Saturday, 5 July 2025
ค้นหา พบ 49200 ที่เกี่ยวข้อง

States TOON EP.58

สายพันธุ์ใหม่!!

ติดตามการ์ตูนอัปเดตได้ทุกสัปดาห์ใน…

กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ถกใช้ ม.112 ไร้มาตรฐาน เป็นเครื่องมือการเมือง หยิบใช้อย่างไม่เป็นธรรม

กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ถกกรณีการทำโพลเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์และการรับเสด็จ โดยกลุ่มราษฎรและกลุ่มมังกรปฏิวัติ ชี้ หลักเกณฑ์ดำเนินคดี-ประกันตัวไม่มีมาตรฐาน ยืนยัน การตั้งคำถามและแสดงความเห็นต่อสถาบันกษัตริย์เป็นสิทธิ ไม่ใช่ความผิด “หมออ๋อง” ชี้ ยิ่งใช้กฎหมายไม่เป็นธรรมยิ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันกษัตริย์และประเทศในทางลบ

คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เชิญหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือในญัตติซึ่งเสนอ โดย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะกรรมาธิการ เกี่ยวกับการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 (กฎหมายหมิ่นกษัตริย์ฯ) ต่อกลุ่มเยาวชนที่จัดกิจกรรมทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และกรณีจัดกิจกรรมร่วมรับขบวนเสด็จ รวมถึงกรณีของ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมซึ่งถูกดำเนินคดีและปฏิเสธสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวในขณะนี้

โดยมีการเชิญตัวแทนจากทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และ สน.นางเลิ้ง), สำนักงานศาลยุติธรรม, สำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนเครือข่ายสิทธิมนุษยชน, ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, ตัวแทนกลุ่มราษฎร กลุ่มมังกรปฏิวัติ และกลุ่มทะลุวัง 

ในการประชุมมีการซักถามและตอบข้อซักถามชี้แจงในหลายประเด็น โดยเฉพาะในเรื่องของเกณฑ์ที่เจ้าหนัาที่ตำรวจ อัยการ และศาล ใช้ในการพิจารณาว่าเรื่องใดเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 112 และหลักเกณฑ์ในการให้หรือไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ว่ามีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเช่นไร

เนื่องจากในปัจจุบันนี้ กระบวนการดำเนินคดีตามมาตรา 112 มีปัญหาการกำหนดเงื่อนไขการประกันตัว เช่น การกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหา ทั้งที่ยังไม่ถูกพิจารณาคดีว่าเป็นความผิด, การใช้กำไลควบคุมผู้ถูกกล่าวหาไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาไปใช้เสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง ทั้งที่เป็นคดีเกี่ยวกับการใช้เสรีภาพ, การไม่สามารถพูดหรือวิจารณ์ใดๆ เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดี

รวมทั้งการบังคับใช้มาตรา 112 ที่ปัจจุบันนี้ไม่ว่าการเคลื่อนไหวใดๆ เมื่อพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ จะถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ทันที อย่างเช่น กรณี สมบัติ ทองย้อย ที่โพสต์ข้อความ “กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ” ถูกพิพากษาว่าผิดมาตรา 112 ซึ่งความจริงแล้วไม่ควรถูกพิจารณาว่าเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์

ในฝ่ายของผู้บังคับใช้กฎหมาย มีการชี้แจงจากทั้งตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ และสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุว่าในทางปฏิบัติ เมื่อมีการกล่าวหาตามมาตรา 112 เกณฑ์ในการพิจารณาจะต้องดูที่เจตนาของผู้ถูกกล่าวหา ว่ามีเจตนาอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันกษัตริย์หรือไม่

ขณะที่การพิจารณาเงื่อนไขการให้หรือไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตัวแทนจากสำนักงานศาลยุติธรรมระบุว่าโดยหลัก เมื่อมีการขอฝากขัง ผู้ต้องหามีสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนมีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไข รวมทั้งการติดกำไล EM ในแต่ละกรณีเป็นอำนาจของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนแต่ละคน โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงและรายละเอียดพฤติการณ์ในแต่ละกรณีไป

