Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48205 ที่เกี่ยวข้อง

ศบค.แนะ ครู-ผู้ปกครอง ดูแลบุตรหลาน รับเปิดเทอมใหม่ ชี้ โรคต้องไม่ขวางการเรียนรู้ ชี้ เด็กมีโอกาสเรียนรู้รูปแบบใหม่

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธินโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โควิด-19 หรือศบค.แถลงว่า วันที่ 14 มิ.ย. เป็นวันเปิดเทอมวันแรกหลายคนเป็นห่วงการส่งเด็กไปโรงเรียนและมีความเห็นที่ต่างกัน คืออยากและไม่อยากให้ไปเรียน 

แต่เมื่อเราต้องอยู่กับโรคนี้ก็ต้องปรับวิถีชีวิต และด้านหนึ่งเด็กมีโอกาสติดเชื้อได้แต่ความรุนแรงของโรคไม่มาก ดังนั้นคนที่ต้องดูแลคือครูอาจารย์ พ่อแม่พี่น้อง ผู้ปกครองที่ควรจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและครูก็เป็นบุคคลเป้าหมายที่ได้รับวัคซีน 

ทั้งนี้การเรียนมีหลายระบบ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ ออกแบบมาโดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่ให้ไปเรียนที่โรงเรียน แต่ให้เรียนแบบใช้เครื่องมือทางไกลมาช่วย ส่วนพื้นที่ควบคุม 17 จังหวัดสามารถจัดการเรียนได้ที่เช่นเดียวกันพื้นที่ 56 จังหวัด 

จึงฝากผู้ปกครอง ดูแลสุขอนามัยของเด็ก โรคต้องไม่ปิดกั้นการเรียนรู้ของและพัฒนาการทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนดีเสมอ ขอให้นำทุกเรื่องมาสอนลูกหลานว่าแม้จะเกิดโรคระบาด แต่เด็กก็จะได้เรียนหนังสือในหลายรูปแบบซึ่งล้วนดีทั้งนั้น

รัฐเร่งหาช่องอุ้มผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมเสนอมาตรการเยียวยาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้สามารถฟื้นฟูกิจการได้เร็วขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมาตรการเดิมจากปี 2563 ที่ขยายเวลาต่อเนื่อง ล่าสุด ได้เห็นชอบให้ สมอ. ยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจโรงงานเพื่อการขออนุญาต มอก. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา 

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า มาตรการยกเว้นค่าตรวจโรงงานเพื่อการขออนุญาต มอก. มีอัตราค่าใช้จ่ายที่ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายให้ สมอ. 10,000 บาทต่อวัน ซึ่ง สมอ. มีผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตกว่า 10,000 ราย ทั้งผู้ทำและผู้นำเข้า คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2564 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565

อีกทั้งยังมีมาตรการเยียวยาอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ครม. ได้แก่ มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต มอก. และใบแทนใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบรับรองระบบงาน ISO สำหรับผู้ประกอบการตรวจสอบและรับรอง หาก ครม. มีมติเห็นชอบแล้ว สมอ.จะดำเนินการต่อทันที ซึ่งจะช่วยเหลือผู้ประกอบการได้กว่า 110 ล้านบาท

"โฆษกพรรคกล้า" ขอรัฐเร่งยื่นมือช่วยเหลือสถานศึกษาเอกชน ปล่อยซอฟโลน เสริมมาตรการคืนค่าเทอมบางส่วนให้ผู้ปกครอง โดยเฉพาะพื้นที่เข้มงวดสูงสุดที่ต้องเรียนออนไลน์ 

นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงการเปิดภาคเรียนอย่างเป็นทางการวันแรกว่า จากสถานการณ์โควิด-19 แม้กระทรวงศึกษาธิการจะมีมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง ด้วยการคืนค่าเล่าเรียนในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน หรือผ่อนผันการจ่ายค่าเล่าเรียน แต่มาตรการนี้ครอบคลุมเฉพาะสถานศึกษาในกำกับกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น แต่โรงเรียนเอกชนหลายโรงเรียน โดยเฉพาะในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ได้แก่จังหวัดกรุงเทพมหานคร , นนทบุรี ,สมุทรปราการ และปทุมธานี ซึ่งยังต้องเรียนออนไลน์อยู่ ไม่สามารถมาเรียนที่โรงเรียนเต็มรูปแบบได้ แต่ยังจำเป็นต้องเก็บค่าเล่าเรียนเต็มจำนวนอยู่ 

นายแสนยากรณ์ กล่าวว่า ผู้ปกครองโรงเรียนเอกชนหลายโรงเรียนในพื้นที่เข้มงวดสูงสุด ต่างบอกว่า หากการเรียนการสอนยังเป็นรูปแบบออนไลน์ ก็ควรคืนค่าเล่าเรียนในส่วนที่ไม่ได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอน เช่นเดียวกับที่กระทรวงศึกษาธิการวางมาตรฐานไว้ หรืออาจนำส่วนต่างค่าเล่าเรียนไปทบในเทอมถัดไป และขอให้ภาครัฐปล่อยเงินกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟโลน) หรือใช้งบ พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เข้าไปสนับสนุนสถานศึกษาเอกชน เพื่อลดภาระให้ผู้ปกครอง และสามารถประคองธุรกิจไปได้ 

"ในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เราเห็นใจทั้งผู้ปกครอง ที่บุตรหลานไม่สามารถเรียนได้อย่างเต็มที่ และยังต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ ถูกที่ทำงานหักเงินเดือนหรือตกงาน จึงอยากให้มีมาตรการเข้ามาช่วยเหลือเช่นเดียวกับสถานศึกษาของภาครัฐ ขณะที่สถานศึกษาเอกชนก็ต้องแบกรับภาระทั้งค่าจ้างครู และพนักงานในสถานศึกษาเช่นเดียวกัน จึงอยากให้ภาครัฐเร่งยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เพื่อให้สถานศึกษาประคองตัวไปได้ ลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ปกครอง" นายแสนยากรณ์ กล่าว

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแอฟริกาใต้ต้องทิ้งวัคซีนโควิด-19 ของจอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวนกว่า 2 ล้านโดส สืบเนื่องจากประเด็นปัญหาสารที่ใช้ผลิตวัคซีนโรงงานผลิตแห่งหนึ่งในบัลติมอร์ สหรัฐฯ เกิดการปนเปื้อน ขณะเดียวกัน แคนาดา เองก็ระงับแจกจ่ายวัคซีนของจอห์สัน แอนด์

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแอฟริกาใต้ต้องทิ้งวัคซีนโควิด-19 ของจอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน จำนวนกว่า 2 ล้านโดส สืบเนื่องจากประเด็นปัญหาสารที่ใช้ผลิตวัคซีนโรงงานผลิตแห่งหนึ่งในบัลติมอร์ สหรัฐฯ เกิดการปนเปื้อน ขณะเดียวกัน แคนาดา เองก็ระงับแจกจ่ายวัคซีนของจอห์สัน แอนด์ จอห์นสัน ในบางล็อตจากข้อวิตกเดียวกัน

หน่วยงานเฝ้าระวังความปลอดภัยผลิตภัณฑ์สุขภาพของแอฟริกาใต้ (SAHPRA) ตัดสินใจไม่อนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดสที่จัดเก็บไว้ ณ โรงงานแห่งหนึ่งในเมืองเยอบีรา เนื่องจากสารที่ใช้ผลิตวัคซีนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปนเปื้อนที่โรงงานในบัลติมอร์ สหรัฐฯ จากคำยืนยันของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศ

“ก่อนหน้านี้ SAHPRA ได้ระงับใช้วัคซีนล็อตที่อยู่ในความสงสัยมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายน เพื่อรอรายงานด้านความปลอดภัยจากสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (FDA) โดยจากคำแถลงของเอฟดีเอ ได้ชี้ถึงผลกระทบเกี่ยวกับวัคซีนล็อตดังกล่าวที่โรงงานในเมืองเยอบีราด้วย ซึ่งที่นั่นเรามีวัคซีน 2 ล้านโดส" เอ็มมาโมโลโก คูบายี-เอ็นกูบาเน รักษาการรัฐมนตรีสาธารณสุขแอฟริกาใต้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่น พร้อมระบุว่าวัคซีนเหล่านี้จะไม่ถูกใช้ในแอฟริกาใต้อีก

ส่วนทางนายแพทย์บอยตูเมโล เซเมเต ซีอีโอของ SAHPRA ก็ยืนยันเช่นกันว่าวัคซีนที่อยู่ในความสงสัย “วัคซีนล็อตดังกล่าวจะไม่ถูกนำมาฉีดให้กับประชาชน”

ขณะเดียวกันหน่วยงานเฝ้าระวังแห่งนี้ระบุในถ้อยแถลงยอมรับว่า วัคซีนโควิด-19 ปนเปื้อนล็อตใหม่อีกราว 300,000 โดสของบริษัทแจนเซ่น ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ผ่านอนุมัติจากเอฟดีเอแล้วและจะถูกลำเลียงมายังแอฟริกาใต้ในอนาคต แต่ไม่ระบุวันเวลาที่แน่ชัด และไม่ได้บอกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับวัคซีนล็อตดังกล่าว

เซเมเต ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ส่งผลกระทบในทางลบอย่างมากต่อโครงการฉีดวัคซีนของแอฟริกาใต้ โดยประเทศแห่งนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วราว 1.7 ล้านคนและเสียชีวิต 57,000 ราย จากประชากรทั้งหมด 58.5 ล้านคน แต่จนถึงวันที่ 9 มิถุนายน เพิ่งฉีดวัคซีนประชาชนไปได้แค่ 183,000 โดส

