Wednesday, 25 June 2025
ค้นหา พบ 49003 ที่เกี่ยวข้อง

'เกษตรฯ' เร่งขับเคลื่อน 'นโยบายอาหารแห่งอนาคต' เล็งเจาะตลาด 'สาหร่าย' มูลค่า 5 แสนล้าน

'เกษตรฯ' เร่งขับเคลื่อนนโยบายอาหารแห่งอนาคต เล็งเจาะตลาดสาหร่ายมูลค่า 5 แสนล้าน ด้านกรมประมง คิกออฟงาน 'อนาคตสาหร่ายทะเลในประเทศไทย Seawed : The Next Future'

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ (27มิ.ย.) ว่า ภายใต้ 'นโยบายอาหารแห่งอนาคต' ของดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งยกระดับอัพเกรดภาคเกษตรของไทยสู่เกษตรมูลค่าสูงเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพเพิ่มรายได้ใหม่ให้เกษตรกรและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง รวมทั้งตอบโจทย์วาระเศรษฐกิจมหาสมุทรที่ยั่งยืน (Sustainable Ocean Economy) เพื่อเป็นส่วนร่วมในทศวรรษวิทยาศาสตร์มหาสมุทรแห่งสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (พ.ศ. 2564 – พ.ศ. 2573) และการลดภาวะโลกร้อนจากผลกระทบของก๊าซเรือนกระจก จึงดำเนินการสนับสนุนส่งเสริมการผลิตและแปรรูปสาหร่ายทะเล (Seaweed) เป็นอาหารแห่งอนาคตตัวใหม่

เพราะปัจจุบันการผลิตสาหร่ายทะเลเติบโตอย่างรวดเร็วมีผลผลิตทั้งหมดทั่วโลกในปี 2562 ไม่น้อยกว่า 35 ล้านตัน มีมูลค่ารวมของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 5 แสนล้านบาทเนื่องจากมีศักยภาพที่จะนำไปใช้ในอาหาร อาหารเสริม อาหารสัตว์ ปุ๋ย เชื้อเพลิงชีวภาพ เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง ซีรั่มชะลอความแก่ เป็นต้น อีกทั้งการเพาะปลูกสาหร่ายสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในทะเลและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ 

ดังนั้นอุตสาหกรรมสาหร่ายทะเล จึงมีศักยภาพในวงกว้างสาหร่ายไม่เพียงเป็นแหล่งที่ให้ปริมาณโปรตีนในระดับสูงเท่านั้น หากยังมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกาย ได้แก่ วิตามินบี แคลเซียม ธาตุเหล็ก กรดไขมันที่จำเป็น และใยอาหารสูง นอกจากนี้ สาหร่ายยังมีกรดไขมันบางชนิดที่พบไม่ได้ในพืชชนิดอื่น ได้แก่ กรดไขมันที่มีโอเมก้า 3 และ 6 เช่น EPA และ DHA ทำให้ผลิตภัณฑ์เนื้อเทียมจากสาหร่ายมีคุณค่าทางอาหารเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยกรดกลูตามิก ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ทำให้เกิดรสอูมามิหรือรสกลมกล่อมในอาหารอีกด้วย

นายอลงกรณ์ยังกล่าวต่อไปว่า กรมประมงจึงได้ผนึกความร่วมมือกับทุกภาคส่วนคิกออฟ 'นโยบายอาหารแห่งอนาคต' ด้วยการจัดงาน 'อนาคตสาหร่ายทะเลในประเทศไทย Seaweed : The Next Future' ในวันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เวลา 09.00 – 16.00 น. โดยกรมประมงเป็นเจ้าภาพร่วมกับ มูลนิธิเวิลด์วิว ไคลเมท (WCF : Worldview Climate Foundation) และ และมูลนิธิเวิลด์วิว อินเตอร์เนชั่นแนล (WIF: Worldview International Foundation) 

งานเสวนาครั้งนี้จะฉายภาพสถานการณ์ของสาหร่ายทะเลในระดับประเทศ ภูมิภาค จนถึงระดับโลกที่เกี่ยวข้องกับสาหร่ายทะเลตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเพื่อพัฒนาและยกระดับสาหร่ายทะเลจากหลากหลายภาคส่วนในมิติต่างๆ ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วิชาการ ตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติการ ผู้ประกอบการ นักวิจัย ผู้พัฒนานวัตกรรมการแปรรูป ภาครัฐ ภาคเอกชน ไปจนถึงองค์กรระหว่างประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายเช่น องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยต่างๆ  เพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับสาหร่ายทะเลของประเทศไทย รวมทั้งขยายความรู้ความเข้าใจขอบเขตความร่วมมือด้านสาหร่ายทะเล ตลอดจนโอกาสในการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวประมงของไทยอย่างยั่งยืน

