หนุ่มวัย 15 ประสบอุบัติเหตุสมองตายได้สร้างบุญกุศลยิ่งใหญ่ หลังครอบครัวตัดสินใจบริจาคอวัยวะส่งมอบชีวิตใหม่ให้ผู้อื่น
หนุ่มวัย 15 ปี ประสบอุบัติเหตุจนสมองตาย ครอบครัวตัดสินใจบริจาคอวัยวะ เพื่อส่งต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วย ที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ ให้กลับมามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
(13 ก.พ. 68) เพจเฟซบุ๊ก 'คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (official)' ได้โพสต์เรื่องราวสุดเศร้า แต่ก็สร้างความประทับใจในเวลาเดียวกัน เมื่อหนุ่มวัย 15 ปี ประสบอุบัติเหตุ แล้วเกิดสมองตาย จึงทำให้ครอบครัวบริจาคอวัยวะ มอบชีวิตใหม่ให้แก่ผู้อื่น นับว่าเป็นกุศลยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย
โดย เพจคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ระบุข้อความว่า รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ สร้างสะพานบุญ ผู้ป่วยภาวะสมองตาย รายที่ 41“ส่งต่อ 'ชีวิตใหม่' ให้ผู้อื่นผ่านการบริจาคอวัยวะ”
คุณรัชชานนท์ พรหมเสน อายุ 15 ปี ประสบอุบัติเหตุทางจราจร เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ทีมแพทย์ของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ให้การรักษาอย่างเต็มความสามารถ แต่อาการของโรคทรุดลงตามลำดับ จนในที่สุดทีมแพทย์วินิจฉัยว่า ผู้ป่วยอยู่ใน 'ภาวะสมองตาย' โดยประกาศการเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ในเวลา 02.40 น.
ทางครอบครัวมีความเห็นร่วมกันว่า มีความประสงค์จะบริจาคอวัยวะทุกส่วนของผู้เสียชีวิต ที่จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์และส่งมอบโอกาสการรอดชีวิตกับผู้ที่รอคอย โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ และสภากาชาดไทย จึงได้ประสานงานร่วมกัน เพื่อส่งต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายอวัยวะ ให้กลับมามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น
การบริจาคอวัยวะในครั้งนี้ สามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ โดยส่งต่ออวัยวะคือ ตับ และ ไต 2 ข้าง
คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่ได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก บุญกุศลอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ขอให้ดวงวิญญาณของ คุณรัชชานนท์ พรหมเสน ไปสู่สุคติและสัมปรายภพที่ดี
ร่วมสร้างความตระหนักรู้ในสังคม เกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะว่า นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในมิติใหม่แล้ว ยังช่วยให้กระบวนการทางการแพทย์ในด้านการปลูกถ่ายอวัยวะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น และลดเวลารอคอยสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการ
การบริจาคอวัยวะผู้ป่วยภาวะสมองตายนั้น เปรียบเสมือน 'พินัยกรรมอวัยวะ' ถึงแม้ว่าผู้เสียชีวิตจะสมัครใจในการบริจาคอวัยวะ หากญาติไม่ให้ความยินยอม ผู้เสียชีวิตย่อมไม่สามารถบริจาคได้ ดังนั้น ครอบครัวและญาติ จึงเป็นแรงกำลังสำคัญที่จะร่วมกันสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่นี้