Monday, 19 May 2025
ค้นหา พบ 48193 ที่เกี่ยวข้อง

“เสกสกล ”สวน “หญิงหน่อย” ใจมืดบอด ไม่เห็นความตั้งใจ นายกฯ 

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย วิจารณ์มาตรการล็อกดาวน์ โดยรัฐบาลบริหารงานตามยถากรรม โยนภาระให้ประชาชน ว่า ประกาศข้อกำหนด ฉบับที่ 25 เป็นการใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อควบคุมการระบาดไวรัสโควิด-19ในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะ 10 จังหวัด  ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เป็นการสกัดกั้นไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างโดยเฉพาะกลุ่มแรงงาน สถานประกอบการ ที่พบว่ามีการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อน รวมถึงการขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงนี้ เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเป็นการยับยั้งการระบาดของเชื้อโควิด ไม่ใช่การล็อกดาวน์ และมาตรการดังกล่าวเลือกที่จะคุมเข้มในบางจุดที่จะเป็นสถานที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ห่วงใยทุกคนและมาตรการที่ออกไปคิดดีแล้ว

ส่วนที่คุณหญิงสุดารัตน์และลูกทีม บอกว่านายกฯ บริหารตามยถากรรม จนทำให้สถานการณ์วิกฤตเตียงไม่พอ ทำให้รับผู้ป่วยมารักษาไม่ทันท่วงทีนั้น ยิ่งส่งผลให้มีผู้ป่วยหนัก และตายมากขึ้นนั้น นายกฯและทีมแพทย์ทราบดีถึงเหตุการณ์เตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ ซึ่งสาเหตุก็มาจากการระบาดที่มีจำนวนมากขึ้นนั่นเอง จึงได้ตัดสินใจควบคุมจุดที่มีการระบาดมากอย่างแคมป์คนงาน และที่ผ่านมาก็พยายามเสริมเตียงในโรงพยาบาลสนามหลายแห่ง เจรจาขอเตียงจากโรงพยาบาลเอกชนมาเสริมหรือการใช้พื้นที่ของทหารมาทำเป็นโรงพยาบาลชั่วคราว สิ่งเหล่านี้มีการดำเนินการมาแล้ว

นายเสกสกล กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์ บอกนายกฯบริหารแบบตามยถากรรม การล็อกดาวน์ โดยล็อกคนปิดการทำมาหากินเพียงอย่างเดียวโดยไม่ล็อกโรค จะไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในเร็ววัน แต่คนจะตายเพราะโรคและพิษเศรษฐกิจ ถามว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ และขณะนี้ ประเทศไทยกำลังจะเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แสดงให้เห็นแล้วว่า นายกฯคิดรอบด้าน ทั้งการควบคุมเชื้อโควิดและด้านเศรษฐกิจ แต่ไม่ว่านายกฯและรัฐบาลจะทำอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ และฝ่ายค้านคงไม่เห็นด้วย แต่อย่าทำใจมืดบอดมองอะไรไม่ดีไปหมด เพราะประชาชนมองอยู่ อย่าให้เขาต้องเอือมระอากับนักการเมืองที่จ้องจะสร้างภาพ เอาแต่หาเสียงกับประชาชนอย่างเดียว ไม่นึกถึงประเทศชาติ ส่วนรวมเลย

“สงคราม”ชี้มาตรการรัฐคือคำสั่งประหารผู้ประกอบการ อัดสั่งปิดแคมป์คนงานไร้แผนรองรับทำไวรัสกระจายทั่วไทย

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ามาตรการล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและจังหวัดชายแดนใต้สี่จังหวัด หลังจากที่เกิดโควิดระบาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีคลัสเตอร์ต่างๆ การประกาศปิดแค้มคนงานก่อสร้าง ห้ามทานอาหารในร้านเป็นเวลา 30 วัน รัฐบาลหยุดการะบาดของไวรัสโควิด-19 แต่มาตการที่ออกมากลับไม่พบว่ามีแผนงานรองรับ และสร้างผลกระทบที่หนักขึ้น เพราะล่าสุดพบว่าคนงานในแคมป์จำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา ดังนั้นมาตรการดังกล่าวไม่ต่างจากรัฐบาลกำลังส่งออกเชื้อไวรัสร้ายไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ มาตรการนี้จะส่งผลให้เชื้อไวรัสกระจายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาตรการบนฐานของความไม่รู้ ส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้น หากการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้ รัฐบาลจะทำอย่างไร การแก้ปัญหาไวรัสโควิดของรัฐบาลที่ผ่านมา 2 ปี ไม่ต่างจากการเลี้ยงไข้ เลี้ยงสถานการณ์ไวรัสเพื่อผลประโยชน์ ทางการเมืองมากกว่า เพราะสามารถใช้ทั้งอำนาจและงบประมาณได้อย่างเต็มที่

