‘อรรถกร’ เผย 'บิ๊กป้อม' กำชับลุยงาน ‘รมช.เกษตร’ ให้เต็มที่สมที่ไว้วางใจ พร้อมอวยผลงาน ‘ธรรมนัส’ 7 เดือนชิ้นโบแดงทำกดดัน แต่พร้อมลุย

(2 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อ เวลา 08.20 น. เป็นไปอย่างคึกคัก หลังรัฐมนตรีใหม่ได้ทยอยเข้ามาที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อตรวจคัดกรองเชื้อโควิด (RT PCR) ที่ห้องเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่วันที่ 3 พ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีใหม่เข้าถวายสัตย์ฯ ในเวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน อาทิ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว. สาธารณสุข, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

โดยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้เป็นการเตรียมตัวทำงาน และดีใจที่ได้รับมอบหมาย ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร และตั้งแต่วันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่งชื่อ และทราบว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี ก็ได้มีการคิดล่วงหน้าและเตรียมความพร้อม ว่าเมื่อเรามีโอกาสได้เข้ามาทำงานในฐานะรัฐมนตรีช่วย ก็จะทำให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตามเมื่อได้มอบหมายให้รับผิดชอบมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งถือเป็นกระทรวงใหญ่ เป็นกระทรวงที่ดูแลเกษตรกรที่มีจำนวนมากในประเทศไทย ยอมรับว่าก็อาจจะรู้สึกกดดันบ้าง อีกทั้งตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำงานไว้ผลงานระดับชิ้นโบแดง แม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณบ้าง แต่ดัชนีชี้วัดต่าง ๆ ก็เป็นเชิงบวกอย่างที่ทุกคนเห็นอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชารัฐ ได้ดูกระทรวงเกษตรทั้งหมด จะส่งผลอย่างไร? นายอรรถกร กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรตนไม่ทราบ แต่เบื้องต้นเท่าที่ได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งไม่ได้มีปัญหาอะไรกันอยู่แล้ว ตนเองตั้งใจที่จะทำงานเพื่อแบ่งเบาภารกิจของท่าน และพร้อมสนับสนุนในทุก ๆ เรื่องที่จะสามารถแบ่งเบาได้ และในฐานะคนรุ่นใหม่ ก็จะทำตามนโยบาย รมว.เกษตร ที่ได้วางนโยบายไว้ คือการใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ และใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไปทำงาน ดังนั้นการสื่อสารถือเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเกษตรกรที่สูงอายุ โดยเฉพาะเมื่อโลกเปลี่ยนไป หากเราใช้รูปแบบเดิม ๆ ผลลัพธ์อาจจะเป็นแบบเดิมหรือน้อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนื่องจากทุกอย่างเปลี่ยนไป โดยเฉพาะภูมิอากาศซึ่งส่งกระทบกับผลผลิต จึงจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งกระทรวงเกษตรก็มีหลายหน่วยงาน และนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถจะเข้าไปช่วยตรงนี้ได้"

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเข้ามาทำงานตรงนี้ พล.อ.ประวิตรได้ฝากฝังอะไรหรือไม่? นายอรรถกร กล่าวว่า "ท่านบอกว่าอย่าให้เสียชื่อ ท่านมอบความไว้วางใจแล้ว ท่านให้โอกาสแล้วก็ต้องทำให้เต็มที่ครับ"

นายอรรถกร กล่าวว่า หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรีขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายงาน แต่ที่ตนตั้งใจไว้คือ ต้องการแบ่งเบาภารกิจของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ได้มากที่สุด 

ส่วนสาเหตุที่ได้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีได้อย่างไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางพรรคพลังประชารัฐก็เสนอรายชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีหลายคนเพื่อให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ? นายอรรถกร กล่าวว่า "เท่าที่ทราบตามข่าว พล.อ.ประวิตร และพรรคพลังประชารัฐ ส่งรายชื่อไป 3-4 รายชื่อ หลังจากนั้นก็ขึ้นกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรุณาเลือกตนเข้ามาทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรี เพื่อมาทำงานร่วมกับร.อ.ธรรมนัส และเชื่อว่าตัวเอง และ ร.อ.ธรรมนัส จะทำงานร่วมกันได้อย่างดี เพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป โดยเป้าหมายส่วนตัว จะผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่ท่านนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส ได้มอบไว้ให้และจะทำให้บรรลุในทุกข้อ"

ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่นายกรัฐมนตรีเลือกเข้ามาเพราะมีภาพคนรุ่นใหม่เป็นองค์ประกอบร่วมด้วยใช่หรือไม่? นายอรรถกร กล่าวว่า "ตนตอบแทนนายกรัฐมนตรีไม่ได้ แต่ในเมื่อมีโอกาสมาทำงานตรงนี้ สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มีโอกาสเข้ามาทำงาน และทราบมาว่า ครม.ชุดนี้ มีคนรุ่นใหม่หลายคนเข้ามา ก็เชื่อว่าจะร่วมมือกันทำงานมิติใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น"

เมื่อถามว่าแต่งตั้งนายอรรถกรแล้ว ยังมีแรงกระเพื่อมในพรรคพลังประชารัฐอยู่หรือไม่? นายอรรถกร กล่าวว่า "ต้องขอบคุณพี่น้องเพื่อนในพรรคพลังประชารัฐ หลังจากมีข่าวตนได้รับการโปรดเกล้าฯ ก็มีคนเข้ามาแสดงความยินดี และตนจะตั้งใจทำงานในฐานะที่เป็นตัวแทนของพรรค และคนฉะเชิงเทราที่มีโอกาสเข้ามาทำงานฝ่ายบริหาร และให้สมกับที่นายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจ"