Sunday, 18 May 2025
ค้นหา พบ 48168 ที่เกี่ยวข้อง

ทอ. แจง! กรณีใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุวัดพระศรีมหาธาตุ ยัน ค่าใช้จ่ายการณาปนกิจศพเป็นราคาสวัสดิการ หลังศาลปกครองชี้การใช้ประโยชน์ไม่ชอบด้วย กม.

พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากกรณีสำนักข่าวอิศราได้นำเสนอข่าว ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 321/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 1037/2558 ลงวันที่ 29 มี.ค.2564 พิพากษาให้เพิกถอนหมายเหตุในทะเบียนที่ราชพัสดุ แปลงเลขทะเบียนที่ กท.1436 ที่ให้กองทัพอากาศใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุบริเวณสุสานและฌาปนกิจสถาน บริเวณวัดพระศรีมหาธาตุ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น ผมขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้

1.) ที่ดินพิพาทจำนวน 7 แปลง (บริเวณฌาปนสถาน กองทัพอากาศ) เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตามมาตรา 1304 (3) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และเป็นที่ราชพัสดุ ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ.2518 โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ ตามความเห็นของ คณะกรรมการกฤษฎีกา และมีกองทัพอากาศเป็นผู้ใช้ประโยชน์มาโดยตลอด 

2.) ค่าใช้จ่ายการในการณาปนกิจผู้ที่เสียชีวิตมีความเป็นธรรมและมีการแสดงราคาค่าใช้อย่างชัดเจน รวมทั้งเป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเลือกบริการหรือจัดหาสิ่งของบางอย่างมาเองได้ตามอัธยาศัย มิได้มีการบังคับแต่อย่างใด รวมทั้งเน้นการบริหารจัดการด้วยความโปร่งใส โดยมีกองการฌาปนกิจสงเคราะห์ กรมสวัสดิการทหารอากาศ เป็นหน่วยงานดูแลรับผิดชอบ มีวัตถุประสงค์เพื่อไว้เป็นสถานที่ในการฌาปนกิจศพทหารผู้เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งเป็นสถานที่ให้กำลังพลกองทัพอากาศ ทั้งในและนอกประจำการ ตลอดจนสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์กองทัพอากาศได้ใช้เป็นที่ฌาปนกิจศพ รวมทั้งบริการด้านสุสานในการเก็บศพและเก็บอัฐิในราคาสวัสดิการ  

สำหรับรายได้จะนำเข้ากองทุนฌาปนสถานกองทัพอากาศ เพื่อไว้ใช้จ่ายในกิจการฌาปนสถาน อาทิเช่น ค่าบุคลากร ค่าสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการสร้าง รักษา ซ่อมแซม และบูรณะอาคารสถานที่ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา กองทัพอากาศได้มีการพัฒนาการปรับปรุงและก่อสร้างเมรุเผาศพขึ้นใหม่เพื่อให้ได้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและถูกต้องตามกฎหมาย โดยผ่านเกณฑ์การตรวจจากกรุงเทพมหานคร เพื่อการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น

3.) คดีพิพาทดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์ของศาลปกครองสูงสุด หากศาลมีคำพิพากษาเป็นประการใด กองทัพอากาศยินดีปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลทุกประการ

ทั้งนี้ โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่า “กองทัพอากาศมีความพร้อมปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายและให้ความสำคัญต่อความรับผิดชอบต่อสังคม โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ”

สคบ. จ่อ คุมห้ามขายหัวเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ปลอม

นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้หารือถึงแนวทางการควบคุมสินค้าที่มีลักษณะเป็นหัวเสียบเข็มขัดนิรภัยสำหรับรถยนต์ ซึ่งใช้เสียบลงไปเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้น และสามารถขับรถโดยที่ไม่ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย โดยเรื่องนี้ที่ประชุมเห็นว่า ควรออกมาแจ้งเตือนให้ประชาชนไม่ให้ซื้อสินค้าประเภทนี้มาใช้เพราะนอกจากผิดกฎหมายทางด้านจราจรแล้วยังมีความเสี่ยงหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น อาจทำให้ร่างกายได้รับการบาดเจ็บที่รุนแรง  