พร้อมยืนยันว่าการติดกำไล EM ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย ที่ศาลกำหนดเพื่อไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อตัวคดี อีกทั้งการติด EM ยังเป็นหลักประกันให้ผู้ถูกกล่าวหาได้กลับบ้านโดยไม่ต้องมาอยู่ในเรือนจำ

ส่วนการเพิกถอนสิทธิประกันตัว เป็นคนละส่วนกับการสืบว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดจริงหรือไม่ ซึ่งการถอนประกันอาจเป็นเพราะผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ตีความว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขประกันที่ได้กำหนดไว้ได้ โดยการใช้ดุลพินิจ อาศัยเกณฑ์ตามแนวทางคำแนะนำของประธานศาลฎีกา แต่ก็ไม่ได้เป็นกรอบที่ตายตัวมีความยืดหยุ่น ให้ผู้ต้องหาแต่ละคนให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวที่เหมาะสม

ตลอดการชี้แจง มีการโต้แย้งซักถามโดยตัวแทนของกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มเยาวชน ที่ตั้งคำถามถึงเกณฑ์ต่างๆ โดยระบุว่าจากที่มีการชี้แจงมาทั้งหมด ก็ยังไม่เห็นสิ่งที่เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินคดี ตลอดจนการให้หรือไม่ให้ประกันตัวในแต่ละคดีคืออะไรกันแน่ และในหลายกรณียังเต็มไปด้วยความไม่ได้สัดส่วนอีกด้วย

“เมนู” สุพิชฌาย์ ชัยลอม ตัวแทนจากกลุ่มทะลุวัง ระบุว่า ตามหลักของกระบวนการยุติธรรมในคดีอาญา จะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยที่ยังไม่ถูกพิพากษาจนถึงที่สุดเป็นผู้ที่ไม่มีความผิด จะปฏิบัติเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดไม่ได้ กิจกรรมที่ตัวเองและเพื่อนทำจนถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 คือการทำโพล ซึ่งเป็นการตั้งคำถาม สร้างพื้นที่ให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นโดยการติดสติ๊กเกอร์ เป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตัวเองยืนยันและพร้อมต่อสู้คดีว่าไม่ใช่ความผิด การกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหา จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล

ส.ว. จับกระแสวัยรุ่นชวนนักเรียนนักศึกษาเปิดเวทีร้องแรปสด งานสัมมนา "การสร้างเสริมความรู้ระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ในสถานศึกษา"

เมื่อวันพุธที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕ ณ ห้องสัมมนา บี ๑-๒ สัปปายะสภาสถาน กรุงเทพฯ นายกา พล เลิศเกียรติดารง สมาชิกวุฒิสภาและประธานอนุกรรมาธิการด้านวิชาการและเสริมสร้างการให้ความรู้ ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและส่งเสริม การมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวว่า ได้จัดสัมมนาเรื่อง "การสร้างเสริมความรู้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ในสถานศึกษา" ให้เยาวชนและบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนบุคคล ผู้สนใจทั่วไปมีความเข้าใจอย่างถูกต้องในระบอบการปกครองแบบนี้ พร้อมทั้งเปิดกว้างรับฟังมุมมองความ คิดเห็นเยาวชนและประชาชนอย่างกว้างขวาง โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาอย่างล้นหลามมากกว่า ๑๖๐ คน

ภายในงานได้รับเกียรติจากคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว เปิดการสัมมนาและให้ข้อคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ต่อหัวข้อการสัมมนา โดยมีนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิก วุฒิสภาและประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา เป็นผู้ กล่าวรายงาน

บลูเทคซิตี้ร่วมกิจกรรมโครงการปลูกต้นไม้วันสำคัญต่างๆ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕

(วันที่ 12 พ.ค. 2565) ทีมงานฝ่าย CSR ของโครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ ได้ลงพื้นที่ปลูกต้นไม้ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองจอก ณ บริเวณถนนเฉลิมพระเกียรติ ต.หนองจอก อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนายไพเราะ ล้ำเลิศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองจอก เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการปลูกต้นไม้วันสำคัญต่างๆ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ พร้อมด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและจิตอาสาร่วมกัมปลูกต้นไม้ 2 ฝั่งริมถนนเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร เพื่อการเป็นสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานได้เห็น

