Saturday, 12 July 2025
ค้นหา พบ 49357 ที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ปลื้ม!! 'สธ.-คมนาคม-ท่องเที่ยว' ประสานงานดีเยี่ยม มีแผนดูแล-ต้อนรับนักท่องเที่ยว หลังโควิด-19 ทุเลา

(7 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามผลงานของกระทรวงในการกำกับดูแลตลอดปี 2565 และช่วงก่อนหน้า ทั้งสาธารณสุข คมนาคม การท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อให้ความเชื่อมั่นว่าหน่วยงานในกำกับได้มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนทั้งภาคเศรษฐกิจ สังคม ยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีพอใจการดำเนินงานของหน่วยงานในกำกับ โดยเฉพาะในช่วงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทุกหน่วยงานได้ประสานการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่การแพร่ระบาดอยู่ในการควบคุม

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในช่วงที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาดกระทรวงคมนาคมได้เร่งผลักดันการลงทุนโครงการที่อยู่ในแผนหลายโครงการ ทั้งรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าสายต่าง ๆ รถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ทางด่วน มอเตอร์เวย์ สนามบิน ท่าเรือ ระบบโลจิสติกส์และการขนถ่ายสินค้า เพื่อเป็นเครื่องยนต์ประคองเศรษฐกิจได้ในช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจลดลงจากโรคระบาด และเตรียมประเทศให้พร้อมรับการกลับมาของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทันทีที่โควิด-19 คลี่คลาย 

“รองนายกฯ อนุทิน มั่นใจว่าขณะนี้ประเทศไทยมีความพร้อมรับทั้งนักท่องเที่ยว และนักลงทุน เพราะในช่วงโควิด-19 ระบาด ทุกหน่วยงานไม่ได้หยุดรออะไร แต่เดินหน้าตามแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อพ้นโควิด-19 แล้ว นักท่องเที่ยว นักลงทุนจะต้องมาประเทศไทย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

'ตม.เชียงราย' สกัดจับรถขนแรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายจากชายแดนแม่สาย

(7 ม.ค. 66) พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภาเกษม ผู้กำกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเชียงรายรับรายงานว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายจากชายแดนแม่สายไปส่งจังหวัดเชียงใหม่จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กิตติธร นาคเกลี้ยง รองผู้กำกับตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย, พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย, ร.ต.อ.รัชภูมิ ฤทธิศร รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย นำกำลังชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองเชียงรายร่วมกับสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง 5 ติดตามไปถึงบริเวณถนนหมายเลข 1063 ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมือง พบรถปิกอัป 3 คันขับตามกันมามุ่งหน้าไปทางอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จึงขับรถไล่สกัดบังคับรถทั้ง 3 คันให้จอดเพื่อทำการตรวจค้น

.

คันแรกเป็นรถปิกอัปโตโยต้าวีโร่สีดำ ทะเบียนเชียงใหม่โดยมีนายใจเป็นคนขับรถนำทางคอยดูต้นทาง

.

คันที่ 2 รถปิกอัปโตโยต้าวีโก้ทะเบียนเชียงใหม่ โดยมีนายวันเป็นคนขับรถขนแรงงานชาวเมียนมามา 10 คน เป็นชาย 6 หญิง 2 เด็ก 2 คน 

จับตา!! หาก 'ไทย' เร่งเจรจาเปิดด่าน 'เมียนมา' สำเร็จ โอกาสสินค้าไทยไหลรับ 'คนจีน' แห่เข้าเมียนมาเพียบ!!