สำหรับสินค้าในลักษณะนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีการนำมาขายอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการขายผ่านออนไลน์ตามแพล็ตฟอร์มชื่อดังต่าง ๆ โดยผู้ขายจะโฆษณาว่า สินค้าชนิดนี้ใช้ได้กับรถยนต์ทุกยี่ห้อ มีลักษณะเป็นหัวเข็มขัดนิรภัยที่ทำออกมาเลียนแบบหัวเข็มขัดนิรภัยที่ใช้จริงในรถยนต์ มีราคาหลักร้อยต้น ๆ วิธีใช้เพียงแค่เสียบหัวเข็มขัดนิรภัยปลอมนี้เข้ากับที่เสียบเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ก็ทำให้สัญญาณเตือนให้คาดเข็มขัดดับลง และผู้ขับก็ไม่ต้องคาดเข็มขัดในเวลาขับรถ เพราะจะทำให้เกิดความอึดอัด และสามารถขับรถได้สะดวกมากขึ้น 

ทั้งนี้คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาถึงสินค้าประเภทนี้ โดยมีความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน เช่น เรื่องของมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า ซึ่งทางผู้แทนของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม รายงานว่า ในปัจจุบันเข็มขัดนิรภัยมีมาตรฐานอุตสาหกรรมกำกับอยู่แล้ว แต่จะครอบคลุมเข้มขัดนิรภัยทั้งชุด ไม่ได้แยกแค่หัวเสียบออกมาเหมือนที่มีผู้ผลิตแยกออกมาขาย เป็นหัวเข็มขัดปลอมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียงเตือน ดังนั้นสินค้าที่นำมาวางขายจึงไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแล

กลุ่มชาวเขา ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนได้ เนื่องจากไม่มีสถานะทางทะเบียนแม้ว่าบางคนจะเป็นผู้สูงอายุ เกือบ 80 ปี รวมถึงบางคนที่เกิดในประเทศไทยแต่ไม่มีบัตรประชาชน วอน!! ต้องการเข้าถึงวัคซีนป้องกันไวรัส ชี้!! ที่ผ่านแม้แต่วัคซีนไข้เลือดออกก็ไม่เคยได้สิทธิ์ 

หลังจากในจังหวัดเชียงราย ประชาชนส่วนใหญ่ได้ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ทั้งทางแอปพลิเคชันหมอพร้อม หรือลงทะเบียนด้วยตัวเองตามจุดต่างๆ และทำให้ในวันนี้ (7 มิ.ย. 64 ) ได้เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงแล้ว

 แต่ในอีกมุมหนึ่ง พิกัดเดินทางห่างจากตัวเมืองเพียง 1 ชั่วโมง กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่บ้าน ‘เฮโก’ (ชนชาวเขาเผาลีซู) ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่มีประชากรประมาณ 400 คน บ้านเรือน 50 หลังคาเรือน เป็นหมู่บ้านชาวเขาที่มีฐานะยากจน มีอาชีพหลักคือทำเกษตรและหาของป่า อยู่บริเวณเส้นทางผ่าน จากบ้านกิ่วสะไต ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ไปดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย กำลังถูกตกสำรวจจากการฉีดวัคซีน

นายอาหลู งัวยา อายุ 50 ปี ผู้นำชุมชนหมู่บ้านเฮโก กล่าวว่า ในหมู่บ้านมีประชากรประมาณ 400 คน ซึ่งในส่วนนี้มีผู้ที่ไม่มีบัตรประชาชนหรือสถานะทางทะเบียนประมาณร้อยละ 10 หรือประมาณ 40 คน ทว่าในกลุ่มนี้เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาตั้งแต่เกิด แต่มีการตกสำรวจในช่วงแรกๆ ทำให้ไม่ได้มีสิทธิ์หรือสถานะทางทะเบียน รวมไปถึงทายาทที่เกิดตามมา

โดยในกลุ่มนี้มีความต้องการที่จะฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 เช่นกัน เพราะเขาเองก็ต้องเดินทางเข้าไปในชุมชน หรือ ตัวเมือง อ.แม่จัน เพื่อนำผลผลิตไปจำหน่าย หรือไปทำงานรับจ้าง แต่ก็กลัวที่จะติดไวรัสโควิด-19 แต่เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชน ทำให้ไม่ได้สิทธิ์ในการช่วยเหลือจากทางภาครัฐ ทั้งการเยียวยาจากการเสียรายได้ สิทธิ์สวัสดิการต่างๆ แม้กระทั่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ หรือวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า ก็ตาม