'กรณ์' บี้ต่อเนื่อง ทวง 'พาณิชย์-พลังงาน' เร่งหาทางออก เผยตัวเลขหนี้กองทุนน้ำมันทะลุแสนล้าน ค่าการกลั่นพุ่ง 10 บาท

นายกรณ์ จาติกวณิช เปิดเผยว่า ตามที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ วันที่ 12 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นการแถลงข่าวของตนวันแรกว่า ประเทศไทยจะมาถึงจุดที่ค่าการกลั่นพุ่งไปเรื่อยๆ และกองทุนน้ำมันจะสูงทะลุ 1 แสนล้านหากยังไม่มีมาตรการใด ๆ 

เดิมทีกฎหมายกำหนดเพดานหนี้ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท เปลี่ยนขึ้นมาเป็น 40,000 ล้านบาท และเมื่อต้นปีนี้ยกเลิกเพดาน จึงเป็นที่มาขอหนี้ที่ยังมีเพิ่มขึ้นทุกวันนี้ 

เมื่อถามว่า สุดท้ายใครจ่าย คำตอบคือ ประชาชนทุกคนที่จะต้องอยู่กับนํ้ามันแพงไปอีกนาน เพื่อชำระหนี้ทุกครั้งที่เราเติมน้ำมันลงถัง สาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งที่หนี้กองทุนน้ำมันยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ก็เพราะค่าการกลั่นที่ยังสูงไม่หยุด 

“พรรคกล้าติดตามค่าการกลั่นอยู่ทุกวัน จากที่ทุกหน่วยงานของพลังงานออกมาปฏิเสธ ค่าการกลั่น 8 บาทกว่าที่เราเสนอตั้งแต่ต้นเดือน ตัวเลขล่าสุดจากข้อมูลของเว็บไซต์กระทรวงพลังงานเอง ชี้ให้เห็นว่า ค่าการกลั่น ณ วันที่ 25 มิถุนายน ทะลุ 10 บาทต่อลิตรไปแล้ว ใครที่ยังหาตัวเลขไม่เจอ ทั้งหมดอยู่ในเว็บไซต์ EPPO ของกระทรวงพลังงานเองครับ ลิงค์ : http://www.eppo.go.th/.../petro.../price/structure-oil-price” หัวหน้าพรรคกล้า กล่าว

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัยการเลือกซื้อสินค้าจากการจัดโปรโมชั่นของร้านค้าหรือผู้ประกอบการ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีอาจถูกหลอกลวงสร้างความเสียหาย 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนภัยการเลือกซื้อสินค้าจากการจัดโปรโมชั่นเพื่อรับส่วนลดหรือของแถม จากร้านค้า ผู้ประกอบการ ควรตรวจสอบข้อมูลให้ดีอาจถูกหลอกลวงสร้างความเสียหายได้  

ในห้วงที่ผ่านพบว่ามีการหลอกลวงของมิจฉาชีพที่เกี่ยวกับการเสนอขายสินค้าโดยการจัดโปรโมชั่นเพื่อ ลด แลก แจก แถม สินค้าหรือบริการต่างๆ ดังเช่นกรณีร้านบุฟเฟ่ต์แซลมอนชื่อดังรายหนึ่งขายคูปองทานอาหารในราคาถูก แล้วต่อมาได้ปิดกิจการ ทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลและนำตัวผู้ต้องหายื่นฝากขังต่อศาลอาญาตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว 

และในกรณีล่าสุดที่มีการจำหน่ายคูปองที่พักและบัตรอาหารย่านพัทยาและใกล้เคียง ของบริษัทแห่งหนึ่ง หลังมีการจัดโปรโมชั่นขายคูปองในราคาถูกเพื่อเข้าไปรับการบริการดังกล่าว เช่นราคาที่พัก 999 บาท ซื้อในช่วงโปรโมชั่นเพียง 22 บาท เป็นต้น และเนื่องจากมีราคาถูกจึงมีประชาชนสนใจไปซื้อคูปองจากทางร้านเองหรือจากตัวแทนที่รับคูปองมาจำหน่ายอีกที แต่ต่อมาไม่สามารถเข้าไปพักได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ได้ เนื่องจากทางเจ้าของที่พักได้ปฏิเสธไม่ยินยอมให้เข้าพัก ต่อมาทางบริษัทผู้จำหน่ายคูปองยกเลิกให้บริการจองที่พักด้วยคูปองทั้งหมด สร้างความเสียหายให้กับลูกค้าเป็นจำนวนหลายราย 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ตระหนักถึงพิษภัยภัยจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพในลักษณะดังกล่าว อันเป็นการสร้างความเสียหายซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชนในห้วงการแพร่ระบาดโควิด-19 จึงได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีมาตรการและดำเนินการป้องกันปราบปรามตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างจริงจัง 

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค พล.ต.อ.สุวัฒน์   แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำชับและสั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ในการป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ให้เร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบการกระทำความผิดต่างๆ พร้อมเร่งทำการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและตัดโอกาสในการกระทำความผิดอย่างจริงจังต่อเนื่องโดยให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม 

