‘ทุน ม.ท.ศ.’ ทุนการศึกษาพระราชทาน จาก ‘ในหลวง ร.10’ มอบโอกาสให้เด็กเรียนดี แต่ไร้ทุนทรัพย์ ให้เปล่าไม่ต้องคืน

เมื่อไม่นานมานี้ เพจเฟซบุ๊ก ‘สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 กรมประชาสัมพันธ์’ ได้โพสต์คลิปเกี่ยวกับทุนการศึกษาพระราชทาน หรือ ‘ทุน ม.ท.ศ.’ ของ ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ’ ที่พระองค์ทรงพระราชทานด้วยทรัพย์ส่วนพระองค์เองนั้น ในการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศมาแล้วกว่า 15 รุ่น รวมกว่า 2,411 ราย โดยระบุว่า…

ทุนการศึกษา ‘ทุน ม.ท.ศ.’ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดําริให้ดําเนินโครงการทุนการศึกษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี 2552 และในปี 2553 ได้มีการจัดตั้งเป็นมูลนิธิทุนพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นการเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่เรียนดี มีความประพฤติดี แต่ขาดโอกาสทางการศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ปวช. ปวส. ทั้งบุคคลธรรมดา และก็สามเณร

อย่างไรก็ตาม มีนักเรียนทุนรายหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันเป็นคุณครูอยู่ที่จังหวัดสกลนคร ซึ่งคุณครูรายนี้ได้เล่าให้ฟังว่าตอนนั้นตนอยู่ ม.3 ได้มีการเตรียมผลงานเพื่อที่จะเสนอขอทุน นั่นก็คือเรื่องของผลการเรียน ความประพฤติที่ดี และก็กิจกรรมต่าง ๆ ที่เคยได้ทํามา เพื่อส่งไปยังสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ตนเรียนอยู่ แล้วก็มีการคัดเลือกในระดับจังหวัดที่มุกดาหาร เมื่อปี 2553 ได้รับ 2 ทุนด้วยกัน ก็คือนักเรียนชาย 1 คน นักเรียนหญิง 1 คน และหนึ่งในนั้นก็คือตนนั้นเอง

ส่วนเงินที่พระองค์ได้ทรงพระราชทานให้กับนักเรียนทุน ก็เป็นจํานวนมากทีเดียว อย่างระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คุณครูก็เล่าว่าได้ 18,000 บาทต่อปี ขณะที่ตอนเรียนระดับปริญญาตรีอุดมศึกษา ค่าเทอมไม่ต้องจ่ายสักบาท กองทุนจะเป็นคนจ่ายให้ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายรายเดือนให้เดือนละ 5,000 บาท อีกทั้งยังมีค่าหอแยกต่างหาก และค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักศึกษาอีกด้วย

ทั้งนี้ นักเรียนนักศึกษาทุนพระราชทาน หากรักษาสภาพการเป็นนักเรียนนักศึกษาทุนพระราชทาน หรือว่า ทุน ม.ท.ศ. นี้ได้จนจบการศึกษาครบตามเงื่อนไขของทุน ก็ไม่ต้องไปจ่ายเงินคืนให้กับกองทุนแม้แต่บาทเดียว เป็น ‘ทุนให้เปล่า’…

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนนักศึกษาทุนพระราชทาน ม.ท.ศ. ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ มีมากกว่า 15 รุ่น และก็มีที่เรียนจบปริญญาตรีไปแล้ว 8 รุ่นด้วยกัน ซึ่งร้อยละ 80 ของนักศึกษาทุนมีงานทําแล้ว ทั้งเป็นข้าราชการ และทํางานในภาคเอกชน ส่วนร้อยละ 65 กลับไปทํางานที่บ้านเกิด