Friday, 20 June 2025
ค้นหา พบ 48906 ที่เกี่ยวข้อง

เปิดให้ ‘สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์’ รองรับรถไฟทางไกล รวม สายเหนือ-อีสาน-ใต้ 52 ขบวน เริ่ม 19 ม.ค. 66

ยืนยันแล้ว!!! 19 มกราคม 2566 นี้ เตรียมเปิดให้บริการสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ( #สถานีกลางบางซื่อ ) รองรับรถไฟทางไกล เหนือ-อีสาน-ใต้ 52 ขบวน

โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure ได้โพสข้อความว่า ข่าวล่ามาแรง จากการรถไฟ ซึ่งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ได้มีมติให้ เปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกลจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2566 เป็นต้นไป 

โดยจะมีการจัดเดินรถไฟขบวนปฐมฤกษ์ จาก สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีอยุธยา ด้วยขบวนรถไฟดีเซลราง KIHA

โดยรถไฟทางไกลที่จะเริ่มให้บริการในวันที่ 19 มกราคม 2566 จะมีทั้งหมด 52 ขบวนทั้ง 3 เส้นทาง ได้แก่

- สายเหนือมี 18 ขบวน ได้แก่
3 4 7 8 9 10 13 14 51 52 109 102 105 106
107 108 111 และ 112

รถไฟทางไกลสายใต้ มี 24 ขบวน ได้แก่
31 32 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46
83 84 85 86 167 168 169 170 171 172
173 และ 174

รถไฟทางไกลสายอีสาน มี 24 ขบวน ได้แก่
21 22 23 24 25 26 67 68 71 72 75 76
77 78 133 134 135 136 139 140
141 142 145 และ 146 

ผลสำรวจชี้ ‘คนจีนเกินครึ่ง’ ยังเบรกเที่ยวนอก แม้จะ ‘เปิดพรมแดน’ ให้ในวันพรุ่งนี้ก็ตาม

ผลการศึกษาล่าสุดชี้คนจีน ‘เกินครึ่ง’ ยังไม่มีแผนเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า จนกระทั่งถึง 1 ปีขึ้นไป หรือต่อให้รัฐบาลจีนมีการเปิดประเทศในวันพรุ่งนี้ก็ตามที

รอยเตอร์ - จีนเป็นประเทศที่ยังคงมาตรการควบคุมโควิด-19 เข้มงวดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ทั้งในแง่ของการตรวจ PCR และการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ แม้กระแสประท้วงคำสั่งล็อกดาวน์และนโยบาย ‘โควิดเป็นศูนย์’ จะทำให้ภาครัฐต้องยอมผ่อนคลายข้อจำกัดในประเทศลงบ้างก็ตาม

ผลการศึกษา China Consumption Recovery ซึ่งสรุปจากการสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคชาวจีน 4,000 คน โดยบริษัทที่ปรึกษา Oliver Wyman พบว่า สาเหตุอันดับ 1 ที่ทำให้คนจีนหลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงนี้ก็คือ ‘กลัวติดโควิด-19’ รองลงมือคือ กังวลว่ารัฐบาลจีนอาจจะปรับเปลี่ยนกฎสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศเมื่อไหร่ก็ได้

“คนจีนระมัดระวังตัวกันมากขึ้น” อิมเค วูเตอร์ส (Imke Wouters) หุ้นส่วนฝ่ายค้าปลีกและสินค้าโภคภัณฑ์ของ Oliver Wyman ให้ความเห็น “ดังนั้นต่อให้พวกเขาสามารถออกนอกประเทศได้ เราเชื่อว่านักท่องเที่ยวจีนก็จะยังไม่กลับมาในทันที”

ชาวจีนผู้ตอบแบบสอบถาม 51% ระบุว่า พวกเขาจะเลื่อนแผนท่องเที่ยวต่างประเทศออกไปก่อน และหากจะเดินทางก็คงเลือกจุดหมายปลายทางใกล้ ๆ บ้านเป็นอันดับแรก ตัวอย่างเช่น ‘ฮ่องกง’ ซึ่งคนจีน 34% บอกว่าเป็นสถานที่แรกที่พวกเขาอยากไปหลังจากที่มีการเปิดพรมแดน

ผลสำรวจความคิดเห็นนี้จัดทำเมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. หลังจากที่มีการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งมีการรับรองตำแหน่งผู้นำจีนสมัยที่ 3 ให้แก่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ท่ามกลางความคาดหมายในขณะนั้นว่ารัฐบาลปักกิ่งคงจะเร่งเปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19

จีนเคยเป็นตลาดส่งออกนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของโลก ทว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยใช้จ่ายเงินมากถึง 127,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 แทบจะลดลงเป็นศูนย์ หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศปิดพรมแดนเมื่อช่วงต้นปี 2020 และห้ามพลเมืองเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่มีสาเหตุจำเป็น

การที่ผู้นำปักกิ่งยึดนโยบายโควิดเป็นศูนย์อย่างเข้มงวดส่งผลบั่นทอนเศรษฐกิจจีนเองอยู่ไม่น้อย และคาดกันว่ารัฐบาลน่าจะมีการปรับนโยบายเร็ว ๆ นี้ แต่นักวิเคราะห์ก็เตือนว่าการเปิดประเทศจีนจะเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนพอสมควร

‘อนุทิน’ ลั่น พร้อมจับมือหนุนทำงานร่วมรัฐบาล ยัน ‘ภูมิใจไทย’ ไม่เคยขัดใคร มีแต่ถูกกระทำ

‘อนุทิน’ ชี้ ‘มิ่งขวัญ’ ซบ พปชร.เป็นเรื่องดี เชื่อ มีคุณภาพช่วยงานได้ ลั่น พร้อมจับมือหนุนทำงานร่วมรัฐบาล พ้อ ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดใคร มีแต่ถูกกระทำ

เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 6 ธ.ค.ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เตรียมเปิดตัวนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคโอกาสไทย มาร่วมเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคพปชร.ว่า หากเข้ามาช่วยในพรรคพปชร.ก็เป็นสิ่งที่ดี และนายมิ่งขวัญมีความสามารถ ตอนแสดงวิสัยทัศน์เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ทำให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีส.ส.6-7คน และจากที่เคยฟังการออกรายการเศรษฐกิจ เห็นว่ามีแนวคิดในแบบของท่าน ที่ฟังแล้วใช้ได้ และคนที่มีฝีมือก็ควรมีโอกาสได้เข้ามารับใช้บ้านเมือง

‘ก้าวไกล’ ยกเหตุ ‘ทหารกร่าง’ สะท้อนระบบกองทัพแย่ ลั่นต้องปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากศูนย์กลางอำนาจ

ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ก้าวไกล ชี้ เหตุทหารกร่าง สะท้อนระบบกองทัพย่ำแย่ ใช้อำนาจข่มกันเอง-ข่มประชาชน อัดเป็น ‘แดนสนธยา’ ตรวจสอบไม่ได้ ลั่นต้องปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ไม่ทำตัวเหนือกฎหมาย

(6 ธ.ค. 65) ธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายทหารยศพันเอกมีอาการมึนเมาและข่มขู่คุกคามบุคคลอื่นกลางร้านอาหาร ว่าเป็นอีกครั้งที่คนในวงการ ‘คนมีสี’ ก่อเหตุความรุนแรง แม้เรื่องที่เกิดขึ้น โฆษกกองทัพบกจะออกมาบอกกับสังคมเหมือนทุกกรณีที่ผ่านมาว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับกองทัพ แต่ในฐานะทหารเก่าคนหนึ่ง ตนขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกองทัพโดยตรง 

ธนเดช กล่าวว่า แน่นอนว่ากองทัพไม่สามารถควบคุมกำลังพลทุกคนให้ไม่ออกนอกลู่นอกทางได้ ไม่มีกองทัพที่ไหนบนโลกที่ทำแบบนั้นได้ แต่ในประเทศที่กองทัพมีความเป็นมืออาชีพจริง ๆ เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย เพราะทหารก็เหมือนกับข้าราชการคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอิทธิพลหรืออำนาจเหนือกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจทางการเมือง ถ้าสังเกตให้ดี ๆ ยุคที่รัฐบาลพลเรือนเป็นใหญ่ บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เหตุการณ์ลักษณะนี้ปรากฏให้เห็นในอัตราความถี่ที่น้อยกว่ามาก แต่ตั้งแต่ยุค คสช. รัฐประหารเมื่อปี 2557 เรื่อยมาจนถึงรัฐบาลสืบทอดอำนาจในปัจจุบัน เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแทบไม่เว้นเดือน ทั้งประเภทที่คนในกองทัพกระทำกันเอง และคนในกองทัพกระทำต่อสังคมภายนอก

“เมื่อเกิดเหตุแล้ว สิ่งที่เหมือนกันจนแทบจะเป็นพล็อตเรื่องเดียวกัน คือผู้ก่อเหตุให้เหตุผลว่าถูกกดดันและทำลายชีวิตราชการ นี่ไม่ใช่คำตอบที่จำกันมา แต่มันคือต้นตอที่ไม่สามารถมองข้ามได้จริง ๆ สังคมที่ดำเนินไปโดยระบอบชนชั้น ใครใหญ่กว่ามีอำนาจ ใครตัวเล็กก็ต้องรับสภาพถูกข่มเหงกันเป็นทอด ๆ เมื่อเกิดความเครียดเกิดความกดดันก็นำพาไปสู่เหตุร้ายต่าง ๆ ที่เราเห็น อีกด้านหนึ่ง ในเมื่อบ้านเมืองที่กองทัพ ‘รันทุกวงการ’ ทั้งอำนาจทางการเมืองและอำนาจทางกฎหมาย เราก็จะได้เห็นทหารกร่างเต็มบ้านเต็มเมืองอาละวาดใส่ชาวบ้านเขาไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันเอง” ธนเดช ระบุ

‘ซุปเปอร์โพล’ ชี้ ‘บิ๊กตู่’ ยืนหนึ่งรักชาติบ้านเมือง ‘จุรินทร์’ นำฟื้นศก. ‘เสี่ยหนู’ พูดจริงทำจริง

ผลสำรวจ ซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เรื่อง ผู้นำทางการเมือง กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผ่านกระบวนการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Survey) เพื่อลดความคลาดเคลื่อนแก้ปัญหาแหล่งความคลาดเคลื่อนจากผู้ถาม ผู้ตอบ และเครื่องมือวัด จำนวน 1,633 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1 - 3 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างบวกลบ ร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เผย ผลสำรวจ ผู้นำทางการเมือง แต่ละฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และกลุ่มเกิดใหม่ ในด้านต่าง ๆ พบว่า...

>> เบอร์ 1 ด้าน รักชาติบ้านเมือง เป็นคนดี
- กลุ่มฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 80.0
- กลุ่มฝ่ายค้าน ได้แก่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 70.7
- กลุ่มเกิดใหม่ ได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์

>> เบอร์ 1 ด้าน คนพูดจริง ทำตามที่พูด กล้าเปลี่ยนแปลง ช่วยชาวบ้าน
- กลุ่มฝ่ายรัฐบาล ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 86.8
- กลุ่มเกิดใหม่ ได้แก่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร้อยละ 54.8
- กลุ่มฝ่ายค้าน ได้แก่ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 49.6


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top