Sunday, 15 June 2025
ค้นหา พบ 48817 ที่เกี่ยวข้อง

เกาะติดโซนยอดนิยม 'กทม.-ปริมณฑล' ไตรมาส 3 'ห้วยขวาง' ยืนหนึ่งคอนโด 'บางพลี' คึกคักบ้านเดี่ยว

(14 ธ.ค. 65) นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยเสนอขายรวมทั้งสิ้น ณ ช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 พบว่ามีจำนวน 198,024 หน่วย มูลค่า 984,904 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวน 2,188 หน่วย แต่มูลค่ากลับสูงขึ้น 8,608 ล้านบาท 

โดยเป็นโครงการบ้านจัดสรร 126,325 หน่วย มูลค่ารวม 680,615 ล้านบาท ซึ่งพบว่าบ้านจัดสรรมีการเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 1 และ 2 ปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวเฮ้าส์ ขณะที่โครงการอาคารชุดมีหน่วยเสนอขายจำนวน 71,699 หน่วย มูลค่ารวม 304,289 ล้านบาท ซึ่งลดลงต่อเนื่องจากไตรมาส 1 และ 2 ปี 2565

สำหรับโซนที่มีหน่วยอาคารชุดเสนอขายสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย...

อันดับ 1 ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง จำนวน 9,921 หน่วย มูลค่า 40,368 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 3) 

อันดับ 2 พระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ จำนวน 8,285 หน่วย มูลค่า 23,259 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 4)

อันดับ 3 เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด จำนวน 7,144 หน่วย มูลค่า16,288 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 6) 

อันดับ 4 ธนบุรี-คลองสาน-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-บางพลัด จำนวน  6,893 หน่วย มูลค่า 21,262 ล้านบาท (มูลค่าเป็นอันดับ 5) 

‘นักวิชาการ’ ชี้!! สารพัดปัจจัยหนุน ภท.เนื้อหอม ‘มีเอกภาพ-ไร้ขัดแย้ง’ พื้นที่ปลอดภัยเอื้อ ส.ส.แห่ซบ

นักวิชาการ ประสานเสียงวิเคราะห์เหตุ ‘ภูมิใจไทย’ เนื้อหอม ส.ส.แห่ย้ายร่วม เชื่อสารพัดปัจจัยหนุน มีเอกภาพ-ไร้ความขัดแย้ง ดันเป็นพรรคหลักตั้งรัฐบาล

ไม่นานมานี้ รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มองความเคลื่อนไหวดังกล่าวถึงกระแสข่าวเรื่อง 37 ส.ส.จากหลายพรรคการเมือง เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยนั้น ว่า…

อันนี้น่าจะเป็นสัญญาณบวกของพรรคภูมิใจไทย ที่พรรคเขามีกระแสพอสมควร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะนักการเมือง คงไม่ย้ายไปพรรคที่ไม่มีอะไรขายเลย แต่ย้ายมาขนาดนี้ แสดงว่า มีจุดขาย ข้อต่อมา คนที่ย้าย เขาคงมีความมั่นใจในนโยบายพรรค ว่าดีพอสู้กับคู่แข่ง ที่เห็นเด่น ๆ คือ เป็นนโยบายที่พูดได้ ทำได้ นอกจากนั้น ผลงานที่ผ่านมาในการผลักดันนโยบายของพรรคได้พิสูจน์ความตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จ ตรงนี้ ประชาชนเห็น แม้ว่ามีพรรคการเมืองอื่นพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้นโยบายผ่านเป็นกฎหมาย เพราะบางพรรคกลัวเสียผลประโยชน์ในทางเศรษฐกิจการเมือง แต่พรรคก็สู้ยิบตาเพื่อรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชน ที่ต้องไม่ลืม คือ ลักษณะเด่นในการทำงานการเมืองของพรรคภูมิใจไทย คือ ไม่สร้างเงื่อนไขทางการเมือง ไม่มีวาระซ่อนเร้นกับประชาชน มีจุดยืนชัดเจน ทำให้ ส.ส.ลูกพรรคสบายใจในการทำงาน ซึ่งความสบายใจดังกล่าว มันก็มาจากความเป็นเอกภาพในพรรค ที่ไม่มีการกลุ่มมุ้ง ไม่แบ่งก๊ก แบ่งกลุ่ม เพื่อต่อรองเรียกร้องผลประโยชน์ของกลุ่มเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ จนนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคจนพรรคแตก แล้วพรรคพยายามวางบทบาทสถานะทางการเมืองที่ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร นี่คือ พื้นที่ปลอดภัยสำหรับนักการเมืองจำนวนไม่น้อย

