ส่องระเบิดเวลาลูกใหญ่ ‘MOU - JC 2544’ ชี้!! แรงกว่า ‘พ.ร.บ.ยึดอำนาจกองทัพ’ หลายเท่า

(11 ธ.ค. 67) ยังไม่ทราบว่าการแถลงผลงานในรอบ 3 เดือนของรัฐบาลแพทองธาร...วันที่ 12 ธ.ค.2567 นี้จะมีทีเด็ดทีขาดอย่างไรบ้าง...แต่มองกลางๆ ก็คงเป็นการให้ความหวังกับประชาชน แบบส่งท้ายปีเก่า ก้าวสู่ปีใหม่ที่ดีกว่าเก่าประมาณนั้น..

แต่ในชีวิตจริงทางการเมืองของรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยขณะนี้ อยู่ในภาวการณ์ที่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก...ความวัวไม่ทันหายความควายเข้าแทรก...

กรณี MOU2544 ยังไม่ทันจบ...ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม  ของพรรคเพื่อไทย นำเสนอโดย ‘หัวเขียงสุดซอย’ ประยุทธ ศิริพานิชย์ เจ้าเก่า ก็เข้ามาแทรก แม้จะมีแค่ 9 มาตรา  แต่เนื้อหาเน้นเนื้อริบอำนาจกองทัพ นัยว่าเพื่อต่อต้านรัฐประหาร...ทำเอาการเมืองปั่นป่วน  โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยออกอาการเสียรังวัด...ต้องถอยร่น  เกิดอาการล่มปากซอย..

เสาร์-อาทิตย์ (14-15 พ.ย.)นี้..หัวหน้าพรรคแพทองธาร ชินวัตร ถึงคราวต้องทบทวนยุทธศาสตร์ -ยุทธวิธีของพรรคครั้งใหญ่...โดยเฉพาะเรื่องที่ถกกันให้ขาดก็คือ…การประชันขันแข่งกับพรรคส้มว่าใครเป็นพรรคประชาธิปไตยมากกว่ากันนั้นถ้าพรรคเพื่อไทยกดดันตัวเองมากไป เพื่อไทยจะกลายเป็นพรรคผิดคิว ผิดกาลเทศะไม่สิ้นสุด…

แต่สถานการณ์เรื่องสำคัญและคอขาดบาดตายจริงๆ ของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลชุดนี้..นาทีนี้ไม่มีอะไรใหญ่เกินปมปัญหากรณี...พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนไทย -กัมพูชา ที่เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่  อย่าได้ทำเป็นเรื่องเล็กเรื่องล้อเล่น...ยั่วยุ ท้าทายว่าม็อบสนธิ ม็อบพันธมิตรฯ เป็นม็อบคนแก่ จุดไม่ติด บ้านเมืองอยู่ในบริบทใหม่แล้ว…

พินิจพิเคราะห์จากบริบทต่างๆ ขณะนี้และปรากฏการณ์เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.วันที่สนธิ ลิ้มทองกุล นำคณะไปยื่นหนังสือ 14 หน้าถึงนายกฯ นั้น..กล่าวได้ว่า “ม็อบจุดติด” แล้ว  รอรัฐบาลมาถอดชนวนดับไฟที่รอลุกโชติเท่านั้น...ที่จุดติดสาเหตุหลักจริงๆ ก็เพราะตัวปมปัญหาเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้น  และ ปัจจัยรองก็คือเพราะบรรดาขาเชียร์รัฐบาล ทั้งอดีตผู้นำม็อบแดง,สส.ในปัจจุบัน  ช่วยกันเรียกแขก…

อย่างไรก็ตามเมื่อส่องกล้องดูเอกสารร้องเรียน-เสนอแนะ ต้องชมว่าคณะผู้ร้องทำการบ้านมาดี ข้อมูลแน่น  เสนอทางออกอย่างสร้างสรรค์  ซึ่งหากดูข้อเสนอ 6 ข้อ  ถ้ารัฐบาลทำจริงตามลำดับข้อเสนอ...ม็อบสนธิก็ลงถนนไม่ได้...ไม่มีอะไรต้องกลัว…

ส่องดู6ข้อเสนอของคณะนายสนธิ แบบสรุปๆ ได้ดังนี้
1)นายกฯและครม.ต้องปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะลอาณาเขต  เขตต่อเนื่องและเขตไหล่ทวีปฯ

2)ให้นายกฯเสนอเรื่องต่อครม.เพื่อมีมติส่ง MOU2544 และ JC2544 (แถลงการณ์ร่วมทักษิณ-ฮุนเซ็น) ต่อศาลรธน.เพื่อวินิจฉัยว่าขัดต่อมาตรา 1และมาตรา 224 (รธน.2540),มาตรา 1และ190(รธน.2550)และ มาตรา1 และมาตรา 178 (รธน.2560)หรือไม่

3)หาก ศาลรธน.วินิจฉัยว่า MOU2544,JC 2544 ขัดหรือแย้งให้ยกเลิก MOU2544 และ JC2544 เพื่อปฏิเสธเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา

4)หากศาลรธน.วินิจฉัยฯว่าไม่ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติ รธน. ให้รัฐบาลเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU2544และJC 2544บนพื้นฐานหลักการเส้นมัธยะและกฎหมายเกี่ยวข้องที่ถูกต้อง แล้วนำเสนอผลการเจรจาต่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯ

5)ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (JTC)เอาไว้ก่อน

6)จัดเวทีสาธารณะแก่ประชาชนเรื่อง MOU2544และJC2544

15 วัน นับจากยื่นหนังสือ คณะนายสนธิจะมาทวงสัญญาว่ารัฐบาลได้ดำเนินการหรือมีไทม์ไลน์จะดำเนินการอย่างไร...น่าเชื่อว่าได้อ่าน 14 หน้าขอเรียกร้อง และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาซักถามซักซ้อม  นายกฯแพทองธารน่าจะตาสว่างและพูดเรื่องเกาะกูด เรื่องเส้นไหลทวีป ได้ดีกว่าเดิม และแก้ปัญหาต่างๆ ได้ถูกต้องขึ้น..

สำคัญว่าต้องฟังหลายๆคน อย่าฟังพ่อคนเดียว!!??


เรื่อง : เล็ก เลียบด่วน