Sunday, 29 June 2025
ค้นหา พบ 49095 ที่เกี่ยวข้อง

Sony โยกฐานผลิตเซมิคอนดัคเตอร์จากญี่ปุ่นมาไทย ทุ่มงบ 2.5 พันล้าน สร้างงานได้กว่า 2 พันตำแหน่ง

Sony จะลงทุนราว 2,500 ล้านบาท สร้างโรงงานเซมิคอนดัคเตอร์ในไทย โดยย้ายการผลิตออกจากญี่ปุ่น เพื่อลดต้นทุนการผลิต

(11 พ.ย. 65) Nikkei Asia รายงานว่า การย้ายฐานการผลิตกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยคาดว่าโรงงานจะพร้อมดำเนินงานภายในเดือนมีนาคมปี 2025 สามารถสร้างงานได้กว่า 2,000 ตำแหน่ง โรงงานดังกล่าวจะรับหน้าที่ผลิตเซนเซอร์รับภาพที่มีส่วนช่วยให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติรับรู้สภาพสิ่งกีดขวางและผู้คนรอบ ๆ

สืบนครบาลตามรวบเซาะ คลองตันนำพวกบุกอุ้มสาว 18 ศัตรูหัวใจใช้มีดจี้คอลากขึ้นรถ กร้อนผมตัดผม ทำร้ายร่างกาย จับแก้ผ้ากระทำอนาจาร ก่อนปล่อยทิ้งข้างทาง

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน  ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชน ว่าเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 65 เวลาประมาณ 00.30 น. ได้เกิดเหตุ ผู้ร่วมก่อเหตุทั้ง 7 คน (หญิง 6  ชาย 1) ได้บุกไปยังบ้านผู้เสียหายรายซึ่งเป็นหญิงสาว อายุเพียง 18 ปี โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ใช้มีดและกรรไกรจี้คอผู้เสียหาย ก่อนจะลากออกจากบ้านพาไปขึ้นรถยนต์ โดยบนรถผู้เสียหายได้ถูก 'กร้อนผม' และถูกทำร้ายร่างกายสารพัดตลอดทาง และกระทั่งได้ขับมาถึงทางเปลี่ยวละแวก หนองแขม กลุ่มผู้ก่อเหตุช่วยกันจับผู้เสียหาย 'แก้ผ้า' และปล่อยทิ้งไว้ข้างทาง แต่ต่อมาเกิดความกลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่จึงรับผู้เสียหายกลับไปส่งที่บ้าน และโดยอ้างว่า “เป็นน้ำใจที่นำกลับมาส่ง ให้ลืมๆเรื่องที่เกิดขึ้นไป” ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมด ได้มีการออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีทั้ง 3 ราย  

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 65 เวลาประมาณ 22.30 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ   ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพ ร.ต.อ.หญิงธิดารัตน์ ผดุงประเสริฐ และเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB ได้จับกุมตัว

น.ส.พัญญรัตน์  ฉัตรทอง  หรือ 'เซาะ คลองตัน' อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 ซอยทรัพย์สาคร แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพ ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2403/2565 ลงวันที่ 7 พ.ย. 65  ในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป”

จับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านเลขที่ 792 ซอยปรีดีพนมยงค์ 32 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนากรุงเทพมหานคร พฤติการณ์กล่าวคือ หลังเกิดเหตุและได้รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายชุดสืบสวนของ สน.วังทองหลาง ได้สืบสวน จนสามารถยืนยันตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้ง 7 ราย คือ 1. น.ส.สุมิตตรา (สงวนนามสกุล) หรือมะขาม อายุ 23 ปี , 2. น.ส.สุนิตา (สงวนนามสกุล) หรือบัว อายุ 20 ปี , 3. น.ส.จุฑารัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือน้ำ อายุ 23 ปี , 4.นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) หรือต้อม อายุ 35 ปี , 5. น.ส.พัญญรัตน์ (สงวนนามสกุล) หรือ 'เซาะ คลองตัน' อายุ 22 ปี , 6.น.ส.ศันศิณี (สงวนนามสกุล) หรือยัด อายุ 23 ปี , 7.น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งต่อมาได้มีการดำเนินคดีโดยมีกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ยอมเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนบางส่วน แต่ยังมีอีก 3 ราย ที่ยังหลบหนี คือ น.ส.เซาะ ต่อมาชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMBได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากพฤติกรรมที่ถูกกระทำนั้นอุกอาจมาก ทำให้เกิดความหวาดระแวงตลอดเวลา ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้สั่งการ ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนนครบาล IDMB จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งจากข้อมูลที่ผู้เสียหายกังวลหนึ่งในผู้ก่อเหตุคือ น.ส.พัญญรัตน์ หรือ “เซาะ คลองตัน” เพราะเป็นผู้ประสานงานให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งหมดในการบุกมาที่บ้านผู้เสียหาย และ น.ส.เซาะ ยังเคยเป็นอดีตแฟนของ นายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งปัจจุบัน นายเอ กำลังคบหาอยู่กับผู้เสียหาย และปัจจุบัน น.ส.เซาะ ยังคงหลบหนีอยู่ โดยหลังรับแจ้ง ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนจนทราบว่าที่พักอาศัยของ น.ส.เซาะ ต่อมา 10 พ.ย. 65 ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. จึงได้เดินทางไปจับกุมตัวตามหมายจับ ได้มีการนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยในชั้นจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบโดย น.ส.พัญญรัตน์ หรือ “เซาะ คลองตัน” ในชั้นจับกุม “เซาะ คลองตัน” ให้การภาคเสธ โดยรับสารภาพในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นร่วมกันบุกรุกในเวลากลางคืน”เพราะได้เข้าไปบ้านของคู่กรณีจริง แต่ปฏิเสธในข้อหา “โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป” 

