Saturday, 17 May 2025
ค้นหา พบ 48149 ที่เกี่ยวข้อง

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2564

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ประเด็น การจัดเก็บและการขนส่งวัคซีน ระบบ Cold Chain ในไทย จากกรณีวัคซีนซิโนแวคเป็นเจล

สัมภาษณ์สด คุณธนานันต์ สุวรรณโพธื์รุ่ง ผจก.ทั่วไป บจก.ธนวรรณ เครื่องเย็น ผู้ผลิตตู้แช่วัคซีน  Meditechcenter

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อารยะขัดขืน! ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผุดแคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม ต่อต้านมาตรการห้ามนั่งกินที่ร้าน พร้อมเชิญชวนให้มาร่วมลงชื่อ

จากกรณีราชกิจจานุเบกษา ได้ออกประกาศล็อกดาวน์กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ปิดไม่ให้นั่งทานอาหารในร้าน ล็อกแคมป์คนงานเป็นเวลากว่า 1 เดือน

ทำให้โลกออนไลน์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การออกประกาศดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่าจะไม่มีการล็อกดาวน์ ทำให้เกิดความเสียหายต่อสินค้าที่สั่งไว้จำนวนมาก เนื่องจากเพิ่งได้ขยายเวลาเปิดร้านอาหารถึงเวลา 23.00 น. ได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น

ล่าสุดในโลกออนไลน์ มีการผุดแคมเปญใหม่ #กูจะเปิดมึงจะทำไม จากกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่เรียกร้องให้บรรดาร้านอาหารแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการดังกล่าว

ทั้งนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า ร้านไหนอยากร่วมแคมเปญ #กูจะเปิดมึงจะทำไม มาค่ะ จะร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านลาบ ร้านคราฟท์เบียร์ ร้านเหล้า ลงชื่อกันไว้ก่อนได้เลยค่ะ

ใจความระบุว่า เราจะชวนคุณเปิดขายอาหาร+เครื่องดื่มกลับบ้าน และจัด event เปิดเวทีปราศรัย เล่นดนตรี unplugged ในร้าน ให้เข้าฟังร้านละ 20 คน จัดทีละเขต (ถ้าดูในฟอร์มจะเห็นว่าเราให้ระบุพื้นที่ สน.ไว้) เขตละ 5-10 ร้านในวันเดียวกัน ใครใคร่ไปร้านไหนไป แล้วก็เปลี่ยนไปจัดเขตอื่นต่อ ไอเดียมาจากงานคืนกลางคืน ของศิลปิน ปชต. กับร้าน Junk House Music Bar

กิจกรรมระยะสอง : Open!

ส่งเสียงขนาดนี้แล้วไม่ฟัง เราก็อย่าฟังมัน

เปิดร้านค่ะ เปิดให้นั่ง ขายเหล้าเบียร์ เล่นดนตรีสด แบบมีมาตรการ รักษาระยะห่าง ไม่ต้องประชาสัมพันธ์ ไม่ต้องเอิกเกริก แต่เปิดโอกาสให้ลูกค้าประจำและเพื่อนฝูงได้มาสนับสนุนคุณ ถ้ามีการมาจับกุม เราก็รวมพลังกันด่าและสู้ ถึงตอนนั้น เครือข่ายเราก็จะแข็งแรงแล้ว

กิจกรรมระยะสาม : Market Place + Mob

ถ้าทำขนาดนี้แล้วยังไม่เกิดอะไร ลงถนนกันเถอะ

ออกร้านขายอาหารบนถนนกันค่ะ เปิดลานเบียร์ ตั้งเวทีเล่นดนตรี แล้วก็ปราศรัยใหญ่ด่าพวกมัน เชื่อว่าคนเอาแน่ ลูกค้าคุณจะตามมาซื้อ มวลชนจะมากินมา support แน่ ๆ

เริ่มต้นจากการกรอกฟอร์มค่ะ ย้ำอีกที

ทั้งหมดนี้เป็นไอเดียเบื้องต้นจากการปรึกษาหลาย ๆ คนนะคะ ซึ่งเราเข้าใจค่ะว่ามันมีความเสี่ยงหลายอย่าง แต่จุดนี้ถ้าจะสร้างเครือข่ายและเกราะป้องกันช่วยเหลือกัน คุณต้องแสดงความกล้าหาญและประกาศตัวแล้วล่ะ

นั่นแหละ เริ่มจากการกรอกฟอร์ม หรือไปชวนร้านโปรดของคุณให้มาลงชื่อกัน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ ยังพบว่า แฮชแท็ก #กูจะเปิดมึงจะทำไม ยังติดเทรนด์ทวิตเตอร์ อันดับ 1 ของประเทศไทย ในวันที่ 30 มิถุนายน อีกด้วย

 

