Tuesday, 20 May 2025
ค้นหา พบ 48202 ที่เกี่ยวข้อง

กาฬสินธุ์ – ผู้ปกครองยังไม่กล้าส่งลูกมาเรียน !! เปิดเทอมวันแรก เข้มมาตรการโควิด-19

บรรยากาศเปิดเทอมวันแรก หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศดีเดย์พร้อมกัน 14 มิถุนายน ทั่วประเทศ หลายโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์  ยังคงเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยตั้งจุดคัดกรอง แบ่งเลขที่คู่-เลขคี่ สลับวันมาเรียน ขณะที่ยังมีผู้ปกครองบางส่วน ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาโรงเรียน เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ของโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลายโรงเรียนยังคงยึดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการตั้งจุดคัดกรอง ให้ครูตรวจวัดอุณหภูมิเด็กนักเรียน และผู้ปกครอง บริเวณทางเข้า พร้อมทั้งให้สวมหน้ากากทุกคน ทั้งนี้หลายโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่มีนักเรียนจำนวนมาก ได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ชุด โดยแยกเลขที่คี่และเลขที่คู่อย่างละครึ่ง สลับวันกันมาเรียน เพื่อลดความแออัด

ทั้งนี้ ในภาพรวมยังมีผู้ปกครองบางส่วน ที่ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาเรียน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอนุบาล และเด็กประถม เนื่องจากยังห่วงเรื่องการติดโรคโควิด-19 เพราะยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่ และเด็กยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้บรรยากาศเปิดเทอมวันแรกนี้ มีนักเรียนค่อนข้างบางตา ส่วนผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเรียนนั้น หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมาเรียน แต่ก็ได้มีการป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยง โดยห่อข้าว ห่อน้ำเป็นส่วนตัวมาเป็นอาหารกลางวัน ส่วนการเดินทางทั้งรถตู้และรถโดยสารนั้น บางคันยังพบว่ามีการนั่งเบียดกันมาด้วย อย่างไรก็ตาม ในการคัดกรองหลังรถรับส่งนักเรียนและผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานนั้น มีคณะครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกเท่านั้น

ด้านนายสมพงษ์ หมายเทียนกลาง อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 บ้านท่าอุดม ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเปิดเทอมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 นั้น โดยส่วนตัวยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยนัก เนื่องจากในพื้นที่และจังหวัดต่าง ๆ ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นรายวัน ทั้งรายบุคคลและกลุ่มก้อน อย่างไรก็ตาม จากการติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาของทางจังหวัดอย่างเข้มข้นตลอดมา ซึ่งค่อนข้างเป็นที่พอใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลายไปได้ ส่วนที่เป็นกังวลบ้างก็ตรงที่เปิดภาคเรียนให้เด็กมาโรงเรียน เนื่องจากจะเกิดความแออัดและมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19

นายสมพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ตนให้หลานขึ้นรถตู้ซึ่งเหมารายเดือนมาโรงเรียน ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจให้หลานนั่งรถตู้มาโรงเรียนดังกล่าว ก็ได้ตรวจสอบประวัติรถตู้คันดังกล่าวแล้วว่าอยู่ในพื้นที่  ไม่ได้เดินทางมาจากจุดเสี่ยง มีอุปกรณ์ป้องกันโควิดอย่างครบถ้วน และเด็กนักเรียนที่นั่งมาในรถไม่แออัด เพราะมีการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ตามมาตรการรักษาระยะห่าง เพื่อความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางโรงเรียน ตนจึงเดินทางมาสังเกตการณ์  และอยากสอบถามทางโรงเรียนว่าจะให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง ซึ่งหลังจากได้เห็นมีการคัดกรองเด็ก และผู้ปกครองอย่างเข้มข้นแล้วก็อุ่นใจ ว่าบุตรหลานและเด็กนักเรียนจะปลอดภัยจากโควิด-19 ในช่วงเปิดเทอมนี้


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล

สตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ หวาน บอกรักผ่านเสื้อ ร่วมประชุม G7

ภารกิจเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะ ‘สตรีหมายเลขหนึ่ง’ ของสหรัฐ คือ การติดตามประธานาธิบดีโจ ไบเดน มาร่วมการประชุม จี7 ครั้งที่ 47 ณ เมืองเซนต์อีฟส์ ในแคว้นคอร์นวอลล์ ของสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะไปพบปะกับประเทศในสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม พร้อมพบเจอกับผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน

การประชุม 7 ประเทศสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจโลก เลื่อนมาจากปีที่แล้ว เนื่องจากเกิดการระบาดของไวรัสโคโรน่า จึงอัดแน่นไปด้วยประเด็นที่ต้องพูดคุยกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือโครงการวัคซีน COVID-19

ในวันแรก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพบกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษแบบทวิภาคีก่อน โดยคาดว่าจะเจรจากันเรื่องการเปิดการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ เรื่องวิกฤตสภาพอากาศ ที่สำคัญคือ การเจรจาผูกพันเป็นคู่ค้า ‘แอตแลนติก ชาร์เตอร์’ สำหรับยุคอังกฤษหลัง ‘เบร็กซิท’

สำหรับทริปสำคัญครั้งแรก ดร.จิล ไบเดน เลือกสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ อย่างเดรสลายจุดโพลกา-ดอตของ แบรนดอน แมกซ์เวลล์

สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ อาศัยแจ็กเก็ตยี่ห้อ ซาดิก เอต์ โวลแตร์ ของฝรั่งเศส บอกสารที่ต้องการสื่อ โดยที่ด้านหลังของเสื้อแจ็กเก็ตปักหมุดเหล็กเป็นคำว่า ‘LOVE’

แจ็กเก็ต ‘รัก’ ของเธอทำให้ทุกคนนึกไปถึงด้านหลังแจ็กเก็ตของเมลาเนีย ทรัมป์ ตัวหนึ่ง ที่มีข้อความเขียนไว้เหมือนกัน แต่เป็นคำที่ไม่ค่อยน่ารัก อย่าง “I Really Don’t Care, Do U?” (“ฉันไม่สนหรอก”) ยิ่งเป็นโอกาสที่เธอสวมใส่ไปเยี่ยมศูนย์กักกันผู้ลี้ภัยด้วย ยิ่งเป็นภาพสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง เช่นเดียวกับข้อความบนแจ็กเก็ตของ ดร.จิล ที่แสดงให้เห็นท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อโลกได้เปลี่ยนไป

“เรานำพาความรักมาจากอเมริกา” สตรีหมายเลขหนึ่งกล่าว “นี่เป็นการประชุมระดับโลก เราพยายามที่จะสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกใบนี้กำลังต้องการมากที่สุด ฉันรู้สึกได้ว่า โลกของเราจะมีความเป็นหนึ่งเดียว และมีความหวังมากขึ้นหลังโรคระบาดครั้งนี้”

แน่นอนว่า ท่านประธานาธิบดีและสตรีหมายเลขหนึ่ง จะต้องเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 โดยมีหมายกำหนดการในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ประเด็นที่น่าสนใจ นอกจากคาดเดาว่า ดร.จิล ไบเดน น่าจะเลือกสวมชุดของดีไซเนอร์ชาวอเมริกันเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีของอังกฤษแล้ว ยังเนื่องจากสตรีหมายเลขหนึ่ง สนิทสนมกับเจ้าชายแฮร์รีด้วย

ระหว่างที่รอชมว่า ดร.จิล จะสวมชุดไหนเข้าเฝ้าฯ เรามาดูอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งรายอื่นๆ ไปพลางๆ ก่อน

สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 ทรงครองราชย์มายาวนานกว่า 7 ทศวรรษ ทรงได้เลี้ยงต้อนรับพระราชอาคันตุกะระดับผู้นำประเทศมาแล้วมากมาย

ในปี 2019 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เจ้าแม่แฟชันอย่าง เมลาเนีย ทรัมป์ จัดเต็มลุคเข้าเฝ้าฯ ณ พระราชวังบัคกิงแฮม ด้วยชุดของดีไซเนอร์คนโปรด โดลเช แอนด์ กาบบานา เป็นโค้ตเดรสสั้นสุดเก๋สีขาว มีปกและเข็มขัดสีน้ำเงินเนวีบลู แถมปิดท้ายลุคด้วยหมวกทรงกล่องสีเดียวกับเดรส ของ แอร์เว ปิแอร์

สำหรับงานเลี้ยงพระราชทาน เมลาเนียเลือกชุดราตรีผ้าไหมสีขาวของ คริสเตียน ดิออร์ โอตกูตูร์ และสวมรองเท้า (ที่มองไม่ค่อยเห็น) ของ มาโนโล บลาห์นิค

ด้าน มิเชล โอบามา และบารัก โอบามา เดินทางไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ในปี 2011 อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งมาในชุดสวยของดีไซเนอร์อเมริกัน ทอม ฟอร์ด ซึ่งอาศัยอยู่ในลอนดอนในขณะนั้น เป็นชุดยาวถึงพื้นสีขาว ผูกโบที่ใต้อก และทำเป็นแถบไขว้คล้องคอแบบเก๋ๆ สวมคู่กับถุงมือสีเดียวกันยาวถึงข้อศอก ดูสง่างามมาก

ราล์ฟ ลอเรน คือดีไซเนอร์อเมริกันที่มิเชลเลือกใช้ในงานเลี้ยงพระราชทานมื้อค่ำ คราวนี้เป็นชุดราตรีสีดำ จับเดรปเปิดไหล่เข้ารูปที่ส่วนบนของชุด ส่วนที่เป็นกระโปรงทำจากผ้ากำมะหยี่ล้อเล่นกับแสงไฟ ที่โดดเด่นคือสร้อยคอและสร้อยข้อมือเพชรที่เข้าชุดกัน ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวไอริช ทอม บินส์

ขณะที่ เผิงลี่หยวน ภริยาผู้นำสูงสุดของจีน สีจิ้นผิง เดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ ในปี 2015 มาดามเผิง สวมชุดโค้ตเดรสสีเนวีบลูสุดสง่างาม มีลูกเล่นที่ปกเป็นกระดุมผ้าสไตล์จีน ประดับด้วยเข็มขัดเส้นเล็กๆ สีขาว ที่เข้ากับกระเป๋าคลัตช์ และต่างหูมุก

ในงานเลี้ยงพระราชทาน มาดามเผิง เลือกชุดเดรสสั้นแค่เข่าสีขาวแบบเรียบๆ ง่ายๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของจีน ติดเครื่องประดับเข็มกลัดรูปใบไม้ประดับมุก และรองเท้าส้นเตี้ยสีดำ

สำหรับคนที่เป็นแฟนซีรีส์ The Crown ในเน็ตฟลิกซ์ อาจจะได้ชมฉากตอนที่อดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี และอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง ‘แจ๊คกี้’ แจคเกอลีน เคนเนดี เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ณ พระราชวังบัคกิงแฮม ในปี 1961

สตรีหมายเลขหนึ่งคนที่ 35 สวมชุดสีฟ้าอ่อนของดีไซเนอร์ชาวนิวยอร์กคนโปรดของเธอ เชซ์ นินง ที่แจ๊คกีใช้บริการเป็นประจำในช่วงที่เธออยู่ในทำเนียบขาว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อุทัยธานี – นักเรียนเฮ !! เปิดเทอมวันแรก พบไอเดียเจ๋ง ด่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน เสริมความรู้กับโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนลานสักวิทยา ต.ลานสัก อ.ลานสัก ไปพบกับไอเดียเจ๋งของคุณครู ด้วยตู้เครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน ด้วยการล้างมือเจลแอลกอฮอล์ และสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยมือถือเพื่อเสริมความรู้ด้านโรคโควิด ได้ทั้งหมดในตัวเดียวกัน และยังช่วยตรวจได้อย่างรวดเร็ด โดยไม่ต้องมีคนมายืนเฝ้าที่เครื่อง โดยโรงเรียนลานสักวิทยา ได้ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการคัดกรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน เพื่อนักเรียน และคณะครู และผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอยากจะเข้าพบปะติดต่อกับราชการทางโรงเรียน

โดยนายภาณุพงศ์ มั่นพรม ผู้อำนวยการโรงเรียนลานสักวิทยา พร้อมครูและบุคลากรจำนวน 54 คน รวมนักเรียนจำนวน 779 คน ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียน ได้มีการเปิดภาคเรียนเป็นวันแรก โรงเรียนลานสักวิทยา ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยให้กับนักเรียนและบุคลากรทางโรงเรียน ผู้ปกครอง ก่อนเปิดภาคเรียนทางโรงเรียนก็ได้เตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองเพื่อความมั่นใจกับทางโรงเรียน ทั้งนี้ทางโรงเรียนลานสักได้มีรูปแบบการเรียนแบบผสมผสาน 2 รูปแบบ คือการเรียนแบบออนไซต์ และออนไลน์ ในช่วงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอีกโรงเรียนที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียน โดยผ่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิแบบอัตโนมัติ รวมถึงล้างมือเจล และสแกนมือถือยิงคิวอาร์โค้ดแสดงวิธีการปฏิบัติและเพิ่มความรู้ให้กับนักเรียนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยผ่านเครื่องการ์ด ไม่ตก ชกตลอด เครื่องเดียวได้ครบขั้นตอน