ทางการจีนได้ประกาศเปิดด่านชายแดนฝั่งเมืองมูเซ หรือ ในภาษาไทใหญ่เรียกว่าหมู่แจ้ ทั้ง 3 ด่าน หลังจากปิดไปช่วงโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมาในวันที่ 8 มกราคมนี้  

นับเป็นอีกหนึ่งการผ่อนคลายมาตรการของการควบคุมโควิดของฝั่งจีน ซึ่งจะทำให้เกิดการนำเข้าสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และการเปิดด่านครั้งนี้ทางเมียนมาก็จะได้อานิสงส์ในการนำเข้าสินค้าต่าง ๆ จากจีนในราคาถูกด้วยเช่นกัน

การส่งออกที่ด่านเมืองมูเซในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่เกือบ 550 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าทางการเกษตร เช่น กุ้งและปูเป็นที่มีการขนส่งเข้าสู่จีนจำนวนมาก

ในวันที่ 8 มกราคมที่จีนประกาศผ่อนคลายให้ชาวจีนสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ทางเมียนมาคาดการณ์ว่าจะมีชาวจีนจำนวนหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวไหว้พระในย่างกุ้งและมัณฑะเลย์และอีกจำนวนหนึ่งน่าจะเดินทางข้ามชายแดนมาเพื่อประกอบธุรกิจในเมืองมูเซและอาจจะรวมถึงคนจีนอีกจำนวนไม่น้อยที่น่าจะเข้ามาเล่นคาสิโนในเมืองดังกล่าว

ฐานทัพเรือสัตหีบ ส่งกำลังพลร่วมบรรพชาอุปสมบท 99 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ

วันนี้ 7 ม.ค.66 เวลา 09.00 น. นาย สุนทร มูเนาวาเราะ นายอำเภอสัตหีบ/นายกกิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ มอบหมายให้ นาง พิกุล โสภา ปลัดอำเภอสัตหีบและเลขานุการกิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ นำคณะที่ปรีกษา รองนายกกิ่งกาชาด คณะกรรมการ และสมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ เข้ามอบเงินและร่วมส่งกำลังพลของฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ เข้าร่วมในโครงการบรรพชาอุปสมบท 99 รูป เพื่อถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมีพลานามัยแข็งแรงโดยเร็ววัน 

ตามที่ กระทรวงมหาดไทย โดยจังหวัดชลบุรี มอบหมายให้อำเภอสัตหีบ ประสานและเชิญชวนบุคลากรจากภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไปเข้าร่วมโครงการฯ ในวันที่ 9 ม.ค.66 เวลา 13.00 น.พิธีปลงผมนาค ณ สำนักปฏิบัติธรรม ธรรมปทีป อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในวันที่ 10 ม.ค.66 เวลา 07.00 น.พิธีบรรพชาอุปสมบท ณ วัดบึงบวรสถิตย์ และวัดเจริญธรรม ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และวัดพยอม ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี

ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมการฝึกและสังเกตการณ์การฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบรรเทาภัยพิบัติ (HA/DR) ในการฝึกภาคสนามและภาคทะเล (FTX) การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์การฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HA/DR) ในการฝึกภาคสนาม และภาคทะเล (FTX) การฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566 บน เรือหลวงอ่างทอง และ บริเวณเกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ต 

เวลา 12.40 น.ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางมาถึงเรือหลวงอ่างทอง โดยมี พลเรือเอก เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2566 ให้การต้อนรับ จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือได้เข้ารับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ฝึกฯ รวมทั้งได้ตรวจเยี่ยมศูนย์บัญชาการในทะเล และโรงพยาบาลสนามบนเรือ ณ ห้องควบคุมปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ต่อมาในเวลา 13.50 น. ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ชมการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ (HA/DR) และการฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลร่วมกับหน่วยงานใน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จากนั้นในเวลา 14.30 น. ผู้บัญชาการทหารเรือได้เดินทางต่อไปยังเกาะราชาใหญ่ เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางบกและการส่งกลับผู้ป่วยด้วยอากาศยานส่งต่อทางการแพทย์