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6481398


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ศรีสุวรรณ ยื่น ป.ป.ช. สอบน็อตทิพย์ กรมทางหลวง เชื่อไม่ได้มีแค่แห่งเดียว

ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้สอบเอาผิดกรมทางหลวง กรณีปล่อยให้ผู้รับเหมาทำน็อตทิพย์เพื่อหลอกตาโดยไม่มีการเชื่อมต่อกับพื้นปูนซีเมนต์จริงบริเวณเสาราวจับบันไดและเสาโครงหลังคากันแดดฝนในโครงการปรับปรุงสะพานลอย บนถนนกาญจนาภิเษกหรือถนนวงแหวนตะวันตก มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียได้นำมาเผยแพร่ประจานให้รู้กันทั่ว

กรณีดังกล่าวผู้บริหารของแขวงทางหลวงนนทบุรี และวิศวกรโยธาปฏิบัติการ กรมทางหลวง ได้รีบออกมาแก้ข่าวและอ้างกับสื่อมวลชนว่า เป็นการก่อสร้างเพิ่มเติมช่วงโครงหลังคากันฝน ครอบทับสะพานลอยเก่ามีอยู่แล้ว ผู้รับเหมาจึงเพิ่มเติมเสาขึ้นมาเพื่อยึดติดกับโครงสร้างสะพานลอยของเดิม ซึ่งโครงสร้างสะพานลอยของเดิมนั้นมีเสาพร้อมน็อตติดกับพื้นอยู่ก่อนแล้ว ทางผู้รับเหมาจึงนำแผ่นเหล็กของฐานเสาใหม่มาเชื่อมกับฐานเหล็กเก่าเพื่อต้องการให้แข็งแรงมากขึ้น และแผ่นสแตนเลสที่ทำลอยไว้เป็นการทำโชว์เพื่อความสวยงามของผู้รับเหมา ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบกับโครงสร้างหลักแต่อย่างใด

แต่จากการตรวจสอบพบว่า มีหลายเสาสแตนเลสที่ลอยสูงจากพื้นปูนของตัวสะพานและหรือบันไดสะพานลอยดังกล่าว ไม่มีตัวน็อตที่ขันติดกับพื้นแต่อย่างใด แต่มีบางจุด บางเสาเท่านั้น ที่อาจทำในลักษณะเหมือนเป็นการติดหัวน็อตไว้เพื่อหลอกตาไว้ ซึ่งหากตรวจสอบทุกโครงเสาสแตนเลสทั้งหมดทั้งสองด้านของสะพานลอย และโครงหลังคาก็เชื่อว่า จะมีหลายเสาที่ไม่มีตัวน็อตด้านล่างที่ขันติดกับพื้นปูนหรือพื้นสะพาน เพื่อให้ทุกเสามั่นคง แข็งแรง และสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้สัญจร และใช้ประโยชน์จากสะพานดังกล่าว นอกจากนั้นการเชื่อมโครงหลังคาสะพานลอยที่มีการอ็อคเชื่อมเพียงจุดเล็ก ๆ ไม่มีการเชื่อมรอบเสาแต่อย่างใด

ซึ่งคำชี้แจงของวิศวกรกรมทางหลวงจึงฟังไม่ขึ้น และเชื่อว่ายังมีอีกหลายโครงการสะพานลอยของถนนกาญจนาภิเษก และถนนทางหลวงต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่อาจมีลักษณะเช่นเดียวกัน หรือปล่อยให้ผู้รับเหมาดำเนินการโดยอำเภอใจ เพียงแต่ยังไม่ถูกจับพิรุธขึ้นมาเสียก่อน ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความพร้อมหลักฐานมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.เพื่อใช้อำนาจตาม พรป.ป.ป.ช.2561 ในการสอบสวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่วิศวกร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวง ไปจนถึงอธิบดีกรมทางหลวง ว่าเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่

คุณนาดา นาดา ไชยจิตต์ | THE STUDY TIMES STORY EP.53

บทสัมภาษณ์ คุณนาดา นาดา ไชยจิตต์ ปริญญาโท ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ LL.M International Human Rights Law, School of Law, University of Essex, สหราชอาณาจักร
นักสิทธิมนุษยชน ผู้ขับเคลื่อนและผลักดัน 'ความเท่าเทียมทางเพศ'

จุดเริ่มต้นความสนใจของคุณนาดาที่มีต่อคณะนิติศาสตร์นั้น ในตอนแรกไม่มีความคิดที่จะชอบในสาขาวิชานิติศาสตร์ แต่เกิดจากการที่ไปชุมนุม อยากที่จะให้ประเทศไทยทำกฎหมายสมรสเพศเดียวกัน คุณนาดามีแรงขับเคลื่อนในด้านนี้ แต่ไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย เพราะไม่รู้ว่าภาษาที่เขียนในกฎหมายเป็นอย่างไร จึงตัดสินใจเข้าเรียนในคณะนิติศาสตร์ มีความตั้งใจที่จะเป็นนักกฎหมายให้ได้

