‘สมาคมนักบินไทย’ เตรียมยื่นศาลปกครอง 14 มี.ค.นี้ ขอให้คุ้มครองเพิกถอนมติ ‘นักบินต่างชาติบินในประเทศ’

(12 มี.ค. 68) สมาคมนักบินไทยยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง วันที่ 14 มี.ค.นี้ ขอคุ้มครองชั่วคราว เพิกถอนคำสั่งกระทรวงแรงงาน กรณีอนุญาตให้สายการบินใช้นักบินต่างชาติบินในประเทศ

จากกรณีที่ ครม.มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 อนุญาตให้สายการบินทำการจัดหาเครื่องบินแบบ Wet Lease (เช่าเครื่องบินพร้อมนักบิน) เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 1 ปี สิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 (ต่ออายุให้ครั้งละ 6 เดือน เป็นจำนวน 2 ครั้ง) ซึ่งในขณะนี้มีสายการบินไทยเวียตเจ็ท เพียงสายการบินเดียวที่ใช้สิทธินี้ ดังนั้นจะเห็นนักบินต่างชาติ สามารถทำการบินเส้นทางบินในประเทศได้

ล่าสุด กัปตัน ธีรวัจน์ อังคสกุลเกียรติ นายกสมาคมนักบินไทย กล่าวว่า ในวันที่ 14 มีนาคม 2568 นี้ สมาคมนักบินไทย เตรียมจะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพิกถอนคำสั่งประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องการอนุญาตให้นักบินต่างด้าว(นักบินต่างชาติ) สามารถบินในประเทศได้ 

โดยสมาคมนักบินไทยจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง  เพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณี กระทรวงแรงงานและคณะรัฐมนตรี อนุญาตให้นักบินต่างชาติสามารถเข้ามาปฏิบัติการบินในประเทศไทยได้เป็นการชั่วคราว ผ่านแนวทาง การเช่าเครื่องบินพร้อมลูกเรือ (Wet Lease) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักบินไทยที่กำลังว่างงานเป็นจำนวนมาก

ทำไมสมาคมนักบินไทยต้องยื่นฟ้องศาลปกครอง กระทบต่ออาชีพนักบินไทย ปัจจุบันมีนักบินไทยจำนวนมากที่ยังว่างงานและพร้อมปฏิบัติการบิน แต่การเปิดช่องให้นักบินต่างชาติเข้ามาทำงาน อาจเป็นการลดโอกาสในการจ้างงานของนักบินไทย

ขัดต่อกฎหมายแรงงานไทย ตามประกาศกระทรวงแรงงาน งานควบคุมอากาศยานภายในประเทศถือเป็นอาชีพที่สงวนไว้สำหรับคนไทยเท่านั้น ยกเว้นกรณีบินระหว่างประเทศ

กระทบต่อมาตรฐานอุตสาหกรรมการบินไทยในระยะยาว หากปล่อยให้แนวทาง Wet Lease กลายเป็นแนวปฏิบัติปกติ อาจส่งผลให้สายการบินลดการลงทุนในการพัฒนานักบินไทย และกระทบต่อความมั่นคงของอุตสาหกรรมการบินของประเทศ

สมาคมนักบินไทยขอเรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนมาตรการดังกล่าว และให้ความสำคัญกับนักบินไทยเป็นลำดับแรก

พวกเราขอยืนยันว่าจะดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิ์ของนักบินไทยทุกคน และขอแรงสนับสนุนจากสมาชิกและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมการบินให้ร่วมกันแสดงจุดยืนที่สมาคมนักบินไทยยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ขอให้คุ้มครองชั่วคราว กรณีการอนุญาตให้นักบินต่างชาติปฏิบัติการบินภายในประเทศ 

กัปตัน ธีรวัจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับข้อสังเกตเกี่ยวกับความถูกต้องของประกาศฉบับนี้

ข้อสังเกตที่ 1 การออกประกาศนี้ขัดกับหลักเกณฑ์ทางกฎหมายเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ 2 กฎหมายหลัก ได้แก่
พระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 

พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497
ประกาศกระทรวงแรงงาน ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า ห้ามคนต่างด้าวขับขี่เครื่องบินภายในประเทศ ตาม มาตรา 7 ของพระราชกำหนดฯ

อย่างไรก็ตาม มาตรา 14 ของกฎหมายเดียวกันอนุญาตให้มีข้อยกเว้นได้เฉพาะ 3 กรณีเท่านั้น คือ

เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ
เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
เพื่อป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ
กรณีนี้ แม้จะอ้างว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ก็ไม่น่าจะเข้าข่าย “ความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ” ในระดับที่กฎหมายกำหนด จึงไม่ควรสามารถใช้ มาตรา 14 เป็นเหตุผลในการออกข้อยกเว้น

ข้อสังเกตที่ 2: ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
กฎหมาย พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 กำหนดชัดเจนว่า นักบินที่ปฏิบัติหน้าที่ต้องมีสัญชาติไทย โดยอ้างอิงจาก

มาตรา 44 ของพระราชบัญญัติฯ ซึ่งกำหนดว่าผู้ประจำหน้าที่ต้องมีสัญชาติไทย หากจะมีข้อยกเว้น ต้องได้รับการอนุมัติจาก ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ซึ่ง ยังไม่มีการออกประกาศยกเว้นใด ๆ

กรณีนี้ Wet Lease ถือว่านักบินเป็นผู้ประจำหน้าที่ ตามนิยามของพระราชบัญญัติการเดินอากาศ แต่กลับไม่มีการประกาศยกเว้นจาก CAAT ก่อน กระทรวงแรงงานและคณะรัฐมนตรีจึง ไม่มีอำนาจออกประกาศอนุญาตให้คนต่างด้าวปฏิบัติหน้าที่นักบินในประเทศ ถือเป็นการออกประกาศที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทำให้สมาคมนักบินไทย ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ ศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีคำสั่ง คุ้มครองชั่วคราว กรณี กระทรวงแรงงานและคณะรัฐมนตรี อนุญาตให้นักบินต่างชาติสามารถเข้ามาปฏิบัติการบินในประเทศไทยได้เป็นการชั่วคราว ผ่านแนวทาง การเช่าเครื่องบินพร้อมลูกเรือ (Wet Lease) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักบินไทยที่กำลังว่างงานเป็นจำนวนมาก