำร่องส่งเสริมผ่านกองทุนหมู่บ้านฯ ในพื้นที่ จ.เชียงราย มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ รวม 20 กองทุนๆ ละ 1,500,000 บาท มีสมาชิกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ 2,674 คน บนพื้นที่โครงการฯ รวม 10,830 ไร่ โดยมีผลดำเนินการเป็นที่น่าพอใจ สามารถเพิ่มผลผลิตโดยเฉลี่ย ร้อยละ 27.07 และลดต้นทุนการผลิตโดยเฉลี่ย ร้อยละ 38.20

‘เสี่ยโจ้’ บี้ ‘ลูกท็อป’ ลาออกรมว.กระทรวงทรัพยฯ ปมเซ็นตั้งอธิบดีกรมอุทยานฯ แซะอย่าหน้าหนาอยู่ต่อ คาดได้ซักฟอก รบ.ต้นเดือนก.พ.

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสาคาม และรองหัวหน้าพรรคพท.กล่าวกรณีที่นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ถูกจับกุมกรณีเรียกรับสินบนว่า คนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้คือนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตนขอเรียกร้องให้ท่านลาออกจากตำแหน่งเลย อย่าหน้าหนา อยู่ไปก็อายเขา เพราะท่านเซ็นแต่งตั้งนายรัชฎาเป็นอธิบดีกรมอุทยาน ซึ่งไม่ได้เป็นลูกหม้อในกรมด้วย แถมยังมาทำวีรกรรมแบบนี้อีก ถูกจับคาห้องทำงาน แสดงให้เห็นว่ามีการเก็บส่วย เรียกเงินเรียกทอง ซื้อขายตำแหน่ง ซึ่งเรื่องนี้ไม่จบแน่นอน ตนจะอภิปรายเรื่องนี้ด้วยเพราะถือว่าเป็นการกระทำทุจริตชัดเจน ขัดกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ล้มเหลวเพราะปราบโกงไม่สำเร็จ

“ประชาธิปัตย์” ไม่ใช่”ตะเกียงไร้น้ำมัน” ที่ ”พรรคการเมืองคู่แข่ง” จะเข้ามา ”ตีป้อมค่าย” เพราะ ปชป.วันนี้ไม่ใช่ปชป.ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 อย่างแน่นอน

 ถึงแม้ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” นักการเมืองรุ่น”ลายคราม”ของประเทศไทย และของพรรค”แม่ธรณีบีบมวยผม” จะไม่ออกมา”ร่ายกลอน” เรื่อง”ลิงกินกล้วย” หรือพูดเรื่องการเลือกตั้งในปี 2566  ที่จะถึงในอีกไม่ช้าว่า ที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นการเลือกตั้งในระบบ”ธนาธิปไตย” ที่จะมีการ”ใช้เงิน” ในการ”ซื้อเสียง” เป็นจำนวน”มหาศาล”  ประชานทั่วประเทศ ที่ติดตามการ”บริหารประเทศ”ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” ก็เห็นและรู้อย่างชัดเจนว่า ที่ผ่านมา เพื่อ”การอยู่รอด” และเพื่อการ”เอาชนะ” ต่อการ”อภิปรายไม่ไว้วางใจ” มีการ”ใช้เงิน”เป็น”ยุทธปัจจัย” จำนวน”มหาศาล” เพื่อ”ซื้อเสียง” ใน สภาผู้แทน
ดังนั้นเมื่อยังกล้าที่จะ”ซื้อเสียง” ในสภาผู้แทนอย่าง”โจ๋งครึม” แบบที่ถูก”นิยาม”ว่า”ใช้”กล้วยแจกลิง”เป็น”สวนๆ” โดยมี”กลุ่มทุน” ที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อให้” บิ๊กตู่” ไปต่อ ในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี” จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าในการ”เลือกตั้ง” ที่จะมาถึง จะมีการ”แจกกล้วย” ให้กับ”ประชาชน” เพื่อให้เลือก สส.ของ พรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อที่จะเป็น”นั่งร้าน” ให้”บิ๊กตู่” ก้าวขึ้นไปสู่”หอคอยงาช้าง” เป็น “นายกรัฐมนตรี” อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3
      โดยข้อเท็จจริง และโดยที่ไม่ต้อง”เหนียมอาย” ทั้ง”นักการเมือง” และ”ประชาชน” ที่เคย”ซื้อเสียง” และเคย”ขายเสียง” ในการ”เลือกตั้ง”ที่ผ่านมาทุกครั้ง ว่าการ”เลือกตั้ง” มีการ”ใช้เงิน” เพื่อการ”ซื้อเสียง” หารือ”แจกเงิน” ทั้งใน”รูปแบบ” การ”สัมมนา” การ”จัดเลี้ยง” และจ่ายเป็น”รายหัว” เพื่อเป็นค่า”เดินทาง” มาฟังการ”ปราศรัย” ที่ต้องยอมรับความจริงว่า การ”เลือกตั้ง” แต่ละครั้ง แต่ละพรรคการเมือง และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ล้วนต้อง”ใช้เงิน” จำนวนมาก ในการทำผิด”กฎหมาย” การเลือกตั้ง
     เพียงแต่ ครั้งนี้การใช้เงิน การใช้”อำนาจ” จะเป็นการ”อำมหิต” กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเป็นการ”ต่อสู้”ของพรรคการเมือง หลายพรรค ที่ทุกพรรค ต้องการ”กวาด” จำนวน สส.ให้มากที่สุด เพื่อการสร้าง”สมการ” ของการเป็นผู้”จัดตั้งรัฐบาล” หรือการได้”เข้าร่วม” เป็น”รัฐบาล” เพราะไม่มี พรรคการเมือง พรรคไหน ที่อยากจะเป็น”ฝ่ายค้าน” ด้วย”เหตุผล” คือ”อดยากปากแห้ง” นั่นแหละ
    ดังนั้น พรรคที่”นายทุน” หรือ”กลุ่มทุน” ให้การ”อุ้มชู” จึงเป็นพรรคที่”ได้เปรียบ” ในการเข้าสู่”สนามเลือกตั้ง” ครั้งนี้ เพราะมีการเห็นถึง”ปฏิบัติการ” แจกกล้วย” ในสภาฯมาแล้ว และที่เป็นข่าวปรากฏเป็น”ระยะๆ” ของการ”ใช้เงิน” ในการสร้าง”พลังดูด” สส. ที่มี”ชื่อชั้น” มาเข้าสังกัดพรรคที่เรียกว่าเป็นการ”ตกปลาในบ่อเพื่อน”มีการใช้”ยุทธปัจจัย”ถึง 30 กิโล,50 กิโล เป็นข้อ”แลกเปลี่ยน” ในการ”เปลี่ยนพรรค”
     จึงไม่แปลก ที่หลายพรรคการเมือง ทั้งที่เป็นพรรคที่มีอยู่แล้ว และพรรคการเมืองที่”เพิ่งตั้งไข่” จึง”จัดทัพ” มุ่งหน้ามายัง”ภาคใต้” ที่เป็น”ฐานที่มั่นสุดท้าย” ของ”พรรคประชาธิปัตย์” โดยมองว่า”ภาคใต้” เป็น”จุดอ่อน” ของการ”เลือกตั้ง” ในครั้งนี้ เป็นการ”หลีกเลี่ยง” การ”แข่งขัน” ใน สนามของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ( อิสาน) และ”ภาคเหนือ” ซึ่งเป็น”ที่มั่น” ที่”เข้มแข็ง” ทั้งในเรื่อง”ทุน” และ”คน” ที่เป็น สส.
    มีบางพรรคที่เพิ่ง”ตั้งไข่” และ”ตกปลาในบ่อเพื่อน” ถึงกับออกมา”พูดว่า” ภาคใต้พรรคเราได้ สส.ตามที่ต้องการแน่  โดยประเมินว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มี”ทั้งกระแส” และ”กระสุน” และ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์” เป็น “หัวหน้าพรรค” ที่แม้แต่”คนในพรรค” ก็มองว่า”ไร้เสน่ห์” ทุกพรรคจึง”หมายมั่นปั้นมือ” ที่จะเข้ามา”แชร์ตลาด” สส. ในภาคใต้ ซึ่งมี” ที่นั่ง” อยู่ 58 ที่นั่ง
    ส่วนจะเป็นการ”ประเมิน” ที่”ถูกต้อง” หรือ”ผิดพลาด” อย่างไร ในการ”เลือกตั้ง”ครั้งนี้ ล้วนเป็นผลดีกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะ”ยิ่งมายิ่งเด่นชัด” ว่า พรรคการเมืองแต่ละพรรค ที่เข้ามาเพื่อ”ล้มประชาธิปัตย์” ใช้”กลยุทธ์” หรือ”ยุทธวิธี” แบบไหน เช่นบางพรรคที่เป็นพรรคที่เป็น”คู่แข่ง”เดิม ใช้วิธี”สะสมกระสุน” โดยไม่สนใจ”กระแส” เพื่อการ”ยิงสลุต” อย่างเดียว ส่วนพรรคใหม่”บางพรรค” ก็ใช้”บริการ”คนของ”ประชาธิปัตย์” ที่ถูก”ดูดออกไป” ทำการ”แย่งชิง” กลุ่ม”หัวคะแนน” โดยนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์กลุ่มนี้เป็น”ไผ่กอเดียวกับประชาธิปัตย์”ที่ทำตัวเป็น”ด้ามพร้า” เพื่อ”ฆ่ากอไผ่” ที่เป็นที่มาของตนเอง และ “กลยุทธ์” ที่ใช้ใน”สนามเลือกตั้ง” ด้วยการ”ตกปลาในบ่อเพื่อน” และอาศัย” กระแสของหัวหน้าพรรค” พร้อมด้วย”กระสุน” ที่มี”บางคน” ในพรรค ออกมา”โอ้อวด” ว่ามีจำนวน “มหาศาล”
      เจ้าถิ่น อย่าง”ประชาธิปัตย์” จะแก้เกมอย่างไร เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะในการเลือกตั้งครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” ต้อง”ปิดประตูแพ้” ใน”ภาคใต้”ด้วยการที่จะต้องได้ สส.อย่างน้อย 35 ที่นั่ง หรือทั้งประเทศทั้ง สส.เขต และสส.บัญชีรายชื่อ จะต้องได้ 80 เป็นอย่างต่ำ  ที่สำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้”ประชาธิปัตย์” มีการ”ถอดบทเรียน” ของการ”พ่ายแพ้” ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่เป็น”บทเรียน” ที่สำคัญ และทำการปิด”จุดอ่อน” ทุกจุด ที่เคย”ผิดพลาด”มา
    