รอง ผบ.ตร.จับมือกับภาคเอกชนมอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์พร้อมมอบทุนการศึกษาให้กับเยาวชน

ผ่านมาแล้วเกือบหนึ่งเดือนกับเหตุการณ์โศกนาฏกรรมกราดยิงในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตและ ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก 

ถึงวันนี้ที่บริเวณด้านหน้าของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ก็ยังคงมีประชาชนนำนมและของเล่นมาให้น้องน้องที่บริเวณด้านหน้าของ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและยังคงปิดสถานที่ดังกล่าวไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไป ส่วนศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งใหม่ยังอยู่ระหว่างการเตรียมการจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้าง

โดยใน วันนี้ 11 พ.ย.65 เวลาประมาณ 13.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.อก.บช.ทท.  พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู  พร้อมด้วยครอบครัวตั้งคารวคุณ ได้มอบเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์จริงในครั้งนั้นพร้อมกับมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนบริเวณโดยรอบ รวมเป็นเงินเกือบ 300,000 บาท 

13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เกิดเหตุก่อการร้าย ณ กรุงปารีส คร่า 153 ชีวิต ร้ายแรงสุดนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

ค่ำคืนของวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2558 เกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสและเมืองแซ็ง-เดอนี (ย่านชานกรุงปารีสทางทิศเหนือ) ประเทศฝรั่งเศส โดยฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย ISIL

ในช่วงกลางคืนของวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เกิดเหตุก่อการร้ายซึ่งประกอบด้วยการกราดยิง การระเบิดฆ่าตัวตาย และการจับตัวประกันในกรุงปารีสและเมืองแซ็ง-เดอนี (ย่านชานกรุงปารีสทางทิศเหนือ) ประเทศฝรั่งเศส เริ่มตั้งแต่เวลา 21:16 น. ตามเวลายุโรปกลาง เกิดเหตุกราดยิงผู้คน 6 จุด และระเบิดฆ่าตัวตายอีก 4 จุด รวมถึงที่บริเวณใกล้กับสตาดเดอฟร็องส์ (สนามกีฬาแห่งชาติ) ซึ่งกำลังมีการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสกับทีมชาติเยอรมนี การโจมตีที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดอยู่ที่โรงมหรสพบาตากล็อง (Bataclan) ที่ซึ่งผู้ก่อเหตุได้จับผู้ชมคอนเสิร์ตเป็นตัวประกันและเผชิญหน้ากับตำรวจจนสิ้นสุดลงเมื่อเวลา 00:58 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน

จากเหตุการณ์นี้ มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 153 คน โดย 89 คนในจำนวนนี้อยู่ที่โรงมหรสพบาตากล็อง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บระหว่างเหตุโจมตีอีก 352 คน โดยมี 99 คนที่ได้รับการระบุว่ามีอาการสาหัส นอกจากพลเรือนที่ประสบความสูญเสียแล้วยังมีผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 7 คน และทางการกำลังค้นหาผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนี 

12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เครื่องบินซาอุฯ – คาซัคฯ ชนสนั่นกลางอากาศ เสียชีวิตหมดยกสองลำ รวม 349 ชีวิต

วันนี้ของเมื่อ 26 ปีก่อน หรือเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศที่ประเทศอินเดีย ส่งผลให้ผู้โดยสารของทั้งสองลำ เสียชีวิตทั้งหมด รวม 349 คน

เหตุการณ์สุดสลดดังกล่าว เกิดขึ้นจากเครื่องบินลำหนึ่ง เป็นเครื่องบินโดยสารที่เดินทางจาก ‘คาซัคสถาน’ และกำลังจะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติ ‘อินทิรา คานธี’ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย

เกิดชนกันกับเครื่องบินโดยสารอีกลำหนึ่งคือสายการบินของซาอุดีอาระเบีย ที่ขึ้นบินจากท่าอากาศยานเดียวกัน โดยมีปลายทางคือ ‘ซาอุดีอาระเบีย’

โดยตำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุอยู่ใกล้กับเมืองจรรขีทาทรี รัฐหรยาณา ประเทศอินเดีย เหตุการณ์นี้จึงเป็นที่รู้จักกันในภาษาอังกฤษว่า ‘เหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศที่จรรขีทาทรี’

ผลคือ ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินทั้งสองลำรวมทั้งสิ้น 349 คนเสียชีวิตทั้งหมด!!