ซึ่งความคืบหน้าของการดำเนินการดังกล่าวขณะนี้ บก.ปคบ. ได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายเพื่อทำการรวบรวมพยานหลักฐานโดยทำการสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วกว่า 23 ปาก สอบปากคำพยานไปแล้ว 7 ปาก(เจ้าของที่พัก ร้านอาหาร และอื่นๆ) ตรวจสอบหลักฐานการเงินของบริษัทผู้ขายคูปองทั้ง 2 บริษัท โดยได้ทำการตรวจสอบพบความเสียหายในเบื้องต้นจากผู้เสียหายที่สอบปากคำ มูลค่าประมาณกว่า 1,200,000 บาท ซึ่งยังมีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาร้องทุกข์เพิ่มเติมอีกจำนวนมาก และต้องสอบสวนพยานเจ้าของที่พักตามที่ระบุไว้ในคูปองอีกกว่า 20 แห่ง (ในพื้นที่เมืองพัทยาและใกล้เคียง) และทำการรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงหากมีการนำไปบิดเบือนหรือผลิตข่าวปลอมที่เกี่ยวกับการจัดโปรโมชั่นสินค้าผ่านสื่อสังคมออนไลน์  ก็จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง  

พิธีกร 'ข่าวแหกโค้ง' เมาท์ศัลยกรรม 'เป๊ก ผลิตโชค' พลาด!! ลืมปิดไมค์หลุดโซเชียล เดือดติดเทรนด์ทวิต

แฮชแท็ก #ข่าวแหกโค้ง เดือด จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์เลยทีเดียว หลังจากที่แฟนคลับ ‘เป๊ก ผลิตโชค อายนบุตร’ ที่ได้ติดตามรายการ แคปคลิปรายการที่เป๊ก ให้กำลังใจนักตบสาว ก่อนกล้องตัดเสียงพิธีกรชายพูดว่า ก่อนหน้านี้เขาหล่อกว่านี้นะ ส่วนพิธีกรหญิงก็พูดทำนองว่า “ก็ทำเยอะไปแล้วไง” ซึ่งความโป๊ะคือทั้งสองพิธีกรยังไม่ได้ปิดไมค์ ทำให้ได้ยินกันทั่ว งานนี้ทำเอาเหล่านุชและชาวเน็ตพากันผิดหวังกับคำพูดของพิธีกร โดยมองว่าเป็นการนินทาและบูลลี่ศิลปินกันเอง งานนี้เหล่านุชและชาวเน็ตรวมตัวกันแหกเจ็บทุกดอกเลยทีเดียว อาทิ

“เขาเงียบ ๆ ไป 2 ปี มีบางช่วงที่พูดช้าลง ไม่เข้าโซเชียลพักนึง ขาดความมั่นใจด้วย ตอนนี้เขาเพิ่งกลับมา เพิ่งจะสดใส เขาเพิ่ง100% ถ้าใจดีกับเค้าไม่ได้ ช่วยมีมารยาทกับเค้าด้วยค่ะ หรือถ้ามีมารยาทไม่ได้ ช่วยทำความเข้าใจหน่อยค่ะ ว่าการบูลลี่มันคือสิ่งไม่ดี ทั้งโลกเขารณรงค์อยู่ #ข่าวแหกโค้ง”

“#ข่าวแหกโค้ง #นักข่าวช่อง25 @GMM25Thailand ความเป็นมืออาชีพ & จรรยาบรรณในอาชีพควรมีนะคะ แม้ว่า.. มารยาทในชีวิตจริงอาจจะไม่มีก็ตาม อีกอย่างคำพูดสะท้อนทัศนคติของคุณ คุณไม่อายหรือว่าคนจะมองยังไง.. ลืมไป.. คุณอาจจะไม่อายจริงๆ ก็ได้นะ”

รู้จัก 'ณัฐฐิญา ปวงคำ' เจ้าสาวของ 'โอ๊ค' ดีกรีผู้บริหารโรงแรม เอส ซี ปาร์ค

รู้จักเจ้าสาวป้ายแดง ‘โอ๊ค พานทองแท้’ หลังซุ่มวิวาห์เงียบ เป็นถึงผู้บริหารเอสซีพาร์ค

เมื่อวันที่ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เข้าพิธีสมรสกับ น.ส.ณัฐฐิญา ปวงคำ ผู้บริหารโรงแรมเอส.ซี.พาร์คเมื่อวันที่ (24 พ.ค.) ที่ผ่านมาที่บ้านพักของนายพานทองแท้ ย่านคันนายาว กทม.

สำหรับพิธีสมรสครั้งนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น มีเพียงญาติและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมพิธีเป็นการภายในเท่านั้น โดยมีคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา นายพานทองแท้ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น้องสาว พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีพร้อมทั้งเตรียมงาน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top