"ก่อนหน้านี้ที่มีการระบาดในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ทางหมู่บ้านก็ได้มีการปิดหมู่บ้านไม่ให้มีการเข้า-ออก เพื่อป้องกันคนนอกหมู่บ้านเข้ามาและนำเชื้อไวรัสเข้ามาติดในหมู่บ้าน ซึ่งในขณะนี้การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย ชาวบ้านต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงชีพหลังจากที่ปิดหมู่บ้านมากว่า 1 เดือน แต่ก็ไม่กล้าที่จะออกไปนอกหมู่บ้าน เพราะไม่มีสิทธิ์รับวัคซีนจากภาครัฐ แม้ว่าจะมีข่าวให้เอกชนนำวัคซีนเข้ามาได้ ก็ไม่สามารถหามาฉีดได้ เพราะไม่มีเงินซื้อเอง จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลกลุ่มดังกล่าวด้วย" ผู้นำชุมชนบ้านเฮโก กล่าว

 

ที่มา: ณัฐวัตร ลาพิงค์/เชียงราย


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ธนาธร” เทียบชัด! เปิดข้อมูลโควิดรัฐไทย-ตปท.ต่างกันฟ้ากับเหว มีไฟล์ก็โหลดไม่ได้-วอนรัฐเปิดเผยโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นประชาชน

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะะก้าวหน้า จัดเฟซบุ๊กไลฟ์รายการ “คิดไปข้างหน้ากับธนาธร” ทางเพจ Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิดและการจัดการวัคซีน โดยยกตัวอย่างการจัดการที่น่าสนใจจากต่างประเทศ มานำเสนอให้เห็นทิศทางการจัดการที่เหมาะสม

โดยนายธนาธร ระบุว่าเดือนมิถุนายนนี้เป็นเดือนที่สำคัญ ที่รัฐบาลไทย มีแผนที่จะฉีดวัคซีนในปริมาณมากให้แก่ประชาชน โดยมีเป้าหมายที่จะฉีดในให้ได้ภายในเดือนมิถุนายน 5-6 ล้านโดส หมายความว่าในหนึ่งวันจะต้องฉีดถึง 2 แสนโดสต่อวัน และเดือนต่อๆ ไปอาจจะต้องเพิ่มศักยภาพในการฉีดไปถึง 5 แสนโดสต่อวัน 

ซึ่งหากรัฐบาลทำไม่ได้ตามแผนนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ประเทศไทยจะกลับสู่สภาวะปกติได้ช้าลงไป แต่ละวันที่ผ่านไปคือความเสียหายที่จะเกิดกับประชาชน

***ยกเคส “ดีทรอยท์” เปิดข้อมูลสารพัด เข้าถึงง่าย โหลดได้ทันที มีทุกอย่าง ตั้งแต่จำนวนวัคซีนไปถึงการใช้จ่ายของรัฐ***

โดยนายธนาธรได้ยกตัวอย่างที่น่าสนใจ คือกรณีของเมืองดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่มีประชากร 6 แสนคน พื้นที่ 300 กว่าตารางกิโลเมตร หากเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของเมืองดีทรอยท์ จะเห็นได้ว่าเมื่อเข้ามาถึงจะพบกับกำหนดการฉีดวัคซีนทันที เมื่อเลื่อนลงมาดูก็จะเห็นข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด และข้อมูลข่าวสารที่ประชาชนควรรับรู้เป็นลำดับถัดมา

จากนั้น นายธนาธรได้นำเสนอหน้าเว็บไซต์ของเมืองดีทรอยท์ พร้อมแสดงให้เห็นว่าในเว็บไซต์เพียงเว็ปเดียวนี้ มีข้อมูลทุกเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด ไม่ว่าจะเป็นไทม์ไลน์ ซึ่งสามารถดูย้อนหลังได้, จำนวนเตียงที่มีอยู่และใช้ไปแล้ว ทั้งในโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม ฮอสปิเทล และห้องไอซียู, ผลการตรวจหาเชื้อในประชากร แสดงจำนวนและสัดส่วนระหว่างผลบวกและผลลบ รวมถึงแยกเป็นตามพื้นที่และประเภทการตรวจ

