Monday, 16 June 2025
ค้นหา พบ 48843 ที่เกี่ยวข้อง

สตช. ฝากเตือนภัยการกู้เงินนอกระบบ การทวงหนี้ที่ผิดกฎหมายการปล่อยกู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต มีโทษหนักถึงจำคุก

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนภัยการกู้เงินนอกระบบ โดยปัจจุบันยังคงอยู่ในห้วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของประชาชนบางส่วน จึงมีความจำเป็นต้องไปกู้เงินจากแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งก็มีเหล่ามิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสนี้แฝงตัวมาในรูปแบบของแหล่งเงินกู้นอกระบบและได้กระทำความผิดรูปแบบต่าง ๆ โดยการกระทำความผิดที่พบคือการเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราและการทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในรูปแบบต่างๆ ได้

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดให้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของประชาชนเป็นวาระแห่งชาติ และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชน สร้างการรับรู้แนวทางป้องกันและหากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาและดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุทิน ทรัยพ์พ่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปน.ตร.) สั่งการไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปน.ตร.) และหน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัดที่เกี่ยวข้อง เร่งทำการสืบสวนสอบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ รวมถึงนายทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างจริงจังต่อเนื่องเด็ดขาด เพื่อให้ได้ผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม

ดังเช่นกรณีที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ ได้นำเสนอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ (20 ก.ค. 65) ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.เมือง จว.ลำพูน โดยลูกหนี้รายหนึ่งซึ่งมีอาชีพค้าขายในตลาดแห่งหนึ่งได้ไปกู้เงินนอกระบบจากเจ้าหนี้หลายเจ้ารวมเงินต้นประมาณ 12,000 บาท ต่อมาได้มีคนมาติดตามทวงหนี้ที่บ้านเกิดเหตุหลายครั้งมีการพูดจาข่มขู่และปาของเข้าไปในบ้านทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบปากคำพยานและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย  
โดยต่อมาในที่ 23 ก.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้ได้แล้วจำนวน1ราย ส่วนอีก 1 ราย อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหา ร่วมกันทวงถามหนี้ลักษณะข่มขู่ลูกหนี้หรือกระทำการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่นฯ และได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

'ผบก. ปส.4' นำทีมสะกดรอย รวบ 7 ผตห. ขบวนการค้ายาฯ ผงะ..!! เจอยาไอซ์ 14 กระสอบหนัก 631 กก.

เมื่อวันที่ (25 กรกฎาคม 2565) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.(ปป.) และผู้อำนวยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ศอ.ปส.ตร.) ได้เปิดเผยว่า จากนโยบาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้กำชับนโยบายเร่งรัดการสืบสวนจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่องนั้น ซึ่งวันนี้ ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. ว่าเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการข่าวกรองยาเสพติด, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด, เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจทางหลวง, เจ้าหน้าที่ทัพเรือภาคที่ 2, เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 9 จับกุมผู้ต้องหา จำนวน 7 คน ได้แก่

1. นายลุกมัน หรือมัน อายุ 39 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 
2. นางสาววนิดา หรือดา อายุ 40 ปี ที่อยู่ ตำบลสะบารัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 
3. นายแวแม หรือแม อายุ 38 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 
4.นายดากี หรือกี  อายุ 37 ปี ที่อยู่ ตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส 
5.นายอาลาดิง หรือหวัง  อายุ 32 ปี ที่อยู่ ตำบลกาลิซา อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส 
6.นายมะเปาซี หรือนูซี  อายุ 24 ปี ที่อยู่ ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส 
และ7.นายนครินทร์ หรือมีน อายุ 33 ปี ที่อยู่ ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง ได้แก่

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) จำนวน 14,กระสอบ น้ำหนักประมาณ  631 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะบรรทุกรถยนต์ 2. รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน 3. รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน 4. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง  5. เงินสด จำนวน 240 บาท 

โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า, เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยไม่ได้ รับอนุญาต" สถานที่จับกุม บริเวณริมทางหลวงสาย 4 ตำบลโคกทราย อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง ต่อเนื่อง บริเวณด่านตรวจตำรวจทางหลวงพรุพ้อ ตำบลคูหาใต้ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา และ ริมถนนเพชรเกษม ขาล่อง ตำบลควนลัง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบข้อมูลของนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนกระทั่งวันที่ (22 กรกฎาคม 2565) พบว่า นายแม็ง หรือนายนครินทร์ เป็นนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมีการลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคกลางไปส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะซุกซ่อนยาเสพติดมากับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิชซูบิชิ และจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทำหน้าที่เป็นรถนำทางเพื่อตรวจการณ์การตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ทำการสืบสวน เฝ้าติดตามรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 41 ตั้งแต่บริเวณรอยต่อจังหวัดนครศรีธรรมราช-พัทลุง อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง จนถึงจุดตรวจทางหลวงรัตภูมิ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา จนกระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น. 