อนึ่ง กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกกองทัพเรือเป็นประจำทุกปี เพื่อให้กำลังพลจากกรมในส่วนบัญชาการส่วนกำลังรบ ส่วนยุทธบริการ ส่วนการศึกษาและวิจัย ได้บูรณาการการฝึกของหน่วยต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกันโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาขีดความสามารถให้มีความพร้อม ในการเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต อันจะทำให้กองทัพเรือสามารถดำรงบทบาทในฐานะหน่วยงานความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการฝึกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (HA/DR) เพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมสร้างขีดความสามารถกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ทั้งนี้ต้องมีการฝึกภาคสนามและภาคทะเล (FTX) ควบคู่กับการฝึกดังกล่าว ซึ่งเป็นการฝึกภาคปฏิบัติของหน่วยกำลังรบ และหน่วยสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องการทดสอบขีดความสามารถในระดับยุทธวิธีมาทำการฝึกภาคปฏิบัติร่วมกัน

นอกจากนี้กองทัพเรือได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดจากธรรมชาติที่นับวันมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว การป้องกันที่ดีที่สุดคือการซักซ้อมและเตรียมการรับมือในช่วงสภาวะปกติ ดังนั้น กองทัพเรือจึงได้จัดการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2566 ในเรื่องการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติขึ้นในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันในห้วง วันที่ 4 - 6 มกราคม 2566 เพื่อเป็นการทดสอบ และซักซ้อมความเข้าใจในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันของกองทัพเรือและหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันและทำงานร่วมกันอย่างบูรณการ สำหรับการฝึกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 4 ข้อ ดังนี้

1) เพื่อทดสอบการปฏิบัติตามร่างแผนบรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ พ.ศ.2566

2) เพื่อทดสอบแนวความคิดในการปฏิบัติของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ และ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 3 ตาม (ร่าง) แผนบรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ พ.ศ.2566

3) เพื่อทดสอบขีดความสามารถ ความพร้อม องค์บุคคล องค์วัตถุ องค์ยุทธวิธี ของหน่วยในกองทัพเรือ ในการปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติ (การประเมินความต้องการและความเสียหาย การเคลื่อนย้ายกำลังการค้นหาและช่วยเหลือฯ การแพทย์ สารเคมีและปนเปื้อน)

และ 4) เพื่อทดสอบการประสานการปฏิบัติระหว่างหน่วยงานกองทัพเรือ ศรชล. และจังหวัด ในระดับการสั่งการและการปฏิบัติ ในการปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติ

โดยการฝึกครั้งนี้ได้มีการสมมุติสถานการณ์การเกิดพายุขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน ทำให้เกิดการตัดขาดระหว่างฝั่งและเกาะต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ต และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ของเกาะราชาใหญ่ ดังนั้น จังหวัดภูเก็ตจึงได้ร้องขอให้ ทัพเรือภาคที่ 3 เข้าช่วยแก้ไข และบรรเทาสถานการณ์ โดยทัพเรือภาคที่ 3 ได้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจในการเข้าแก้ไขปัญหา และได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีหน่วยที่เข้ารับการทดสอบและการฝึก ดังนี้

1) ทัพเรือภาคที่ 3 จัดเรือจำนวน 3 ลำ เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง

2) ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 จัดเรือตรวจการณ์ จำนวน 5 ลำ

3) กองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ

4) กองเรือยุทธการ จัดเรือหลวงอ่างทอง หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดกำลังพล 94 นาย

5) กรมแพทย์ทหารเรือ และโรงพยาบาลฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 จัดกำลังพล 17 นาย

6) กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ จัดกำลังพล 13 นาย

7) กรมอุทกศาสตร์ จัดกำลังพล จำนวน 5 นาย

8) สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ จัดกำลังพล จำนวน 4 นาย

9) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง

10) ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต จัดกำลังพล จำนวน 12 นาย

11) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต จัดกำลังพล จำนวน 6 นาย

12) มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต จัดกำลังพล จำนวน 6 นาย

13) สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดภูเก็ต และโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จัดกำลังจำนวน 17 นาย รวมกำลังพลที่ใช้ในการฝึกครั้งนี้ทั้งสิ้น 439 นาย

การฝึกในครั้งเป็นไปตามนโยบายของ ผู้บัญชาการทหารเรือที่ให้หน่วยต่างๆ เตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อม และสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top