ทีม ‘สุพิศ’ เร่งถอดบทเรียนก่อนเดินต่อ ‘นายกฯอบจ. สงขลา’ หลัง ปชป.เสียทีในสนามเลือกตั้ง ‘นายก อบจ.นครศรีฯ’
เป็นที่รับทราบกันแล้วสำหรับผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผลปรากฏน้ำท่วมเมืองนครศรีฯ ‘น้ำ-วาริน ชิณวงศ์’ จากสายสีน้ำเงิน เอาชนะ ‘เจ้ต้อย-กนกพร เดชเดโช’ จากค่ายสีฟ้ากว่า 30000 คะแนน
สรุปนะครับ #ผลนับคะแนนเลือกตั้งนายกฯอบจ.นครศรี
-เบอร์ 2 328,823 (น้ำ)
-เบอร์ 1 294,835 (เจ้ต้อย)
-เบอร์ 4 31,586 (ชัย)
-เบอร์ 3 3,657 (อาญาสิทธิ์)
ต้องยอมรับความจริงว่า เจ้ต้อยถึงแม้จะแพ้การเลือกตั้ง แต่มีคะแนนมากกว่าการเลือกตั้งเมื่อ 20 ธันวาคม 2563 เพราะครั้งนั้น เจ้ต้อยได้มา 260000 กว่าคะแนน เพียงแต่ 300000 กว่าคะแนนที่เพิ่มขึ้นยังไม่อาจต้านกระแสแรงของน้ำได้
ความจริงประการหนึ่งที่ต้องยอมรับในวันที่น้ำเปิดตัว และไปยื่นใบสมัคร ยังมีคนนครศรีฯจำนวนมากถามกันว่า เบอร์ 2 คือใคร น้ำเป็นใคร ในขณะที่เจ้ต้อยคนรู้จักกันทั้งจังหวัด แต่ผ่านไปเพียงสองอาทิตย์คำถามว่า เบอร์ 2 คือใคร เริ่มไม่ได้ยินคำถามนี้ แต่กลับเริ่มมีกระแสเปลี่ยนเลือก 'น้ำเบอร์ 2' เหตุผลสำคัญของกระแสเปลี่ยนมาจากหลากหลายเหตุผล
พิจารณาประเด็นของน้ำก่อน ด้วยบุคลิกของสาวมั่น พูดจาฉะฉาน ปราศรัย หรือให้สัมภาษณ์ไม่ต้องดูโพย อันเป็นการสะท้อนว่า รู้จริง ทำการบ้านมาดี นโยบายที่เน้นไปทางเศรษฐกิจ มันตรงกับสภาวะปัจจุบันของคนไทย เมื่อบวกรวมกับทีมยุทธศาสตร์ผู้ช่ำชองการเลือกตั้ง ทีมสื่อที่ทำสื่อเสนอผ่านโซเชียลอย่างเป็นระบบ ส่งเข้าถึงห้องนอนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกช่วงวัย การปราศรัยของน้ำในช่วงโค้งท้าย ๆ สะท้อนความมั่นใจ ความเชื่อมั่นสูง อันเป็นภาวะผู้นำ
การประกาศเป็นยุทธศาสตร์ของน้ำ “ไม่ซื้อเสียง ไม่มีหัวคะแนน” ถือเป็นการสวนกระแสที่ท้าทายกับภูมิทัศน์การเมืองใหม่ จึงมีคำถามตามมาว่า ไม่ซื้อเสียง ไม่มีหัวคะแนนจะชนะอย่างไร จะเอาคะแนนมาจากไหน
ส่วนเจ้ต้อย ไม่ได้มีข้อด้อยอะไรมาก เพียงแต่โดนหนักประเด็นลาออกแล้วมาสมัครใหม่ ทำให้ต้องเสียงบจัดการเลือกตั้งสองครั้ง 100 กว่าล้าน กับเรื่องการไปเน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน(ถนน)มากไป กับการเป็นบ้านใหญ่ การเมืองครอบครัว
แต่ประเด็นที่เจ้ต้อยโดนหนักไปตกอยู่กับ 'แทน-ชัยชนะ เดชเดโช' สส.นครศรีฯ (ลูกชาย) รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบารมีล้นเมืองคอน การนำพาพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ (ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร) ที่คนใต้ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย การด้อยค่า ม.ทักษิณ รวมถึงประเด็นเนรคุณ ที่มีการหยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันมากในช่วงท้ายของการหาเสียง อันเกิดจากแทนไปพาดพิงถึงสองพี่น้องตระกูลยุติธรรมว่า สอบตกทั้งคู่