จำนวนผู้ป่วยแยกย่อยถึงระดับรายอำเภอและตำบล, จำนวนผู้ได้รับวัคซีนแล้ว, จำนวนวัคซีนที่ได้รับมาจากรัฐบาลกลาง ลงรายละเอียดไปถึงว่ามีวัคซีนยี่ห้ออะไรในจำนวนเท่าไหร่บ้าง, สถานที่ฉีดวัคซีนทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน มีในจุดใดบ้าง และมีวัคซีนยี่ห้ออะไรให้เลือกบ้าง, และข้อมูลนโยบายที่จูงใจให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน

นอกจากนี้ ในหน้าเว็บไซต์ยังมีการแสดงข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสถานการณ์โควิด ทั้งข้อมูลกิจกรรมที่มีการเบิกจ่าย จำนวนเงินที่มีการเบิกจ่าย ฯลฯ ที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลใช้งบประมาณไปกับอะไรบ้าง เบิกจ่ายให้กับใครไปบ้าง

ซึ่งทั้งหมด ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและสามารถเข้าดูได้ทันทีผ่านออนไลน์ โดยไม่มีการปกปิดหรือขั้นตอนที่ยุ่งยากในการเข้าดู

***เปิดเว็ปรัฐบาลไทยเทียบจะๆ ไร้ฐานข้อมูลเปิดให้ประชาชน ถึงมีปุ่มให้กดแต่ก็โหลดไม่ได้*** 

จากนั้น นายธนาธรได้ลองเข้าเว็บไซต์ของฝั่งไทยเพื่อเปรียบเทียบกัน โดยยกตัวอย่างหน้าเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครฯ ซึ่งแม้จะมีอินโฟกราฟฟิก แต่ก็ไม่มีฐานข้อมูลที่ลึกและตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ ไม่ว่าจะเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนวัคซีนที่ได้รับมา และมีวัคซีนอะไรบ้าง รวมถึงข้อมูลประชากรที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด ซึ่งบนหน้าเว็บไซต์ของกรุงเทพมหานครฯ ล้วนแต่ไม่มีข้อมูลเหล่านี้อยู่เลย

ส่วนบนหน้าเว็บไซต์ data.go.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ฐานข้อมูลกลางของรัฐบาล จะพบว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิดจำนวนหนึ่ง เช่นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวัน ซึ่งสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ แต่ต้องกรอกอีเมล วัตถุประสงค์การใช้งาน และรายละเอียดของการใช้ข้อมูล

ซึ่งทำให้เห็นว่าการจะเข้าไปหาข้อมูลที่มีความสำคัญเช่นนี้ ไม่สะดวกสบายและไม่ง่ายเลยสำหรับประชาชน เมื่อเทียบกับตัวอย่างของเมืองดีทรอยท์ ที่ประชาชนสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ทุกข้อมูลในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งพาวเวอร์พอยท์และเอ็กเซล พร้อมให้ประชาชนเข้าถึงได้ในทันที

ส่วนรายงานข้อมูลด้านอื่นๆ เช่น รายงานข้อมูลโควิดในแต่ละเคส มีการแสดงผลให้ดาวน์โหลดได้ในรูปแบบ API แต่เมื่อกดเข้าไปแล้ว กลับไม่สามารถเข้าถึงหรือดาวน์โหลดได้ ขึ้นแสดงผลบนหน้าจอเป็นเพียงข้อความว่า “ไม่สามารถเปิดหน้าเว็ปนี้ได้ เนื่องจากเซิฟเวอร์หยุดการโต้ตอบ”

***ธนาธรโทรเอง! ต่อ DGA ขอทางเข้าถึงข้อมูลวัคซีน สุดท้ายได้คำตอบ “โหลดไม่ได้เหมือนกัน” ***

จากนั้น นายธนาธร ได้กดโทรศัพท์ไปสอบถามวิธีการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว กับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ซึ่งเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ ซึ่งต้องพบกับข้อความอัตโนมัติให้กดเบอร์ภายในหรือกดเลือกติดต่อกับโอเปอเรเตอร์ โดยนายธนาธรเลือกกดติดต่อโอเปอเรเตอร์เพื่อสอบถามการเข้าถึงข้อมูล เจ้าหน้าที่ได้โยนให้นายธนาธรติดต่อไปที่อีกเบอร์หนึ่งแทน