หลังจากทำงานได้ระยะหนึ่ง คุณนาดาค้นพบว่าความฝันที่อยากทำงานในด้านนี้มีหลายสาย จึงกลับมาทบทวนกับตัวเองว่าวุฒินิติศาสตร์บัณฑิตอาจยังไม่พอ ประกอบกับอัตลักษณ์ที่เป็น สถาบันทางสังคมท้าทายเกิดเป็นแรงผลักให้ต้องไปต่อ จนได้รับทุน Chevening ซึ่งเป็นทุนที่มอบให้กับผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง ทุนนี้ไม่ได้มองหาคนที่เก่งหรือฉลาด แต่มองหาคนที่มีความฝัน มีความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง จนสุดท้ายคุณนาดาได้รับทุนไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ LL.M International Human Rights Law, School of Law, University of Essex ณ ประเทศอังกฤษ

คุณนาดากล่าวว่า ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ University of Essex มีชื่อเสียงและโดดเด่นติดอันดับโลก การที่คุณนาดาเลือกเรียนที่นี่เพราะเชื่อมั่นว่าตัวเองจะได้รับองค์ความรู้มาจัดการปัญหา ทำให้สังคมเข้าใจว่าประเด็นความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ที่ทุกคนมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ

สำหรับประสบการณ์การเรียนที่ต่างประเทศหลักสูตร 1 ปี คุณนาดาใช้เวลาในช่วงแรกไปกับการเรียน จนได้เข้าร่วมกิจกรรมศาลจำลอง มีการให้นักศึกษาได้ฝึกเป็นทนายความ มีการจัดอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิความหมายทางเพศโดยตรง ทำให้คุณนาดาได้เจอกับนักกฎหมายที่มีความหลากหลายทางเพศ ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก

การใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ คุณนาดารู้สึกว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีความน่าอยู่ มีระบบการจัดการที่ดี มีระบบสวัสดิการด้านสุขภาพที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้คุณนาดารู้สึกสบายใจ อีกทั้งมีระบบการดูแลนักศึกษา คอยดูแลและให้คำปรึกษาปัญหาทางด้านสุขภาพจิต ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่คุณนาดาประทับใจมาก 

ที่ประเทศอังกฤษ คุณนาดาเล่าว่า สามารถสูดลมหายใจแห่งเสรีภาพเข้าปอดได้ตลอดเวลา ไม่ต้องมานั่งเครียดว่าใครจะมองว่าเราเป็นเพศอะไร ได้รับการปฏิบัติที่ดี ประเทศอังกฤษส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ส่งเสริมในเรื่องของความหลากหลาย เพราะเชื่อว่าความหลากหลายนำมาซึ่งประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม นอกจากนี้ยังมีกลไกในเรื่องของการคุ้มครองสิทธิที่แข็งแรงมาก

สำหรับจุดเริ่มต้นที่คุณนาดาสนใจในเรื่องของสิทธิมนุษยชน เริ่มต้นจากการที่คุณนาดาไปสมัครงานด้านเอกสาร แต่ทางบริษัทบอกว่างานนี้รับเฉพาะผู้หญิง เพราะต้องการความละเอียดอ่อน แต่เมื่อจะไปทำงานใช้แรงแบบผู้ชายก็ไม่รับ เพราะต้องการคนที่แข็งแรง คุณนาดามองว่าบทบาททางสังคมที่เกี่ยวข้องกับอาชีพถูกผูกติดกับบทบาททางเพศ จึงตัดสินใจที่จะไม่ทำงานที่บริษัทแห่งนั้น และไปสมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิบทบาททางเพศ กระทั่งมีบทบาทร่วมขับเคลื่อนความเท่าเทียมทางเพศ 

ปัจจุบันคุณนาดาเป็นที่ปรึกษางานรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชน (Human Rights Campaign Advisor) ที่มูลนิธิมานุษยะ ดูแลเรื่องของกลไกลสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาอาวุโสด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียม ให้กับกรรมการบริหารของสมาคมท้องฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย

คุณนาดาฝากทิ้งท้ายว่า ไม่ต้องเร่งรีบหรือท้อถอยกับการตามหาความฝันของตัวเอง ให้เวลากับตัวเอง คือหัวใจสำคัญที่สุด
.

.

.

.

