ตามส่องอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซีย จากงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ‘Army-2024’
สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน อันเนื่องมาจากความพยายามของยูเครนต้องการเป็นสมาชิกขององค์การ NATO ซึ่งรัสเซียถือว่าเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ และได้แจ้งเตือนยูเครนแล้วหลายครั้งหลายหน แต่ยูเครนเพิกเฉยและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเข้าเป็นสมาชิกขององค์การ NATO ให้ได้ ดังนั้นรัสเซียจึงเปิดฉากโจมตียูเครนเพื่อไม่ให้สิ่งที่รัสเซียเห็นว่าเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศตนเกิดขึ้นได้
แม้ว่า รัสเซียจะมีกำลังทหารตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายชนิดที่ยูเครนไม่สามารถเทียบได้ แต่สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้กลายเป็นสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนซึ่งเป็นตัวแทนโดยพฤตินัยขององค์การ NATO (Proxy war) ไปแล้ว ด้วยยูเครนได้รับการสนับสนุนทางการเงิน ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ จากองค์การ NATO มากมาย ชนิดที่เรียกว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ในคลังสำรองของหลาย ๆ ประเทศสมาชิก NATO แทบจะเกลี้ยงคลังเลยทีเดียว เช่นเดียวกับเงินสนับสนุนจนกระทั่ง Donald Trump ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึงกับประกาศว่า เขาจะไม่สนับสนุนทางการเงินแก่ยูเครนต่อไป ถ้าหากเขาชนะการเลือกตั้ง
เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุสำคัญที่รัสเซียยังไม่สามารถพิชิตยูเครนได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่การที่รัสเซียยังคงปฏิบัติการรบในยูเครนต่อไปได้ทั้ง ๆ ที่ยูเครนได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และทรัพยากรต่าง ๆ จำนวนมหาศาลจากหลาย ๆ ชาติสมาชิก NATO ขณะที่รัสเซียเองก็ยังถูกคว่ำบาตรโดยสหรัฐฯ และพันธมิตร ด้วยเพราะรัสเซียมี ‘ศักย์สงคราม’ ที่มีความแข็งแกร่ง นับต่อเนื่องมาตั้งแต่ครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2
'ศักย์สงคราม' ได้แก่ขีดความสามารถที่จะผลิตกำลังรบเพิ่ม ผลิตอำนาจการรบเพิ่ม โดยองค์ประกอบของศักย์สงครามอาจแบ่งออกเป็น 4 องค์ประกอบ คือ 1) กำลังอำนาจทางเศรษฐกิจ 2) กำลังอำนาจทางการเมือง 3) ขวัญและกำลังใจเมื่อเกิดการสู้รบขึ้น และ 4) การสนับสนุนจากพันธมิตร
นอกจากองค์ประกอบที่กล่าวมาแล้ว ยังรายละเอียดของเงื่อนไขปัจจัยดังนี้ (1) ขนาด ที่ตั้ง และลักษณะของประเทศ (2) จำนวน อายุ ลักษณะประชากร ขีดความสามารถทางแรงงานและขวัญของพลเมือง (3) จำนวนและชนิดของอาหารและวัตถุดิบ จำนวนสำรองของวัตถุดิบรวมทั้งขีดความสามารถที่จะนำเข้ามาทั้งยามสงบและยามสงคราม (4) ขีดความสามารถทางอุตสาหกรรม (5) ขีดความสามารถในด้าน Logistics (6) ทรัพยากรด้านวัตถุและกำลังคนในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ (7) คุณภาพของผู้นำและผู้บริหารของชาติรวมทั้งขีดความสามารถในการระดมสรรพกำลังด้วย
ศักย์สงครามของรัสเซียนั้น นอกจากสงครามกับยูเครนแล้ว ยังบ่งบอกด้วยขีดความสามารถของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศอีกด้วย โดยรัสเซียเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่เป็นอันดับสามของโลก (รองจากสหรัฐฯ อันดับหนึ่ง และฝรั่งเศสอันดับสอง) คิดเป็น 11% ของยอดขายอาวุธทั่วโลกในปี 2019-23 (ฐานข้อมูลการขนย้ายอาวุธของ SIPRI มีนาคม 2024) โดยบริษัทผลิตและส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของรัสเซียล้วนแล้วแต่เป็นรัฐวิสาหกิจ อาทิ Rosoboronexport, Almaz-Antey และ United Shipbuilding Corporation ซึ่งเป็นบริษัทหลักที่ถือครองส่วนแบ่งอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซีย ซึ่งมีประเทศผู้นำเข้าอาวุธจากรัสเซียสามอันดับแรกคือ อินเดีย (34%) จีน (21%) และอียิปต์ (7.5%)