นั่นจึงทำให้เหตุการณ์นี้ ถือเป็นอุบัติเหตุเครื่องบินชนกันกลางอากาศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก เป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดในประเทศอินเดีย และเป็นอุบัติเหตุทางการบินที่ร้ายแรงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในโลก รองจากเหตุการณ์เครื่องบินชนกันที่ท่าอากาศยานเตเนริเฟในหมู่เกาะคะแนรี ประเทศสเปนในปี พ.ศ. 2520 และอุบัติเหตุเจแปนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 123 ตกที่ประเทศญี่ปุ่นในปี พ.ศ. 2528

สำหรับเหตุการณ์นี้ เครื่องลำหนึ่งเป็นเครื่องบินโบอิง 747 ของสายการบินซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ หรือเที่ยวบินที่ 763 ส่วนอีกลำหนึ่ง คือ เครื่องบินอิลยูชิน อิล-76 ของสายการบินคาซัคสถานแอร์ไลน์ หรือ เที่ยวบินที่ 1907

รายละเอียดของเครื่องบินทั้งสองเที่ยวบินนี้ คือ เที่ยวบินที่ 763 เป็นเที่ยวบินเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดยมีกำหนดลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอัซเซาะฮ์รอน เมืองอัซเซาะฮ์รอน ทางตะวันออกของประเทศซาอุดีอาระเบีย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานนานาชาติสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอะซีซ เมืองญิดดะฮ์ ทางตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย

โดยใช้เครื่องบินโบอิง 747-168 บี หมายเลขทะเบียน HZ-AIH ขณะที่เกิดเหตุเครื่องบินลำนี้มีอายุ 14 ปี 10 เดือน มีผู้โดยสารบนเครื่องบินลำนี้ 289 คน และลูกเรือ 23 คน

ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย ซึ่งเดินทางไปทำงานหรือไปแสวงบุญที่ซาอุดีอาระเบีย และมีชาวต่างชาตินอกเหนือจากอินเดียและซาอุดีอาระเบียอยู่ด้วย 17 คน

ส่วนเที่ยวบินที่ 1907 เป็นเที่ยวบินเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติชิมเคนต์ เมืองชิมเคนต์ ทางตอนใต้ของประเทศคาซัคสถาน มายังท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี กรุงนิวเดลี

โดยใช้เครื่องบินอิลยูชิน อิล-76ทีดี หมายเลขทะเบียน UN-76435 โดยขณะเกิดเหตุเครื่องบินลำนี้มีอายุ 4 ปี ในรายงานข่าวแต่แรกนั้นระบุว่ามีคนบนเครื่องบินทั้งหมด 39 คน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของสายการบินคาซัคสถานแอร์ไลน์ได้แจ้งว่ามีคนบนเครื่องบินเพียง 37 คน โดยเป็นลูกเรือ 10 คน และผู้โดยสาร 27 คน

ซึ่งเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินเหมาลำ โดยมีบริษัทเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในประเทศคีร์กีซสถานเป็นผู้เช่า ผู้โดยสาร 13 คนบนเครื่องบินลำนี้ถือสัญชาติคีร์กีซ

ระหว่างที่ คาซัคสถานแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 1907 ใกล้ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธี ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศของเดลีตามปกติ ซึ่งเจ้าหน้าที่สั่งให้เที่ยวบินที่ 1907 ลดระดับลงมาที่ 15,000 ฟุต

หากแต่ในขณะนั้น ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์เที่ยวบินที่ 763 ก็ได้ทำการขึ้นบินจากท่าอากาศยาน และมุ่งหน้าไปในเส้นทางบินเดียวกัน ซึ่งสวนทางกับเที่ยวบินที่ 1907

เสี้ยวนาทีนั้น เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้เที่ยวบินที่ 763 ไต่ระดับขึ้นไปที่เพดานบิน 14,000 ฟุต เที่ยวบินที่ 1907 เมื่อลดระดับถึง 15,000 ฟุตแล้วก็รายงานต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจร

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนเที่ยวบินที่ 1907 ว่าเที่ยวบินที่ 763 กำลังมุ่งหน้าสวนทางกัน อย่างไรก็ตาม ที่จริงแล้วเที่ยวบินที่ 1907 ไม่ได้รักษาระดับความสูงอยู่ที่ 15,000 ฟุต หากแต่กำลังลดระดับลงมาโดยในขณะนั้นอยู่ที่ระดับความสูง 14,500 ฟุตและกำลังลดระดับต่อไปอีก

เหตุร้ายบังเกิด เมื่อปรากฏว่าเที่ยวบินที่ 1907 ลดระดับลงไปอีกประมาณ 310 ฟุต ที่สุดทั้งคู่จึงได้ชนเข้าอย่างจัง โดยที่เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ ยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเครื่องบินทั้งสองลำชนกันแตกระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top