นายสงคราม กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการออกคำสั่งห้ามนั่งรับประทานอาหารในร้านรอบล่าสุดของภาครัฐ เหมือนคำสั่งประหารชีวิตผู้ประกอบการ มาตรการที่ออกมาเป็นมาตการที่ไร้ความรับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้น รัฐบาลหวังแต่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยไม่มองระยะยาวและผลกระทบที่จะเกิดตามมา เช่น การที่ร้านอาหารสามารถขายได้แค่เฉพาะการสั่งกลับบ้าน นั่นหมายถึงรายได้เขาจะลดลงเหลือแค่ 10% ของรายได้ปกติ ขณะที่ต้นทุนอื่นๆ ยังเท่าเดิม ในภาวะแบบนี้คงไม่มีใครอยู่ได้ ซึ่งท้ายที่สุดจะเกิดการเลิกจ้างครั้งใหญ่

“ปัญหาวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงระลอกแรก ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียด้านรายได้อย่างมาก โดยปัจจุบัน ผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนไม่น้อยต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจนหลายรายต้องปิดกิจการ เพราะผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและเล็กที่เข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือด้านการเงินของรัฐบาล แล้วผู้ประกอบการเหล่านี้จะฝ่าวิกฤตได้อย่างไร การออกมาตรการของรัฐบาลเป็นไปอย่างไร้ความยั้งคิด จึงเป็นการทำลายมากกว่าสร้างสรรค์” นายสงคราม กล่าว

“ชวน” กรีด “ข้าราชการ” มีเงินเดือนประจำ ไม่เดือดร้อนเท่าประชาชน ย้ำ วางมาตรการเข้มงวด ป้องกันคลัสเตอร์สภา ยัน เดินหน้าประชุมต่อ 

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า มีส.ส.สอบถามเรื่องการขอเลื่อนประชุมสภาผู้แทนราษฎรออกไป แต่ตนได้ชี้แจงว่าได้ออกระเบียบวาระไปแล้วและได้สอบข้อเท็จจริงเรื่องวุฒิสมาชิกติดโควิด-19 ว่าไม่ได้เข้าไปในห้องประชุม และได้มีมาตรการที่เข้มงวดซึ่งทำมาอย่างต่อเนื่องและได้ผลดี พร้อมทั้งทำเรื่องขออนุญาตต่อ ศบค.ในการประชุมตลอดสมัยประชุมด้วยแล้ว จึงเดินหน้าประชุมตามปกติ เว้นแต่เกิดกรณีในความไม่สะดวกจะพิจารณาอีกครั้ง ส่วนกรณีที่สมาชิกที่อยู่ต่างจังหวัด หากมีการเคลื่อนย้ายบางจังหวัดต้องมีการกักตัว จะส่งผลกระทบหรือไม่นั้น ตนเข้าใจว่ากักตัวผู้ใช้แรงงานไม่ได้กักตัวประชาชนทั่วไป อย่างไรก็ตามต้องดูว่ามีปัญหาหรือไม่ เราไม่รู้ว่าประกาศของแต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร ตนเข้าใจว่าส.ส.ส่วนใหญ่กังวลเรื่องนี้ แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้อะไรที่สามารถทำได้ก็ทำเพื่อให้งานไม่ค้าง แต่หากเป็นผลกระทบส่วนรวมก็ต้องว่ากันอีกครั้งหนึ่ง ไม่ต้องการให้สภาเป็นแหล่งผู้ติดเชื้อจึงได้เข้มงวดมาตรการมาตลอด ในวันเสาร์อาทิตย์ก็มีการทำความสะอาด 

เมื่อถามถึงกรณีที่จะต้องเปิดประชุมสภาทุกสัปดาห์ จะต้องมีการประเมินเป็นรายสัปดาห์หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายเลขาฯ สภาติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา แต่เราก็ต้องร่วมมือกันช่วยลดปัญหาให้แพทย์ พยาบาล บุคลากรด่านหน้า ดังนั้นมาตรการที่เราสามารถทำได้ง่ายที่สุดคือรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตนเองให้มาก โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าที่จะช่วยลดค่าใช้จ่าย จึงประสานฝ่ายบริหารรณรงค์ให้ประชาชนทำหน้ากากผ้า เพราะต้องอยู่กับโควิดอีกยาว และลดขยะที่จะเป็นปัญหามลพิษ 

นอกจากนี้ นายชวนยังถามด้วยว่า ทั่มีกระแสข่าวว่ามีคนอยากติดเชื้อโควิดเพื่อเอาประกันนั้น มีด้วยหรือ 