ประกอบกับคนไม่เอาประชาธิปัตย์ ไม่ชอบแทน มาร่วมกันรุมช่วยน้ำไม่ว่าจะเป็นเทพไท เสนพงศ์ (คึก) พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล (ปุ้ย) เมื่อบวกรวมกับผู้แพ้ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นอนันต์ ทองอุ่น, อำนวย ยุติธรรม, สนั่น พิบูลย์ เป็นต้น ล้วนสร้างแรงบวกให้น้ำทั้งนั้น เมื่อสื่อโซเชียลมาช่วยเสริมจึงทำให้น้ำเป็นฝ่ายกำชัยในที่สุด
แต่ที่น่าสนใจคือแรงกระเพื่อมหลังจากนี้ ทั้งแรงกระเพื่อมในจังหวัด และแรงกระเพื่อมไปยังจังหวัดข้างเคียง แรงกระเพื่อมในจังหวัดต้องรอดูการเลือกตั้ง สส.ในสมัยหน้า เพราะการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ประชาชนได้สอนบทเรียนให้ประชาธิปัตย์อย่างเจ็บปวดแล้ว จะแลนด์สไลด์ไปถึงเลือก สส.ด้วยหรือไม่
มีการกล่าวถึงนครโมเดล จะมีการเปรียบเทียบไปถึงสงขลา จะเอานครโมเดลไปใช้ที่สงขลาได้หรือไม่ สงขลาแน่ชัดแล้วว่า ไพเจน มากสุวรรณ์ นายกฯอบจ.คนปัจจุบัน อำลาเวที ‘สุพิศ พิทักษ์ธรรม’ อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ลาออกจากราชการเปิดตัวลงชิงนายกฯอบจ.สงขลา ภายใต้การสนับสนุนของ ‘นายกฯชาย เดชอิศม์ ขาวทอง’ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รมช.สาธารณสุข และนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ด้วยเห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจของสุพิศที่อาสาเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เมืองสงขลา ด้วยความพร้อมทั้งครอบครัว และธุรกิจ ประสบการณ์
ส่วนคู่แข่งของสุพิศ ที่ชัดเจนแล้ว มีเพียง ‘นิรันดร์ จินดานาค’ จากพรรคประชาชน ในทางการเมืองสำหรับสงขลาแล้ว นิรันดร์ ยังไม่เท่าไหร่ อยู่ที่การสร้างนโยบาย สร้างกระแส และทีมงานพรรคประชาชนว่าจะช่วยได้แค่ไหน ส่วนคนอื่นๆยังไม่ชัดว่าจะมีใครลงแข่งบ้าง ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคอื่นก็ยังไม่เห็นขยับชัด
การจะเอานครโมเดลมาใช้กับสงขลาจึงน่าจะยังยากอยู่ เพราะผู้สนับสนุนหลักของสุพิศ ไม่ได้มีส่วนได้เสียกับการแพ้-ชนะ ไม่ใช่คนในครอบครัวเดียวกับ การที่จะมีใครสักคนลุกขึ้นมาประกาศเป็นยุทธศาสตร์ 'ไม่ซื้อเสียง-ไม่มีหัวแนน' ตามนครโมเดล สำหรับสงขลาคงจะยาก เว้นเสียแต่ว่า พรรคภูมิใจไทย ไปเฟ้นหาคนใหม่ ใส ๆ มาแบบน้ำ และหาทีมบริหารดี ๆ เข้ามา สร้างนโยบายที่โดดเด่น แตกต่าง
วันนี้สำหรับขั้วประชาธิปัตย์ ที่หันไปสนับสนุนสุพิศ คงต้องนำบทเรียนจากนครศรีฯมาทบทวน และหาข้อสรุป เพื่อกำหนดเป็นแนวทาง ถึงจะเห็น 'ชัย' ของ 'สุพิศ' เงินไม่ใช่ตัวกำหนดชัยชนะ
เรื่อง : นายหัวไทร