โซเชียลตั้งข้อสังเกต จัดฉากถ่ายหลวงปู่แสง ขยี้เหตุเหมือนเกิดในที่ลับ ทั้งที่อยู่ในที่แจ้ง

เพจ ‘ข่าวสารงานพระพุทธศาสนา’ ได้โพสต์ข้อความตั้งสังเกตกรณีดราม่าสังคมตั้งข้อสงสัย ‘หลวงปู่แสง’ ลวนลามสีกา ไว้ว่า…

คลิปนี้เป็นคลิปที่อีกฝ่ายอ้างว่าเป็นหลักฐาน เดี๋ยวเรามาคิดตามนี้ดูน่ะครับ

1.) ทำไมถึงต้องถ่ายคลิปไว้ตั้งแต่ไปหาท่าน มีเจตนาอะไร?
(เพราะว่ามีคนไปหาท่านตลอดไม่ใช่ที่ลับหูลับตาอะไรท่านเมตตานั่งรับโยมที่มากราบตลอดวัน ท่านแทบไม่ได้ลุกไปไหนคุณมีเจตนาอะไร?)

2.) ผู้หญิงอีกคนบอกให้เข้าไปใกล้ๆ หลวงปู่อีกเพื่ออะไร?
(ทั้งที่ลูกศิษย์ที่คอยดูแลหลวงปู่อยู่ก็บอกแล้วว่าให้ถอยออกเข้าใกล้แค่นี้พอแล้ว แต่คุณก็ยังขยับไปใกล้ท่านแทบจะกราบตักท่าน ท่านก็เมตตาลูบบ่าลูบหัวให้อีกต่างหาก)

3.) ถ้าจะบอกว่าพระไม่ควรโดนตัวสีกา แล้วคุณไปใกล้ท่านเพื่ออะไร?
(คุณบอกว่าท่านจับตัวสีกาพระไม่ควรจับตัวสีกา แต่ให้ดูในคลิปคนที่เข้าหาท่านคือผู้หญิงคนนี้ ท่านนั่งของท่านที่เดิม คุณเข้าไปใกล้ท่านจนลูกศิษย์ที่ดูแลต้องบอกให้ถอยออกหลายครั้งเพราะคุณเข้าไปใกล้ท่านมากเกินไป)

4.) คุณบอกไม่ควรที่พระจะอยู่ในกุฏิกับสีกา?
(ต้องถามว่าคนที่พูดวิจารณ์เคยไปที่นี่หรือยัง เพราะถ้าคุณเคยไปกราบหลวงปู่คุณจะไม่สงสัยเรื่องนี้ เพราะที่นี่เป็นสถานที่เปิดเพราะมีคนไปกราบหลวงปู่อยู่ตลอดเวลา และมีลูกศิษย์ที่เป็นฆราวาสคอยดูแลหลวงปู่อยู่ด้วยตลอดเวลาไม่น้อยกว่า 2 คน และที่เป็นพระอีกหลายรูป)

5.) ในคลิปผู้หญิงคนด้านหลังมีการเบลอหน้าลบหน้าตั้งแต่ต้นเพื่ออะไร?
(มีการจัดฉากจงใจถ่ายหรือเปล่า เพราะคลิปนี้เป็นคลิปเหมือนแอบถ่าย ถ้าจะถ่ายจริงๆ จะแอบทำไม เพราะมีคนถ่ายรูปถ่ายคลิปท่านอยู่ตลอดอยู่แล้ว จะกลัวอะไร? เจตนาเช่นนี้คุณมีการวางแผนมาก่อนหรือไม่?)

6.) ทำไมคุณถึงเอามาเผยแพร่คุณต้องการอะไร?
(คุณรู้ได้อย่างไรว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น คุณถึงถ่ายคลิปช่วงนี้และเจาะจงถ่ายไปที่หลวงปู่ และที่ไปมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น แปลกๆ ไปหรือเปล่า?)


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top