ซึ่งนายธนาธรได้ติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับมา ซึ่งเป็นส่วนของ DGA Contact Center ก็ต้องพบกับระบบข้อความอัตโนมัติเหมือนเดิม และเมื่อติดต่อกับโอเปอเรเตอร์ได้แล้ว นายธนาธรได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามถึงการเข้าถึงข้อมูลเป็นระยะหนึ่ง ก่อนที่จะได้รับคำตอบว่าข้อมูล API ดังกล่าวไม่สามารถดาวน์โหลดได้ และทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ก็ไม่สามารถช่วยให้นายธนาธรเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน นายธนาธรจะสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะข้อมูลที่มีหน้าแสดงผลขึ้นมาให้ดาวน์โหลดได้เท่านั้น พร้อมแนะนำให้นายธนาธรติดต่อไปขอข้อมูลจากกรมควบคุมโรคโดยตรงแทน

นายธนาธร จึงได้สอบถามกลับไปว่าถ้าไม่ให้ดาวน์โหลดแล้วเหตุใดจึงมีแท็บให้กดดาวน์โหลด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ตอบกลับว่าข้อมูลในส่วนนี้ ตนทราบเพียงว่าทางกรมควบคุมโรคเป็นผู้นำมาลงในเว็บไซต์ แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าเหตุใดจึงไม่อนุญาตให้ดาวน์โหลดได้ และทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลก็ไม่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้เช่นเดียวกัน

***วอนรัฐบาลปรับปรุงการทำงาน เปิดข้อมูลทุกด้าน สร้างความเชื่อมั่นประชาชน จูงใจประชาชนรับวัคซีน***

หลังจากวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว นายธนาธรได้กล่าวต่อไป ว่าจากการค้นหาเพิ่มเติม ตนก็พบว่าความจริงภาครัฐก็มีการเปิดเผยข้อมูลบางส่วนอยู่บ้าง ในเรื่องของการเก็บรักษา การกระจาย และจำนวนสต็อกวัคซีนเช่นกัน เช่น บนเว็บไซต์ของกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

แต่เมื่อลงไปดูในรายละเอียด ก็จะพบได้ว่าฐานข้อมูลที่นำมาแสดงยังน้อยเกินไป ไม่มีการอัพเดทให้เท่าทันสถานการณ์ ไม่มีการเปิดเผยอย่างกว้างขวางให้ประชาชนได้รับรู้ว่ามีฐานข้อมูลนี้ หนำซ้ำข้อมูลบางอย่างก็ไม่ตรงกันเอง บ้างก็ขัดแย้งกันเองด้วย

นายธนาธรกล่าวต่อไป ว่าเรื่องของการเปิดเผยข้อมูลมีความสำคัญอย่างมาก เพราะรัฐบาลที่มีความใส่ใจในประชาชนอย่างแท้จริง ย่อมต้องให้ความสำคัญและมีความพยายามอย่างมากในการเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนเข้าถึงได้ โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับวัคซีน ไม่ว่าจะเรื่องของจำนวนที่มีอยู่ ยี่ห้ออะไรบ้าง ฉีดไปแล้วเท่าไหร่ในแต่ละพื้นที่ เหลือวัคซีนอยู่เท่าไหร่ รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อแยกย่อยเป็นรายพื้นที่

การเปิดเผยข้อมูลเช่นนี้จะทำให้คนมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล และยังทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบาย เข้าถึงข้อมูลได้หมด ซึ่งจะนำไปสู่การชักจูงให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนมากขึ้น เพราะมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล

วัตถุประสงค์ของการฉีดวัคซีน คือการฉีดให้เยอะที่สุดและเร็วที่สุด ที่จะทำให้เกิดการป้องกันการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตของประชาชน ซึ่งจะทำอย่างนี้ได้รัฐบาลต้องให้ข้อมูลกับประชาชนให้มากที่สุด ทำให้ประชาชนไว้ใจรัฐบาลและได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น