ภาพ/ข่าว  ภาวิณี ศรีอนันต์

ชลบุรี - กระทบหนัก ร้านเสริมความงาม ร้านสัก ร้านอินเทอร์เน็ต กว่า 50 คน พบ ผวจ.ชลบุรี ขอผ่อนผันเปิดกิจการ หลังหนี้สินล้น จากพิษโควิด

เจ้าของกิจการสถานเสริมความงาม ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านสักผิวหนัง ประมาณ 50 คน ทนไม่ไหว หลังโดนปิดมานานกว่า 7 เดือน ในการระบาดแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 3 ครั้ง โดนทวงหนี้ค่าเช่าและหนี้สินล้น เดินทางเข้าขอพบผู้ว่าราชการ จ.ชลบุรี ขอผ่อนผันให้เปิดกิจการ โดยยอมทำตามมาตรการของ ศคบ.ทุกอย่าง

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 มิ.ย. 64 ที่หน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี น.ส.ณัฐวรันทร์ ศรีประไหม อายุ 34 ปี เจ้าของสถานเสริมความงามแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พร้อมเจ้าของร้านอื่น มีทั้งเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตและร้านรับสักผิวหนัง ในภาคตะวันออก ประมาณ 50 คน ได้นัดรวมตัวกันเดินทางเข้าพบนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี เพื่อยื่นหนังสือขอผ่อนผันให้เปิดบริการ หลังโดนสั่งปิดกิจการ 3 ครั้ง รวมกว่า 7 เดือน

ต่อมานายนริศ นิรามัยวงค์ รอง ผวจ.ชลบุรี ได้เดินทางลงมารับมอบหนังสือจากตัวแทน และให้ตัวแทนรวม 6 คน เข้าพูดคุยในห้องประชุมศาลากลาง จ.ชลบุรี โดยในหนังสือมีข้อความว่า “เรียน ท่านผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จังหวัดชลบุรี สิ่งที่แนบมาด้วยมาตรการแนวทางในการ ปฏิบัติตามเงื่อนไข การป้องกันโรคระบาด เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบกับปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสไคโรน่า 2019 จึงส่งผลให้กิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ต้องหยุดกิจการลง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส รวมไปถึงกิจการคลินิกเสริมความงาม ที่หยุดกิจการตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ซึ่งรวม 3 ครั้ง ปิดไปประมาณ 7 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการคลินิกได้รับผลกระทบ จากรายจ่ายของกิจการที่ยังคงดำเนินอยู่ อาทิ ค่าเช่าสถานที่เปิดร้าน ด่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าจ้างพนักงานเฝ้าร้านที่ให้ช่วยสอดส่องคูแลทรัพย์สินภายในร้าน ในช่วงที่ปิดกิจการ ขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการเล็งเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศดีขึ้น

โดยพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงงานและแคมป์แรงงานต่างด้าว ไม่มีการระบาดเป็นวงกว้างในชุมชนปกติทั่วไป รวมถึงห้างสรรพสินค้า ดังนั้น ข้าพเจ้ากลุ่มผู้ประกอบการผู้ให้บริการคลินิกเสริมความงาม (คลินิกเวชกรรม) จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่าน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ร้านเปิดคำเนินกิจการ โดยกลุ่มผู้ประกอบการได้จัดทำมาตรการ ในการให้บริการภายในร้านดังนี้

ผู้ให้บริการคลินิกเสริมความงาม (คลินิกเวชกรรม)

1.พนักงานประจำร้านสวมหน้ากากอนามัย และ Face Shicd ตลอดเวลาที่ทำงานภายในร้าน และมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้เข้าใช้บริการทุกท่าน

2.จัดทำ QR Code ของไทยชนะ เพื่อให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าใช้บริการ