เมื่อถามว่าคณะกรรมาธิการหลายคณะได้งดประชุมไปเรียบร้อยแล้ว จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของส.ส.หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า หากไม่เสร็จกรรมาธิการก็สามารถขอขยายเวลาได้ ซึ่งคาดว่าจะงดไป 1-2 สัปดาห์เท่านั้น เพราะถึงอย่างไรโควิดยังอยู่อีกนาน แนวทางที่ตนแนะนำในวิธีการทำงาน เช่น ประชุมออนไลน์ หากเลื่อนไปก็จะไม่จบสิ้น 

เมื่อถามถึงกรณีข้าราชการสภาฯ อึดอัดและโพสต์วิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการของสภาฯ นายชวนกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐสภาส่วนใหญ่ทำงานบ้าน และมีมาทำงานในวันที่มีการประชุมรัฐสภาที่ผ่านมา 3 วัน ยอมรับว่าเขาเหนื่อยและตนเห็นใจ แต่ต้องพูดตรงๆ ว่าอีกมุมหนึ่งประชาชนน่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะคนไม่มีเงินเดือน คนมีเงินเดือนยังมีหลักประกัน แต่ข้าราชการที่ไม่มีปัญหา ต้องมีส่วนร่วมทำงานให้กับบ้านเมือง ขออย่าไปท้อแท้ปัญหา เพราะคนอื่นเดือนร้อนกว่าเรา เราพยายามที่จะวางมาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้รัฐสภาเกิดคลัสเตอร์ใหม่ แม้จะมีการวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องยอม แต่จะไม่ยอมให้มีการย่อหย่อน ลดความเข้มข้นของมาตรการ 

เมื่อถามถึงข้อเสนอให้ ส.ส.ตัดเงินเดือนตัวเองเพื่อช่วยโควิดนั้น นายชวน กล่าวว่า ขอแค่ให้อย่าทุจริตคอร์รัปชันก็พอ 

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าสมาชิกวุฒิภา จะไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้งขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ถือเป็นสิทธิที่สมาชิกรัฐสภาทำได้ตามสิทธิของกฎหมาย 

ชุมพร - "จับจริง" ลงตรวจสอบทุเรียนอ่อน เตรียมพร้อมลงกล่องส่งต่างประเทศ

จับจริง ฝ่าฝืนมีโทษ ทั้งจำทั้งปรับ  ลงตรวจทุเรียนอ่อนเตรียมพร้อมบรรจุลงกล่องส่งต่างประเทศระบาดหนัก  พร้อมให้ทีมงานไปค้นหาทุเรียน อ่อนหนีไปบรรจุลงกล่องส่งต่างประเทศที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกด้วย

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2564 ภายใต้การอำนวยการของนายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร, นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายปกาสิต พรประสิทธิ์ นายอำเภอหลังสวน ได้มอบหมายให้ นาย ชยันต์รัฐ รุ่งโรจวรารักษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอหลังสวน พร้อมด้วย นายดุสิต ศักดิ์รกานต์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร ปลัดอำเภอหลังสวน เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดชุมพร และสมาชิก อส.

ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสถานประกอบการรับซื้อ - ส่งออกทุเรียน  "ทรัพย์สิริพงศ์ เฟรชฟรุ๊ต จำกัด โกดังมาโนช ระยอง" โดยได้ทำการสุ่มตรวจวิเคราะห์ปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่บรรจุลงกล่องเพื่อส่งออกตลาดต่างประเทศ จำนวน 4 ตัวอย่าง ผลตรวจพบว่า ตัวอย่างที่ 1 วัดค่าได้ 25 เปอร์เซ็นต์  ตัวอย่างที่ 2 วัดค่าได้ 33 เปอร์เซ็นต์ ตัวอย่างที่ 3 วัดค่าได้ 30 เปอร์เซ็นต์ มีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เป็นทุเรียนด้อยคุณภาพ และดำเนินการทางกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร

ที่ปรึกษาแผนกโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เตือนหลีกเลี่ยงหน้ากากผ้า เพราะกันเชื้อออก แต่ไม่กันเชื้อเข้า แนะรัฐ จัดหาหน้ากากอนามัยมาขายราคาถูก หรือแจกจ่ายพร้อมประชาสัมพันธ์ ชี้!! หน้ากากหลุดเมื่อไรเสี่ยงเมื่อนั้น

จากเฟซบุ๊ก Tor Phiboonbanakit ของ พ.อ.(พิเศษ) นพ.ธนะพันธ์ พิบูลย์บรรณกิจ ที่ปรึกษาแผนกโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โพสต์ข้อความระบุว่า 'เรื่องบางเรื่องถูกมองข้าม…ทั้งที่อยู่แค่สันจมูก'

1.) กลุ่มรอวัคซีนทางเลือก เพื่อฉีดเข็ม 1 และ 2 ต้องทราบว่า กว่าจะได้มาต้องอีกอย่างน้อย 3 เดือน…ช่วงนี้พวกคุณจะทำอย่างไร?