โชเชียลเมียนมา รุมบูลลี่ ‘นางแบบหน้าสวย’ เพียงเพราะเธอเป็นลูกสาวนายพลในกองทัพ

เมื่อปลายปีที่ผ่านมาทาง DC Candler ได้ประกาศชื่อแคนดิเดตของ The Most Beautiful Face ในปี 2022 ในเฟซบุ๊กและไอจีของเพจ ก่อนจะประกาศตำแหน่ง Top 100 Most Beautiful Faces ในช่วงปลายปี ซึ่งก็ต้องขอแสดงความยินดีกับทั้งดาราไทยหลายท่านโดยเฉพาะลิซ่าที่ปีนี้ติดอันดับ 3 ผู้หญิงหน้าสวยแม้น้องจะตกจากอันดับ 1 ในปีที่แล้วก็ตาม

แต่ประเด็นเกิดขึ้นในเพจเฟซบุ๊กของ TC Candler เมื่อ 1 ในนางแบบเมียนมาอย่าง Nay Chi Oo ถูกเสนอเป็นผู้เข้าชิงในครั้งนี้ด้วย โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ในภาพของเธอหลายประเด็น โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการที่เธอคือบุตรสาวของนายพลในกองทัพเมียนมา และเรื่องอื่นๆ เช่น เธอทำศัลยกรรมมาหรือเรื่องรอยปานบนใบหน้าของเธอ

Nay Chi Oo ถือเป็นนางแบบชื่อดังคนหนึ่งและเป็น Beauty Blogger ที่ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะฝีมือในการ make up ที่สาวๆ หลายคนได้นำทริคในการแต่งหน้าของเธอไปใช้และเห็นผล อีกทั้งเธอยังเป็นเซเลปที่อยู่ในวงสังคมของเมียนมาโดยไม่ได้สนใจหรือออกมาเคลื่อนไหวเรื่องของกองทัพเลย เช่นเดียวกับเซเลปเมียนมาหลายคนที่วางตัวนิ่งเฉยกับเหตุการณ์นี้

การบูลลี่เธอบนเพจเฟซบุ๊ก จะมีผลหรือไม่มีผลต่อการตัดสินของ TC Candler นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ การกระทำของชาวโซเชียลเมียนมาที่ไม่งดงาม เมื่อแสดงออกในระดับนานาชาติว่า สุดท้ายเธอจะหงายการ์ดว่ารู้เท่าถึงการณ์หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top