3.มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ ภายในร้าน

4.จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ เพื่อให้มีระยะห่างอย่างเหมาะสม (Social distancing) อย่างน้อย 3 ตารางเมตรเมตรต่อ 1 คนและผู้ใช้บริการ 1 คนต่อ 1 เครื่องเท่านั้น

5.จัดเก็บข้อมูลถูกค้าที่เข้าใช้บริการ ชื่อ-นามสุกล / วัน-เวลาเข้าใช้บริการ และเบอร์โทรศัพท์

6.ทำความสะอาดเครื่องมือทันที และทุกครั้งหลังถูกค้าใช้บริการเสร็จสิ้น หรือทุก 2 ชั่วโมง โดยทำความสะอาดตามจุดสัมผัสต่าง ๆ ภายในร้าน เช่น อุปกรณ์ต่าง ๆ เดียง โต๊ะ เก้าอี้ ที่มีการสัมผัส มือจับประตู ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและดวบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ในสถานประกอบการ ร้านเกม/อินเทอร์เน็ต

1.การเว้นระยะห่างเปิดให้บริการแบบเครื่องเว้นเครื่องและทำฉากกั้นที่มั่นคงแข็งแรงโดยมีความสูงไม่น้อยกว่า 50 ซม.และให้บริการลูกไม่เกิน 50% ของจำนวนเครื่องที่ให้บริการ (ร้านขนาดเล็กให้บริการได้ไม่เกิน 10 คน ,ขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้บริการได้ไม่เกิน 25 คน)

2.พนักงานและผู้เข้าใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ตลอดเวลาที่ใช้บริการ งดการมีปฏิสัมพันธ์ งดผู้ชม ใช้บริการได้เฉพาะผู้เข้าใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น

3.มีการตรวจวัดอุณหภูมิตัดกรอง สแกนไทยชนะ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าใช้บริการ งดให้บริการผู้ที่มีอาการไข้ไอจาม หอบเหนื่อย หรือเป็นหวัด และในระหว่างให้บริการ พนักงานต้องคอยหมั่นสังเกตและสอดส่องอย่างเคร่งครัด หากพบลูกค้ามีอาการไองามสามารถแจ้งให้หยุดใช้บริการได้ทันที

4.ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่เพียงพอ

5.มีแบบฟอร์มบันทึกการเข้าใช้บริการและแบบสอบถามการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง (โดยทางร้านมีการติดตามข้อมูลรายละเอียดพื้นที่เสี่ยงจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีทุกวัน)

6.ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อประตูทางเข้าออก ประตูห้องน้ำ ทำความสะอาดทุก 1 ชั่วโมง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดรวมไปถึงโต๊ะเก้าอี้เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง และทุกครั้งหลังลูกค้าเลิกใช้บริการ ถูพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อวันละ 2-3 ครั้งทำความสะอาดห้องน้ำด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำทุก 1 ชั่วโมง

7.เปิดประตูเพื่อระบายอากาศทุก 2 ชั่วโมง (เป็นเวลา 10-15 นาที) และทำความสะอาด เครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองอากาศให้ได้อย่างสม่ำเสมอ

8.หลีกลี่ยงการสัมผัสเงินโดยตรงโดยใช้ภาชนะเพื่อรับเงินหรือการใช้ e-payment

9.หากผู้ประกอบการ หรือพนักงานให้บริการ หรือผู้เกี่ยวข้องมีอาการไข้หรือเป็นหวัด ให้หยุดงานและ ไปพบแพทย์โดยทันที และ

10.กำชับบุคคลที่เกี่ยวข้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการค้านสาธารณสุข D-M-H-T-T

นายวุฒิพงษ์ หมื่นจำนงค์ อายุ 44 ปี กิจการร้านอินเตอร์เน็ต เผยว่า วอนท่านผู้ว่าได้ทบทวนคำสั่งเพื่อช่วยเหลือพวกเราด้วย เราพร้อมที่จะทำตามคำสั่งขอให้เปิดบริการได้ เพราะเราไม่ไหวแล้วจริง ๆ