การส่งออกอาวุธของรัสเซียลดลง 53% ตั้งแต่ปี 2014-18 ถึงปี 2019-23 สาเหตุหลักของการลดลงอย่างรวดเร็วนี้คือสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน โดย Rosoboronexport (บริษัทลูกของ Rostec State Corporation) เป็นวิสาหกิจทำหน้าที่ตัวกลางที่ควบคุมโดยรัฐเพียงแห่งเดียวของรัสเซียในการส่งออกและนําเข้าผลิตภัณฑ์อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมด รวมทั้งเทคโนโลยีและการบริการ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการดําเนินนโยบายระดับชาติของสหพันธรัฐรัสเซียในด้านความร่วมมือทางเทคนิคทางทหารกับต่างประเทศ สถานะอย่างเป็นทางการของผู้ส่งออกพิเศษที่ควบคุมโดยรัฐแต่เพียงผู้เดียวทําให้ Rosoboronexport มีโอกาสพิเศษในการขยายความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกันในระยะยาวกับพันธมิตรระหว่างประเทศ ในการเสริมสร้างความเป็นผู้นําของรัสเซียในตลาดอาวุธของโลก
โดยกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่ง Rosoboronexport ให้การสนับสนุนเป็นการดําเนินโครงการขนาดใหญ่ที่มุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงขีดความสามารถในการป้องกันของประเทศคู่ค้า และมีส่วนร่วมในการพัฒนาเชิงนวัตกรรมที่ครอบคลุมขององค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ของรัสเซีย การดําเนินงานของ Rosoboronexport อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดย ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย รัฐบาลแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย สำนักงานบริการความร่วมมือทางทหาร หน่วยงานเทคนิคของรัฐบาลกลาง Rostec State Corporation และดําเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศและบทบัญญัติของกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อผูกพันระหว่างประเทศในด้านการควบคุมการส่งออกอาวุธที่สหพันธรัฐรัสเซียยอมรับ และจำหน่ายเฉพาะหน่วยงานป้องกันประเทศและการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้องและเป็นทางการของประเทศคู่ค้าเท่านั้นจึงจะสามารถเป็นผู้ซื้อปลายทางของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ Rosoboronexport จัดจำหน่าย
ปี 2024 นี้ สหพันธรัฐรัสเซียได้จัดงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ‘Army-2024’ ระหว่างวันที่ 12-14 สิงหาคม 2024 ณ Patriot Expo (Moscow Region), ฐานทัพอากาศ Kubinka และ สนามฝึกทางทหาร Alabino แม้งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ดังกล่าวจะใช้คำว่า ‘Army-2024’ แต่เป็นการแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกมิติทั้ง บก-เรือ-อากาศ โดยสำนักข่าว THE STATES TIMES เป็นสื่อไทยรายเดียวที่ได้รับเชิญให้ไปร่วมชมงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ‘Army-2024’ ในครั้งนี้ ซึ่ง ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล จะได้นำเสนอข้อมูลข่าวสารของงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ‘Army-2024’ ตลอดจนเรื่องราวของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซียให้กับท่านผู้อ่านทาง THE STATES TIMES ต่อไป
เรื่อง: ดร.ปุณกฤษ ลลิตธนมงคล