เลขาฯ สมช. วอนผู้ประกอบการร้านอาหารหยุดแคมเปญ ‘#กูจะเปิดมึงจะทำไม’ หวั่น ยิ่งทำเชื้อระบาดหนัก ยัน รัฐจ่ายเยียวยาเยอะกว่าทุกรอบ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ผู้ประกอบการร้านอาหารร่วมกันผุดแคมเปญ ‘#กูจะเปิดมึงจะทำไม’ ในสื่อโซเชียล เพื่อแสดงอารยะขัดขืนต่อมาตรการของศบค.ที่ไม่ให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ว่า ขณะนี้รับทราบแล้ว และขอความร่วมมือให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะถ้าทำอย่างนั้น มีโอกาสเสี่ยงทั้งตัวผู้ประกอบการและผู้บริโภค

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ายังมีการเดินหน้าแคมเปญนี้อยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายไปจัดการหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องดูด้วย แต่ในขั้นต้นอยากขอความร่วมมือก่อน ในบรรยากาศเป็นอย่างนี้ ถ้าไปใช้มาตรการกฎหมายในทันที อาจทำให้ตรึงเครียดมากขึ้น ตอนนี้เราคงเข้าไปพูดคุยขอความร่วมมือว่าถ้าทำอย่างนั้น อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดมากขึ้น และที่ผ่านมา จากการสอบสวนโรค พบว่ามาจากลักษณะรวมกลุ่มไปรับประทานอาหารแล้วติดเชื้อกันมา

เมื่อถามว่าช่วงที่มีตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหารมาหารือกับ ศบค. ได้พูดถึงเงื่อนไขที่จะไม่ปฏิบัติตาม บ้างหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ได้พูด เขาขอให้รัฐบาลดูแลเยียวยา รอบนี้ ศบศ. เยียวยาเยอะ ทั้งผู้ประกอบการและพนักงาน

เมื่อถามย้ำว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเชิญผู้ประกอบการที่ผุดแคมเปญนี้มาหารือกันก่อน เพื่อไม่ให้ไปประท้วงลงถนน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงต้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ทำความเข้าใจในเรื่องนี้กับทุกคนว่าถ้าทำอย่างนั้น จะทำให้เกิดการติดเชื้อและแพร่ระบาดมากขึ้น รวมถึงสังคมโดยรวมเดือดร้อนไปด้วย จึงต้องขอความร่วมมือและความเห็นใจ ส่วนรัฐบาล และศบค. จะขอดูสถานการณ์เมื่อผ่านไป 15 วัน ถ้าคลี่คลาย ก็จะพิจารณาผ่อนคลายให้ ขอประเมินก่อน และในวันนี้ยังเห็นว่าตัวเลขทรงตัวอยู่ ทั้งที่มีมาตรการออกมาแล้ว

ต่อข้อคำถามว่าผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืนและสถานบันเทิงที่ถูกสั่งปิดมาตั้งแต่รอบแรก มองว่ายังไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล เหมือนกับธุรกิจประเภทอื่น กล่าวว่า รอบนี้เขาก็ได้รับการดูแลด้วยตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่อาจไม่เท่ากับที่เขาขอมา

เมื่อถามถึงกรณีที่มีอาจารย์แพทย์จากโรงพยาบาลศิริราชบอกว่าตอนนี้ถือว่าเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 4 ในเร็ว ๆ นี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ใช่ เพราะปัจจุบัน สายพันธุ์เดลตาที่มาจากประเทศอินเดีย มีการแพร่ระบาดที่เร็ว อาจารย์แพทย์หลายท่านก็เป็นห่วง จึงได้เสนอมาตรการต่าง ๆ ออกมาด้วยความห่วงใย แต่ก็รับทราบถึงความเดือนร้อนของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการและพนักงาน แม้มีการฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว อย่างเช่น ประเทษอิสราเอลและอังกฤษมีปริมาณการฉีดวัคซีนให้ประชาชนจำนวนมากพอแล้ว แต่เขาก็ยังย้อนกลับมาล็อกดาวน์อีกรอบ การฉีดวัคซีนไม่ได้รับประกันว่าไม่ติดเชื้อ แต่ยังต้องระวังกันเหมือนเดิม

ต่อข้อถามถึงสถานการณ์ รพ.ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จังหวัดปัตตานีที่เริ่มจะรับปริมาณผู้ป่วยไม่ไหวแล้ว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน

เมื่อถามว่ากรณีที่พบสารละลายลักษณะเจลอยู่ในขวดวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค บางล็อต พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขยืนยันแล้วสาเหตุเกิดจากอะไร ให้ฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการฉีดวัคซีนตัวที่มีปัญหาให้กับประชาชน และวัคซีนไม่ได้เกิดปัญหาตั้งแต่ต้น แต่เกิดจากการเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิเย็นเกินไป ไม่ได้เป็นทั้งล็อต เมื่อเขาพบก่อน จึงมีการแจ้งเตือน


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top