น.ส.ศุภนิจ ก๊กรัมย์ อายุ 40 ปี เจ้าของสถานเสริมความงาม เผยว่า อยากให้ท่านผู้ว่าทบทวนคำสั่งใหม่ ขนาดท่านนายกฯยังยอมผ่อนผันในบางแห่งเลย ธุรกิจต้องดำเนินต่อไป เรามาครั้งนี้เพราะทนไม่ไหวแล้ว ปิดนานแต่เรามีรายจ่าย ทุกวันทุกเดือน เพราะต้องจ้างคนดูแลร้าน ส่วนลูกน้องนั้นก็จะโดนยึดหมดแล้วทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เขาปิดเราแต่ไม่มีการเยียวยาใด ๆ เลย เจ้าของธุรกิจเขาก็ต้องดูแลน้อง ๆ เขา แต่ว่ามาถึงจุดตอแนนี้ก็ดูแลไม่ไหวแล้วเหมือนกันจึงมาของอนุเคราะห์ผ่อนผันให้เปิดได้ด้วยนายนริศ นิรามัยวงค์ รอง ผวจ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ก็จะนำหนังสือไปมอบให้ท่านผู้ว่าฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุม ศคบ.ชลบุรี ในวันพฤหัสนี้ เพื่อขอผ่อนผันให้เปิดต่อไป ซึ่งก็เห็นใจทุกฝ่าย คาดว่าทางคณะที่ประชุม ศคบ.ชลบุรี ก็คงพิจารณาอีกครั้ง    


ภาพ/ข่าว  นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี

สงขลา - แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดกิจกรรม "น้ำคือชีวิต (วันคลองภูมี)" ตามโครงการ สร้างจิตสำนึก เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ คืนความอุดมสมบูรณ์ อีกครั้ง

ที่ หาดปากบางภูมี ตำบลรัตภูมิ อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  บินสำรวจตรวจคลองภูมี พร้อมเป็นประธานเปิดกิจกรรม “น้ำคือชีวิต (วันคลองภูมี)” ตามโครงการ สร้างจิตสำนึก เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกของประชาชนให้ตระหนักถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพของคลองภูมี ภายหลังถูกขบวนการดูดทรายเถื่อนลักลอบทำลายอย่างหนักในห้วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้ร่วมปล่อยกุ้ง ปล่อยปลาลงสู่คลองภูมี พร้อมกับ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และพี่น้องประชาชน

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวชื่นชมกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ทั้งทรัพยากรดิน น้ำ ป่า ความหลากหลายทางชีวภาพ และอื่น ๆ ซึ่งความเสื่อมโทรมส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของมนุษย์ โดยคลองภูมีเปรียบเสมือนเส้นเลือดหลักในการดำรงชีพของประชาชนในพื้นที่ เป็นแหล่งน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค แหล่งอาศัย และที่ทำกิน แต่ในปัจจุบันปัญหาการรุกล้ำพื้นที่คลองภูมี ส่งผลให้ทรัพยากรน้ำเกิดปัญหามากมาย  ขอขอบคุณภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ ที่ได้ร่วมรณรงค์ ให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์คลองภูมี สร้างเสริมองค์ความรู้ และจิตสำนึกของประชาชนให้ตระหนักถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพของแม่น้ำลำคลอง ให้เกิดความรัก และหวงแหนมากยิ่งขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง เอาชนะปัญหาต่าง ๆ ไปได้ ซึ่งหากเราร่วมมือสมัครสมาน สามัคคีกันก็จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้คลองภูมีแห่งนี้ที่เป็นเส้นเลือดหลักในการดำรงชีวิตของประชาชนพื้นที่ต่อไป ทางกองทัพบกพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแล และช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ กองทัพบกเป็นของพี่น้องประชาชน เป็นกำลังใจให้กับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นกำลังใจให้ประชาชนจังหวัดสงขลา เพื่อให้คลองภูมีกลับคืนสู่ความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีภารกิจในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยมีแนวทางการพัฒนา เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีส่วนร่วม อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ทั้งด้าน ทรัพยากรป่าไม้ ด้านทรัพยากรน้ำ และทรัพยากรทางทะเล พร้อมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ตลอดจนเฝ้าระวังการทำลาย สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีการกำหนดให้ปล่อยพันธุ์ สัตว์น้ำ กุ้งก้ามกราม จำนวน 3 ล้านตัว ลงสู่คลองภูมี เพื่อสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนและเป็นการ เพิ่มขยายพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่คลองภูมี และทะเลสาบสงขลาต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์  


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top