‘อ.สมภพ พอดี’ โพสต์เฟซ!! อุดมศึกษาใน ‘ไทย-ไต้หวัน-สิงคโปร์’ เศรษฐกิจ รายได้ คุณภาพชีวิต อนาคต ต้องเริ่มจากการสร้างคนที่มีความรู้
(22 ก.พ. 68) ‘อ.สมภพ พอดี’ โพสต์ข้อความระบุว่า …
อุดมศึกษา ในไทย ไต้หวันและสิงคโปร์ และเศรษฐกิจ รายได้ คุณภาพชีวิต อนาคต
ไทย ประเทศขนาดกลาง มีความอุดมสมบูรณ์ มีก๊าซธรรมชาติ มีประชากร 70 ล้านคน ปัจจุบันมีผลผลิตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีต่อคนประมาณ $7,200 ไต้หวัน เกาะเล็ก ๆ ไม่มีทรัพยากรมากมาย ไม่มีนํ้ามัน ไม่มีก๊าซ มีแต่ผู้คน มีประชากร 23.4 ล้านคน ปัจจุบันมีผลผลิตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีต่อคนประมาณ $33,000 หรือมากกว่าไทยประมาณ 5 เท่า
สิงคโปร์ เกาะขนาดจิ๋ว ไม่มีทรัพยากรอะไรเลย นํ้าจืดยังมีไม่พอ ไม่มีนํ้ามัน ไม่มีก๊าซ มีแต่ผู้คน มีประชากร 6 ล้านคน ปัจจุบันมีผลผลิตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีต่อคนประมาณ $85,000 หรือมากกว่าไทยประมาณ 12 เท่า
ปัจจุบัน นักเรียนในทั้ง 3 ประเทศเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย ตามสาขาวิชาด้วยสัดส่วนต่อไปนี้
สิงคโปร์
1. ธุรกิจ การบัญชี การเงิน ประมาณ 26%
2. วิศวกรรม ประมาณ 23%
3. คอมพิวเตอร์และไอที ประมาณ 20% และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. วิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล ประมาณ 14%
5. สังคมศาสตร์ทุกสาขา ไม่รวมกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ประมาณ 10%
ไต้หวัน
1. วิศวกรรม ประมาณ 28%
2. ธุรกิจ การบัญชี การเงิน ประมาณ 22%
3. คอมพิวเตอร์และไอที ประมาณ 20% และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. วิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล ประมาณ 16%
5. สังคมศาสตร์ทุกสาขา ไม่รวมกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ประมาณ 7%
ไทย
1. สังคมศาสตร์ทุกสาขา ไม่รวมกฎหมาย เศรษฐศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ประมาณ 32%
2. ธุรกิจ การบัญชี การเงิน ประมาณ 20%
3. คอมพิวเตอร์และไอที ประมาณ 12% และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
4. วิทยาศาสตร์ด้านสุขภาพ เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล ประมาณ 12%
5. วิศวกรรม ประมาณ 8%
สิงคโปร์
มีนศ.รัฐศาสตร์ปีหนึ่ง เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอย่าง NUS, NTU และ SMU ประมาณ 1,400 คนในแต่ละปี ประมาณ 80% จองนศ.เหล่านี้เป็นคนสิงคโปร์ ดังนั้นจึงมีนศ.สิงคโปร์เข้าเรียน รัฐศาสตร์ ประมาณปีละ 1,100 คน ถ้าสิงคโปร์มีประชากรเท่ากับ ไทย หรือ มากกว่าที่เป็นอยู่ 12 เท่า จะมีนศ.เข้าเรียน รัฐศาสตร์ ประมาณปีละ 13,200 คน
ไต้หวัน
มีนศ.รัฐศาสตร์ปีหนึ่ง เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอย่าง NTU, NCCU, NTNU, TU และอื่น ๆ ประมาณ 2,200 คนในแต่ละปี ถ้าไต้หวันมีประชากรเท่ากับ ไทย หรือ มากกว่าที่เป็นอยู่ 3 เท่า จะมีนศ.เข้าเรียน รัฐศาสตร์ ประมาณปีละ 6,600 คน
ตัวเลขทั้งหมดด้านบนเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน สังคมที่จะพัฒนาไปข้างหน้าทางเศรษฐกิจได้ สร้างรายได้ คุณภาพชีวิตที่ดี อนาคตที่ดีให้ผู้คนได้ จะต้องเริ่มจากการสร้างคนที่มีความรู้ที่นำไปใช้สร้างธุรกิจอุตสาหกรรม ความรู้ที่สร้างผลผลิตทางเศรษฐกิจได้สูง สร้างมูลค่าเพิ่มได้มาก ต้องไม่ปล่อยให้คนไม่มีความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์ หรือประโยชน์น้อย ไม่มีคุณค่าในทางเศรษฐกิจ ตัวเลขโกหกไม่ได้
ไทย
มีนศ.รัฐศาสตร์ปีหนึ่ง เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอย่าง จุฬา, ธรรมศาสตร์, เกษตร, มช., รามคำแหง และอื่นๆ ประมาณกี่คนในแต่ละปีก็ไม่รู้เพราะหาข้อมูลไม่ได้ เอไอสารพัดยี่ห้อก็ไม่รู้ รู้แค่ว่ามากเกินไปมาก มากเกินความจำเป็น เรียนแล้วอาจจะคลั่งอุดมการณ์โง่ๆ อย่างเช่น คนเท่ากัน คอมมี่คือพัฒนาการสูงสุดของประชาธิปไตย ฯ วิกลจริต หรือโง่จนไม่รู้ว่ามนุษย์มีแค่สองเพศคือหญิงกับชาย หรือไม่รู้ว่าไม่มีใครจ้างใครไปทำงานเพราะมีความรู้เรื่องทฤษฎีการเมือง เท่านั้น