จับอีก!! ผู้ค้าสลากหวังเก็งกำไร ซื้อสลากดิจิทัลนำไปขายต่อเกินราคา

ตามที่มีนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดำเนินการควบคุมและกำกับดูแลในการตรวจสอบผู้ที่มีพฤติการณ์ที่มีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ซึ่งได้มีการดำเนินการกันมาอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ (21 ก.ค. 65) ที่ผ่านมา พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มอบอำนาจให้ผู้แทนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติการณ์ในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้จำหน่ายสลากรายดังกล่าวได้มีการนำเอาภาพของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการจำหน่ายผ่านช่องทางสลากดิจิทัล นำมาเสนอขายผ่านทางหน้าเพจ Thai Lotto ในเฟซบุ๊ก ราคาฉบับละ ๑๐๐ บาท หากถูกรางวัลจะโอนเงินรางวัลให้ก่อนทันที การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการเสนอจำหน่ายสลากเกินราคา จึงได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว

จากการสืบสวนในกรณีดังกล่าวพบว่า ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก Thai Lotto ดังกล่าวเป็นเพจของ นายภูริวัฒน์ ดิษฐเจริญ อายุ 34 ปี ได้มีการนำเสนอจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยการให้ลูกค้าเลือกเลขที่ต้องการ แล้วทักแชทเพื่อติดต่อขอซื้อสลากกินแบ่ง ทางเพจก็จะนำภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเป็นภาพจากสลากดิจิทัล นำมาให้ลูกค้าเลือกเลข โดยเสนอจำหน่ายฉบับละ 100 บาท โดยให้ชำระเงินโดยการโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.สกุลรัตน์ สมเกี่ยม ซึ่งเป็นภรรยาของนายภูริวัฒน์ฯ และจากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ทั้งนายภูริวัฒน์ฯ และ น.ส.สกุลรัตน์ฯ ได้มีการซื้อสลากดิจิทัลไปรวมกันจำนวน 1,800 ใบ นอกจากนี้ น.ส.สกุลรัตน์ฯ ยังเคยเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลกับบริษัท มังกรฟ้า ลอตเตอรี่ จำกัด อีกด้วย

ปธ.บริษัทในเครือ ฮงล้ง กรุ๊ป มอบข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อนำไปใช้ในงานประเพณีทิ้งกระจาดแจกทาน ประจำปี 2565 ของทางแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล

ณ บริเวณห้องโถงศาลเจ้าจีนปุงเฒ่ากงม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ดร.สุขาติ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานบริษัทในเครือ ฮงล้ง กรุ๊ปพร้อมด้วยคณะครอบครัว ได้นำข้าวสารอาหารแห้ง ประกอบไปด้วย ข้าวสาร 50 กระสอบ อาหารแห้ง (มาม่า) น้ำดื่ม นมเปรี้ยว จำนวน 30 ลัง มามอบให้กับแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล โดยมี นายสมศักดิ์  คะวีรัตน์ ประธานแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศลพร้อมด้วยคณะกรรมการเถ้านั้ง ชุดที่ 53 ประจำปี 2565 เป็นผู้ร่วมรับมอบและให้การต้อนรับ 

การมอบข้าวสารอาหารแห้งในครั้งนี้ เพื่อให้ทางแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศลได้นำไปใช้ภายในงานประเพณีทิ้งกระจาดแจกทาน ศาลเจ้าปุงเฒ่ากงอำเภอแม่สอด ชุดที่ 53 ประจำปี 2565 ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานานของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลส่วนกุศล แก่บรรพบุรุษ และดวงวิญญาณอื่นๆ มีกิจกรรมแจกทานแก่ผู้ยากไร้ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต


ภาพและข่าว วรภา  พันลุตัน จ.ตาก

‘บิ๊กตู่’ คุย ‘ชัชชาติ’ คาดสั่งการแก้น้ำท่วม ตอกย้ำชัด ทำทุกอย่างเพื่อประชาชน

เมื่อเวลา 09.30 น. (วันที่ 25 ก.ค. 65) ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ได้พูดคุยกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร และตัวแทนจากกองทัพ ประมาณ 5 นาที 

ทั้งนี้ คาดว่า มีการหารือ รวมทั้งสั่งการถึงมาตรการการช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่มีฝนตกลงมาและเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางกองทัพ และกรุงเทพมหานครได้ประสานความร่วมมือในการช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว แต่คาดว่าในช่วงฤดูฝนขณะนี้อาจเกิดเหตุการซ้ำขึ้นมาอีก

ทั้งนี้ ภายในงานมอบตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 นายกรัฐมนตรี ยังได้รับฟังเพลงสดุดีพระแม่ไทย บรรเลงและขับร้องโดยวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาต และพระบรมราชวินิจฉัย ให้รัฐบาลจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และพระราชทานแบบตราสัญลักษณ์ พร้อมความหมายภาษาไทยและภาษาอังกฤษด้วยแล้ว รัฐบาลจึงขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 โดยร่วมกันจัดทำโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ และถวายพระราชกุศลให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติ ตลอดปี 2565 นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top