2.) กลุ่มที่ต้องการเข็ม 3 หลังได้วัคซีน (ภาคบังคับ) ครบ 2 เข็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณหมอและบุคลากรทางการแพทย์ ตั้งสตินะครับ เราต้องเป็นตัวอย่างในการ 'รอ' ให้ผลการศึกษาชัดเจน และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ จนเป็น Standard Recommendation แม้ว่าแนวโน้มขณะนี้ จะ 'เชื่อว่า' คงต้องฉีดแน่…ก็เหมือนกัน ถ้าไม่วางใจผลของวัคซีน พวกเราจะทำเช่นไร?

ถ้าไม่ฉีด เพราะไม่เชื่อวัคซีนที่รัฐ (บังคับ) จัดให้ หรือ ฉีดแล้ว แต่ก็ไม่ไว้ใจว่าวัคซีนที่ได้ว่าจะเอาอยู่ ให้ตั้งสติ แล้วย้อนกลับไปถามตัวเองว่า…ที่ผ่านมา รอดจากการติดเชื้อมาได้อย่างไร?

เรามัวแต่วุ่นวายกันเรื่องชนิดของวัคซีน และปัญหาเชื้อกลายพันธุ์…จนลืม 'concept' เบื้องต้นที่ว่า…ไม่รับเชื้อไม่เป็นโควิด

1.) ไม่รับเชื้อโดยซ่อนตัวอยู่แต่ในบ้าน ติดต่องานผ่าน internet…ตุนของไว้กิน...สุดท้ายก็หมด…ก็ต้องออกมาอยู่ดี…ดังนั้นการซ่อนตัว…ไม่ใช่ทางออก

2.) ไม่รับเชื้อโดยใส่หน้ากาก ไปทุกที่…ถ้าล้างมือ ถือระยะห่าง คงปลอดภัย แต่สิ่งที่ไม่มีใครประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบคือ…

ในวันก่อน ในยามที่รอบตัวมีคนติดเชื้ออยู่ไม่มาก ไปไหนมาไหนด้วยหน้ากากผ้า แม้โดยทฤษฎี จะปัองกันเชื้อออก แต่ไม่กันเชื้อเข้า อาจไม่มีผลกระทบมากนัก…เพราะโอกาสเจอเชื้อ สัมผัสโรคแบบจังๆ คงยาก

แต่วันนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไป มองไปทางไหน น่าสงสัยว่าจะมีคนที่มีเชื้ออยู่!!

ดังนั้น การที่ยังส่งเสริมการใช้หน้ากากผ้า สำหรับประชาชนทั่วไป น่าจะไม่ปลอดภัยเสียแล้ว เพราะข้อเสียอีกประการของหน้ากากผ้า คือ ไม่มีสันโลหะที่ใช้คีบดั้งจมูก พูดไปหลุดไป อารมณ์เดียวกับใส่ Surgical Mask แล้วไม่ปรับลวดตรงสันจมูกให้แนบกับใบหน้า…หน้ากากที่ดี ต้องสามารถปรับให้แนบกับหน้าให้มากที่สุด

ฉะนั้น รัฐต้องเร่งจัดหาหน้ากากอนามัยในระดับ Surgical Mask แบบที่แพทย์พยาบาลใส่กัน จำหน่ายในราคาถูกหรือแจกจ่าย พร้อมประชาสัมพันธ์ แนะนำวิธีใช้ที่ถูกต้อง แก่ประชาชนทั่วไปโดยเร็ว อย่างทั่วถึง

ไม่ว่าเชื้อจะกลายไปไหน ไม่ว่าวัคซีนตัวไหนจะด้อยค่าลง แต่หน้ากากอนามัยที่ได้รับการใช้อย่างถูกต้อง ไม่เคยทำให้ผู้ใช้ผิดหวัง…รับรองกันได้ทุกสายพันธุ์

หน้ากากหลุดเมื่อไร เสี่ยงเมื่อนั้น ต่อให้ฉีดวัคซีนมาแล้วก็ตาม ส่วนใหญ่หลุดตอนนั่งทานข้าว หรือ รุมส้มตำด้วยกัน

#หลีกเลี่ยงหน้ากากผ้า”

 

 

ที่มา: https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000062236

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4377495338961581&id=100001034752567


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top