“ความมีเอกภาพทำให้ลูกพรรคไม่ต้องลำบากใจในการทำงานการเมือง และไม่มีแรงกดดันทางทั้งภายในภายนอก ไม่ต้องวิ่งหาอำนาจอื่น หรือผู้มีบารที่อยู่เหนือพรรคหรือนอกพรรคมากดดันผู้บริหารพรรค จนทำให้หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นเพียงตำแหน่งสมมติตั้งลอยให้ครบองค์ประกอบเท่านั้น สภาพปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นในพรรคการเมืองอื่นทำให้ ส.ส.เหล่านี้ต้องตัดสินใจทิ้งพรรคการเมืองที่ไม่มีระบบ มีอำนาจซับซ้อนเกินไป หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคไม่มีอำนาจจริงตัดสินใจอะไรไม่ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ส.ส.เหล่านั้นต้องย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยเพราะมีความเป็นระบบมากกว่า อย่างน้อยที่สุดก็มั่นใจได้แน่ว่าหัวหน้าพรรค คือ หัวหน้าพรรคตัวจริง และ มีอำนาจจริง ไม่ใช้ตุ๊กตามนุษย์ที่เขาอุปโลกน์ให้เป็นหัวหน้าพรรคแต่ในนาม จากนี้ พรรคภูมิใจไทย จะกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่รองจากเพื่อไทยที่จะมีบทบาทการเมืองสูงหลังการเลือกตั้ง และในการจัดตั้งรัฐบาลหน้าภูมิใจไทยจะไม่ใช่พรรคตัวแปรอีกต่อไป แต่จะเป็นพรรคที่จะมีอิทธิพลทางการเมืองสูงในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นพรรคที่จะกำหนดวาระการเมืองซึ่งจะทำให้ความขัดแย้ง 2 ขั้วคลี่คลายลงได้ การวางบทบาทในการกำหนดวาระการเมืองเพื่อคลี่คลายความขัดแย้ง 2 ขั้ว คือ การปูทางไปสู่อนาคตทางการเมืองของภูมิใจไทยในสมัยต่อไป”

ด้าน ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต มองว่า นักการเมืองวิเคราะห์แล้วว่า ถนนทุกสายทางการเมือง ทุกค่าย ทุกขั้วกลุ่มการเมืองต่างยอมรับว่าพรรคภูมิใจไทย จะเป็นพรรคที่เติบโตมากขึ้นเป็นเท่าตัว หลังจากการเลือกตั้งปี 2566 อะไรที่ทำให้หลายๆ คนเชื่อเช่นนั้น แน่นอนว่าองค์ประกอบสำคัญยืนยันด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ดังนี้... 

ถอดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ‘เสี่ยโป้’ จำคุก 50 ปี แต่ติดจริงที่ 20 ปี

จากกรณีที่ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา ตัดสินโทษจำคุก ‘เสี่ยโป้’ นั้น ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า…

“นายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 1 กระทง จำคุก 3เดือน ฐานเป็นเจ้ามือ จำนวน 3กระทง จำคุก 3เดือน ฐานช่วยประกาศโฆษณาชักชวน ให้เข้าเล่นพนัน จำนวน 14กระทง จำคุกกระทงละ 3 เดือน รวมจำคุก 48 เดือน และฐานฟอกเงิน จำนวน 25 กระทง จำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุก 50 ปี รวม 4ฐานความผิด เป็นจำคุก 50 ปี 48 เดือน แต่เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดแล้ว คงลงโทษได้ไม่เกินเพดานโทษจำคุก 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2)”

ว่าแต่ หลายท่านคงจะสงสัยว่า เอาเข้าจริงสรุปแล้ว เสี่ยโป้ นั้น จะต้องติดคุกกี่ปีกันแน่?

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 5 - 9 ธ.ค. 65 จับตาปัจจัย ‘บวก - ลบ’ พร้อมแนวโน้ม 12 - 16 ธ.ค. 65

ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent เฉลี่ยสัปดาห์ล่าสุดลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 แต่ในช่วงปลายสัปดาห์ปรับเพิ่มขึ้น หลังจากท่อ Keystone (622,000 บาร์เรลต่อวัน) ที่ขนส่งน้ำมันดิบจากเมือง Hardisty รัฐ Alberta ในแคนาดาสู่แถบ Mid-West ในสหรัฐฯ ปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 65 โดยล่าสุดบริษัท TC Energy ผู้ดำเนินการท่อดังกล่าวรายงานการกู้คืนน้ำมันดิบรั่วไหลปริมาณ 2,600 บาร์เรล อย่างไรก็ตามมีการรั่วไหลทั้งหมด 14,000 บาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค. 65 และขณะนี้ท่อ Keystone ยังคงปิดดำเนินการ

จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) ในวันที่ 13-14 ธ.ค. 65 ซึ่ง Reuters Poll คาดการณ์ว่าจะมีมติปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Federal Funds Rate: FFR) ขึ้น 0.5% อยู่ที่ 4.25-4.5% และติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 15 ธ.ค. 65 ซึ่งกรรมการ ECB นาย Gabriel Makhlouf คาดการณ์ว่าจะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย สำหรับการปล่อยสภาพคล่องให้ระบบธนาคารพาณิชย์ (Main Refinancing Operations Rate) อีก 0.5% อยู่ที่ 2.25%

>> ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
- Kpler รายงานยุโรปนำเข้าน้ำมันดิบทางทะเล ในเดือน พ.ย. 65 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 300,000 บาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 8.86 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อว. จับมือ มช.มุ่งผลักดัน โครงการ U2T สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสื่อมวลชน ตอกย้ำความสำเร็จการทำงานบูรณาการ

อว. มุ่งผลักดัน โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ(มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) (U2T) U2T x RSP @ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผนึกกำลังอุทยานวิทยาศาสตร์ ตอกย้ำความสำเร็จการทำงานบูรณาการ มุ่งเน้นพัฒนาคน ดึงเทคโนโลยีเข้าช่วยสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน

ยืนหยัดเพื่อส่งเสริมและพัฒนาชุมชน พร้อมยกระดับเศรษฐกิจให้เกิดความยั่งยืน สำหรับ โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) หรือ โครงการ U2T โดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ล่าสุดขึ้นเหนือเยือน จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้สำหรับโครงการ U2T ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จากการปรับบทบาทมหาวิทยาลัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และชุมชนในพื้นที่ บูรณาการแก้ไขปัญหาในมิติต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาสินค้าให้แก่คนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมีการผสานความร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้ อว. ที่ดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 10 ปี ในการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อเกิดการทำงานที่เป็นรูปธรรม และต่อยอดโครงการ U2T ให้เกิดความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ดร. ดนุช  ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)  เป็นประธานในงานแถลงข่าว “โครงการ U2T x RSP @ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ ยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการ (มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ) กิจกรรมที่ 2 U2T สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสื่อมวลชน” โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้การต้อนรับคณะ

โครงการ U2T ที่จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความสำเร็จและนวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายใต้การดำเนินงานโครงการ U2T ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมเสริมศักยภาพในการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้งมุ่งมั่นเสริมความรู้ให้กับประชาชนในเรื่อง BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว อันเป็นโมเดลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและปรับตัวในการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับ BCG ได้ โดยผสานความร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ U2T ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นการโชว์สินค้า แชร์เทคโนโลยี และนำไปต่อยอดต่อไปได้

ดร. ดนุช  ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวถึงการดำเนินโครงการ U2T ในตลอดปี 2565 ว่า “ โครงการ U2T ได้มีการพัฒนาคนในชุมชนครอบคลุมทั้งสิ้น 7,435 ตำบล โดยตลอดการดำเนินงานได้มีผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายมากมายและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน พร้อมเกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการต่อยอดผลิตภัณฑ์ โดยเป็นผลสำเร็จจากการปรับบทบาทมหาวิทยาลัยเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และชุมชน นำศักยภาพที่มีทั้งความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ งานวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในการแก้ไขปัญหาและความต้องการของชุมชนที่แตกต่างกัน โดยมุ่งสร้างและบ่มเพาะผู้ประกอบการให้สามารถนำความรู้และเทคโนโลยีไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญต้องมีความรู้เรื่อง BCG หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว อันเป็นโมเดลพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับปรุง แปรรูปและต่อยอดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เกิดความน่าสนใจได้ ซึ่งโครงการ U2T ได้เสริมองค์ความรู้ให้กับคนในชุมชน พร้อมสนับสนุนในทุกมิติเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อันโดดเด่นด้วยเอกลักษณ์จากของในท้องถิ่นได้รับการการันตีในคุณภาพ เสริมสร้างความมั่นใจในอีกระดับ รวมถึงการเสริมทักษะในด้านการตลาดและบริหารจัดการ โดยมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ จากความร่วมมือของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งตั้งอยู่ใน 44 มหาวิทยาลัย ครอบคลุมทุกภาคทั่วไทย เป็นการเพิ่มศักยภาพของอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในมิติของการทำงานร่วมกับโครงการ U2T อีกด้วย”

ดร. ดนุช  ตันเทอดทิตย์ กล่าวเสริมอีกว่า “ในการส่งเสริมศักยภาพของประชาชนจากโครงการ U2T มุ่งหวังให้เกิดการต่อยอด เพื่อสามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และสามารถผลักดันให้มีการจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมหวังให้ส่งออกนอกประเทศได้อีกด้วย เพื่อสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการ”
 
 ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่าถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า “การดำเนินโครงการ U2T เป็นความสำเร็จจากการทำงานแบบบูรณาการ ของหน่วยงานต่างๆ ใน อว. ที่พร้อมพัฒนาคนในชุมชนให้เกิดความรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน พิสูจน์ได้อย่างเป็นรูปธรรมในความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นแต่ได้มีการต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนช่วยเสริมทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสร้างความแตกต่าง เมื่อได้รับความร่วมมือจากอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าช่วยในการพัฒนาให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ได้มากขึ้น นับเป็นผลดีกับคนในชุมชนที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top