“อยากฝากถึงรัฐบาล ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่ผมนำเสนอไม่ได้เกินความสามารถ ใช้แล้วในหลายเมืองทั่วโลก ประเทศไทยก็มีศักยภาพที่จะทำได้ ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจในการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้กับประชาชน ประชาชนจะได้ไม่ต้องมาสับสนกันว่าตกลงตอนนี้วัคซีนรับมาเท่าไหร่แล้ว มีอยู่ในมือเท่าไหร่ จะต้องไปลงทะเบียนที่ไหน ก็หวังว่ารัฐบาลจะมีการปรับปรุงกระบวนการตรงนี้ เพื่อให้ประเทศไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่ได้เร็วที่สุด ประชาชนจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานต่อการยืดเยื้อของสถานการณ์โควิดเช่นนี้” นายธนาธรกล่าวทิ้งท้าย

คุณเบลล์ ณิชาธร ตั้งคุปตานนท์ | THE STUDY TIMES STORY EP.36

บทสัมภาษณ์ คุณเบลล์ ณิชาธร ตั้งคุปตานนท์ นักเรียนหญิงไทยคนแรกที่ได้รับเข้าศึกษาต่อที่ UC  Berkeley M.E.T. Program 
สาวน้อยมหัศจรรย์ นักดนตรีและนักกีฬา ครบเครื่องทั้งเรียนและกิจกรรม

ปัจจุบันคุณเบลล์ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี เรียน EP Program หลักสูตรที่เรียนจะเรียนเหมือนกับระดับวิทยาลัย ซึ่งจะขั้นสูงกว่ามัธยมทั่วไป ซึ่งผลการสอบ EP ก็สามารถนำไปยื่นเทียบวิชาในระดับมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งตอนนี้คุณเบลล์ยื่นเทียบได้ 13 วิชา

ขณะที่เรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี คุณเบลล์ได้ทำกิจกรรมหลายอย่าง อาทิ ตอนเกรด 8 (ม.2) ทำกิจกรรมเป็นสภานักเรียน เกรด 9-10 เป็นประธานนักเรียนหรือประธานรุ่น และในเกรด 12 ซึ่งคือปีนี้ เป็นรองประธานของเครือโรงเรียนมัยธยมนานาชาติ 

นอกจากนี้ในกิจกรรม National Honor Society ของปีนี้ คุณเบลล์เองก็ได้เป็นประธาน สิ่งที่ทำคือ ส่งเสริม 4 ด้าน 1.) ทุนการศึกษา 2.) ความเป็นผู้นำ 3.) การบริการ 4.) การพัฒนาตัวเอง 

ส่วนของชมรมที่เข้าร่วม 1.) นวัตกรรมและการออกแบบ มีการออกแบบเครื่องมือการทำงานโดยใช้  Design Thinking (ความคิดแบบสร้างสรรค์) ในการแก้ปัญหา มีการทำกิจกรรมต่างๆ ระดมทุน เพื่อบริจาคให้กับเด็กที่ด้อยโอกาส 2.) การเงินและการลงทุน สอนเรื่องของการเล่นหุ้น ปกติจะมีไปทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์การลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดจึงไม่ได้ไป
 
ในส่วนของกิจกรรมที่นอกเหนือจากเรื่องการเรียน คุณเบลล์ยังเป็นทีมกัปตัน Soccer และเคยเข้าร่วมกิจกรรมการโต้วาทีภาษาอังกฤษ ได้รับรางวัล รวมทั้งขึ้นเวที TEDx Talks 

เทคนิคการเรียนและการจัดสรรเวลาของคุณเบลล์ อยู่ที่การจัดตารางให้ดี แบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1.) การเรียน 2.) โปรเจคและชมรมในโรงเรียน 3.) โปรเจคและชมรมนอกโรงเรียน 4.) อื่น ๆ เช่น กีฬา ดนตรี 

คุณเบลล์แนะนำแอพที่มีชื่อว่า todoist สำหรับทำ To do list จัดตารางเวลาสิ่งที่ต้องทำ ส่วนในคาบเรียนแนะนำให้จดและเขียนชีทให้มาก ในการติวสอบ ข้อไหนผิดคุณเบลล์จะลิสต์มาและทำใหม่ทั้งหมด พร้อมแนะนำว่า เราควรโฟกัสข้อที่ผิด หรือข้อที่ไม่แน่ใจให้เยอะที่สุด และทำซ้ำๆ ซึ่งการทำซ้ำเป็นสิ่งที่ดีมาก 