โรงงานของบริษัทอีเมอร์เจนท์ ไบโอโซลูชันส์ (Emergent BioSolutions) ในบัลลิมอร์ สหรัฐฯ ได้รับผลกระทบจากประเด็นสุขอนามัยและการปนเปื้อนไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน โดยทางสำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ แสดงความกังวลด้านสุขภาพและความปลอดภัยต่างๆนานา พร้อมชี้ว่าสภาพแวดล้อมต่างๆ ของโรงงาน คือ องค์ประกอบสำคัญของความปลอดภัยวัคซีน

ประเด็นปัญหาต่างๆ ที่รายงานออกมา มีทั้งสุขอนามัยส่วนบุคคลของพนักงาน การฝึกฝนที่ไม่เพียงพอ และล้มเหลวในการรักษาความสะอาดพื้นผิวต่างๆ โดยการตรวจสอบดังกล่าวมีต้นตอจากเหตุการณ์หนึ่งก่อนหน้านั้น ซึ่งได้เห็นวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน จำนวน 15 ล้านโดสเกิดการปนเปื้อน ระหว่างผสมวัตถุดิบเพื่อผลิตวัคซีน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่ประสงค์เอ่ยนามระบุว่า เอฟดีเอมีคำสั่งให้จอห์นสันแอนด์จอห์นสันทิ้งวัคซีน 60 ล้านโดสที่ผลิต ณ โรงงานบัลติมอร์ สืบเนื่องจากความเป็นไปได้จะเกิดการปนเปื้อน อย่างไรก็ตามพวกเขาได้อนุมัติวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ล็อตอื่นๆ 2 ล็อตที่ผลิต ณ โรงงานดังกล่าว

ความเคลื่อนไหวของแอฟริกาใต้ มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากเมื่อวันศุกร์ (11 มิ.ย.) กระทรวงสาธารณสุขแคนาดา ประกาศว่าจะไม่แจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน จำนวน 300,000 โดส ที่ส่งมาถึงแคนาดาในเดือนเมษายน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของวัคซีนล็อตดังกล่าว

ถ้อยแถลงของกระทรวงระบุว่า สาธารณสุขแคนาดาจะไม่แจกจ่ายวัคซีนดังกล่าว เพื่อปกป้องด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้กับชาวแคนาดา อันเนื่องมาจากความวิตกเกี่ยวกับคุณภาพของสารยา (drug substance) ที่ใช้ผลิตวัคซีนดังกล่าวที่โรงงานของ บริษัท อีเมอร์เจนท์ ไบโอโซลูชั่นส์ อิงค์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ ของสหรัฐฯ

“สารยาดังกล่าวได้ถูกผลิตขึ้นในเวลาที่วัคซีนล็อตหนึ่งถูกปนเปื้อนด้วยส่วนประกอบของวัคซีนที่ต่างกัน ทางกระทรวงสาธารณสุขของแคนาดาไม่สามารถระบุได้ว่า การขนส่งวัคซีนของแจนเซ่นล็อตนี้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพที่เข้มงวดของทางกระทรวงหรือไม่” ถ้อยแถลงระบุ

 

(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)

ที่มา: https://mgronline.com/around/detail/9640000057164


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘มาดามเดียร์’ ประชาชนไม่ควรตกเป็นตัวประกัน แนะภาครัฐเร่งแก้ปัญหาเลิกโยนความผิดไปมา ย้ำหาก สธ.ใช้งบ 45,000 ซื้อวัคซีน จะไม่มีปัญหา

น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “เดียร์ วทันยา วงษ์โอภาสี” เกี่ยวกับการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ระบุว่า วันนี้ประชาชนต้องมาลุ้นฉีดวัคซีนของตัวเองจะต้องถูกเลื่อนออกไปมั้ย? ต้องถูกเลื่อนออกไปอีกนานเท่าไหร่?

ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนใดๆ โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ต้องเป็นด่านหน้ารองรับอารมณ์ ความผิดหวังของประชาชน ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของเขา ในขณะที่หน่วยงานของรัฐออกมากดดันปิดปากภาคเอกชน โยนความผิดให้กันและกันแทนที่จะสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องและเร่งแก้ไขปัญหา อย่างตรงไปตรงมา

เหมือนที่เดียร์ได้อภิปรายในสภา หากเราวางแผนการทำงานโดยคาดการณ์ล่วงหน้าโดยใช้อาวุธเงินกู้จำนวน 45,000 ล้านที่ได้รับจัดสรรเพื่อให้นำมาแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขโดยเฉพาะให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ชะล่าใจกอดความสำเร็จที่เป็นเพียงอดีตเอาไว้

ปัญหาการขาดแคลนวัคซีนที่มีชีวิตประชาชนเป็นตัวประกันก็คงจะไม่เกิดขึ้นเหมือนที่กำลังเกิดในเวลานี้

#เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยของเรา?


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top