'พีระพันธุ์' ขานรับ 'ก.เกษตร' เร่งช่วยชาวสวนปาล์มสุราษฎร์ฯ แก้ปัญหาราคาตกต่ำ พร้อมหนุนไฟฟ้าระบบโซลาร์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่เกษตรกร

‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ ลงพื้นที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี รับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ พร้อมเร่งแนวทางผลิตน้ำมันระบบไพโรไลซิสจากขยะพลาสติกและเศษถ้วยยางพาราเพื่อช่วยลดมลภาวะและช่วยเกษตรกร รวมทั้งเร่งการสนับสนุนไฟฟ้าระบบโซลาร์เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้เกษตรกรและประชาชนอย่างยั่งยืน

เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำจากชาวสวนปาล์มและโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ หรือ CPO ณ บริษัท ปาล์มทองคำ จำกัด อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีครั้งนี้ เพื่อพบพูดคุยปัญหากับชาวสวนปาล์มที่ประสบปัญหาราคาปาล์มตกต่ำโดยตรง พบว่าปัจจุบันปัญหาลดน้อยลงแล้วและลานเทก็รับซื้อทะลายปาล์มจากชาวสวนยางในราคาสูงขึ้น แต่ปัญหาคืออยากให้กรมการค้าภายในประกาศราคารับซื้อทะลายปาล์มในราคาสูงขึ้น เพราะราคาปุ๋ยกับค่าใช้จ่ายอื่นไม่ลดลง ส่วนปัญหาของโรงหีบหรือโรงสกัดคืออยากให้วางระบบการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบของโรงงานไบโอดีเซลให้มีความเป็นธรรมกับลานเทและโรงสกัดมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีกฎหมายกำกับดูแลลานเทและโรงสกัดแต่กลับไม่มีกฎหมายกำกับดูแลโรงงานไบโอดีเซลในการซื้อน้ำมันปาล์มดิบ CPO และการขายน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ รวมทั้งน้ำมัน B100 ที่นำมาผสมน้ำมันดีเซล ซึ่งนายพีระพันธุ์รับว่าจะนำไปพิจารณา ทั้งนี้ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพลังงาน ทำงานร่วมกันเพื่อเร่งหามาตรการแก้ไขและช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนปาล์มอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงพลังงาน แม้ว่าจะไม่ใช่กระทรวงหลักที่ดูแลปัญหาดังกล่าว ทว่า ก่อนหน้านี้ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้ขอให้กระทรวงพลังงานช่วยดำเนินการให้ผู้ค้าน้ำมัน เช่น ปตท. และ บางจาก รับซื้อน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ B100 จากโรงงานผลิตไบโอดีเซลที่นำมาใช้ผสมน้ำมันดีเซล ในราคาประมาณ 33-35 ต่อกิโลกรัม ตามที่สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ประกาศไว้ เนื่องจากมองว่าจะทำให้การรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบหรือ CPO จากโรงหีบหรือโรงสกัดในราคาสูงขึ้นได้ จากนั้นโรงหีบหรือโรงสกัดก็จะไปซื้อผลปาล์มจากลานเทในราคาสูงขึ้น และจะทำให้ลานเทสามารถขยับราคารับซื้อผลปาล์มจากชาวสวนปาล์มสูงขึ้นด้วยตามลำดับ 

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะบังคับผู้ค้าน้ำมันให้รับซื้อน้ำมัน B100 ในราคาใดราคาหนึ่ง ต่างจากกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนั้นโรงงานผลิตไบโอดีเซลเป็นขั้นตอนที่อยู่ห่างจากการซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรที่ลานเทมาก จึงขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันที่จะซื้อน้ำมัน B100 จากโรงงานไบโอดีเซลต้องทำความตกลงกับโรงสกัดและลานเทว่าจะรับซื้อทะลายปาล์มจากชาวสวนปาล์มในราคาสูงขึ้นด้วยเสียก่อน ขณะเดียวกัน จะผลักดันการนำน้ำมันปาล์มดิบ CPO ขยะพลาสติก และเศษถ้วยยางไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตน้ำมันระบบไพโรไลซิสในชุมชนเพื่อช่วยลดมลภาวะและช่วยลดภาระด้านน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกษตรกร

“ก่อนหน้านี้ เคยให้ความเห็นไว้ว่า หากต้องการจะช่วยเหลือชาวสวนปาล์มจริง ๆ แล้ว ควรให้กระทรวงพาณิชย์กำกับให้ลานเทรับซื้อผลปาล์มในราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศตามกฎหมายมากกว่า เพราะปัญหาในปัจจุบันคือ ลานเทส่วนมากไม่รับซื้อผลปาล์มในราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ ในขณะที่โรงหีบหรือโรงสกัดส่วนใหญ่กลับเป็นผู้รับซื้อผลปาล์มจากลานเทตามราคาที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ ปัญหาอีกอย่างคือเรายังไม่มีการขึ้นทะเบียนลานเทว่า มีจำนวนเท่าใด ขนาดใด ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อมาดูกระบวนการรับซื้อปาล์มของลานเทในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หนึ่งในจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุดของประเทศ จากนั้นจะนำไปสู่การบูรณาการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวสวนปาล์มอย่างยั่งยืนต่อไป”

นอกจากนี้ นายพีระพันธุ์ ยังได้รับฟังเสียงจากชาวสุราษฎร์ธานี ที่ต้องการให้ช่วยส่งเสริมไฟฟ้าจากแสงแดดหรือระบบโซลาร์เซลล์ ซึ่งนายพีระพันธุ์แจ้งให้ทราบว่าปัจจุบันกระทรวงพลังงานกำลังเตรียมการที่จะสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรและชาวบ้านในการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในเรื่องนโยบายและงบประมาณ แต่ในระยะยาวต้องทำกฎหมายการส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นการเฉพาะเพื่อลดขั้นตอนการขออนุญาตและกำหนดมาตรการสนับสนุนอย่างยั่งยืนด้วย ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้เจรจากับกระทรวงการคลังที่จะให้ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์รูฟ มาหักภาษีเงินได้ คาดว่าจะสามารถนำเข้าที่ประชุม ครม. ได้ในเร็วๆ นี้