ขณะนี้คุณเบลล์ตอบรับเข้าศึกษาต่อ UC Berkeley MET Program ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง MET เป็นโปรแกรม ที่ร่วมกันระหว่างหลักสูตรวิศวกรรม และธุรกิจ และเมื่อจบแล้วจะได้รับปริญญาทั้ง 2 สำหรับคุณเบลล์เน้นเรียนระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลและสายการผลิตเพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจ 

เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกที่นี่ เพราะคุณเบลล์เคยไปเรียนซัมเมอร์ที่ UC Berkeley มาก่อน มีความชื่นชอบ อีกทั้งไม่ชอบเรียนเฉพาะทฤษฎีเพียงอย่างเดียว อยากเรียนโดยการทำกิจกรรม ซึ่ง UC Berkeley MET Program ตอบโจทย์ นอกจากนี้ คุณเบลล์ถือเป็นนักเรียนหญิงคนแรกที่ได้เข้าเรียนใน MET Program

คุณเบลล์คิดว่าโปรแกรมนี้น่าจะทำให้คุณเบลล์มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจ เพื่อในอนาคตจะได้เป็นนักธุรกิจได้ด้านเทคโนโลยีอย่างที่ฝันไว้ แล้วการที่มหาวิทยาลัยนี้อยู่ใกล้กับ Silicon Valley ยิ่งตอบโจทย์ เพราะเป็นโอกาสดีที่จะเรียนรู้เรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยี

สำหรับเทคนิคการเตรียมตัวเพื่อเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยระดับโลกของคุณเบลล์ มองว่า การเข้ามหาวิทยาลัยเหมือนการนำเสนอผลิตภัณฑ์ เราอาจเป็นผลิตภัณฑ์หนึ่ง ต้องนำเสนอให้เห็นถึงคุณค่าและลักษณะเฉพาะ บางครั้งการเก่งทุกเรื่องอาจจะทำให้ดูเหมือนไม่มีโฟกัส สำหรับตัวคุณเบลล์ที่ทำกิจกรรมหลายอย่าง แต่ว่าสุดท้ายแล้วทุกๆ อย่างสามารถไปด้วยกันได้ผ่านการเขียน Essay ให้ชัดเจนว่าแต่ละกิจกรรมมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร นอกจากนี้คะแนนต่างๆ ต้องอยู่ในระดับสูง ส่วนการเขียน Essay ต้องมี personal story ที่จริงใจ ไม่ได้แต่งขึ้นมาเอง

คุณเบลล์เล่นเครื่องดนตรีฮาร์ป โดยมีจุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจมาจาก เมื่อ 5 - 6 ปีที่แล้ว ได้เดินทางไปที่โรสการ์เด้น รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา และได้พบกับนักเล่นดนตรีพิณ รู้สึกว่ามีออร่าออกมาเหมือนนางฟ้า เสียงไพเราะ ทุกอย่างดูดีไปหมด หลังจากกลับมาเมืองไทยจึงได้เริ่มต้นเรียนฮาร์ป และมาเรียนแบบส่วนตัวกับอาจารย์ Tong Juan Wang ซึ่งที่ผ่านมาคุณเบลล์เคยแสดงเดี่ยวฮาร์ปในงานเลี้ยงภายในของบริษัท OMEGA นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลและได้รับคำเชิญไปเล่นที่งานต่างๆ มากมาย 

ถึงแม้ว่าการเล่นฮาร์ปจะได้ไปแสดงหลายที่และได้รับรางวัลมากมาย แต่คุณเบลล์อยากสร้างเรื่องของ Social impact ให้มากขึ้น จึงนึกถึง Harp Therapy การใช้ดนตรีบำบัด ซึ่งจากการทำโครงการในโรงพยาบาลมา มีผลว่า ความเครียดของผู้ป่วยลดลงมากถึง 78%  หลังได้รับฟัง Harp Therapy คุณเบลล์เองดีใจมากที่มีส่วนช่วยทำให้ผู้ป่วยได้รับการฟื้นฟูทางความรู้สึกและสุขภาพจิต

สุดท้ายหากมีน้องๆ คนไหนอยากติดตามหรือสอบถามเรื่องเรียน สามารถติดตามคุณเบลล์ได้ทาง Instagram: @bbellebellexx หรือ อีเมลล์ [email protected] 

.

.

.

.
 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top