รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ประชุมตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี

วันนี้ (23 ก.พ.67) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อาชญากรรมและยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ตามสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมี พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 , พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี , นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดกาญจนบุรี เข้าประชุม ณ ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี โดยในที่ประชุมได้มีการหารือร่วมกันในการบูรณาการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดทุกรูปแบบ โดยเฉพาะที่เป็นปัญหาในจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ การลอบนำเข้าสิ่งของผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน , ปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM 2.5 และปัญหาหนี้นอกระบบ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฯ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยหลายปัญหาสำคัญในจังหวัดกาญจนบุรี วันนี้จึงมาติดตามการแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปสู่การยกระดับการแก้ปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรม ให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่โปร่งใส และเป็นต้นแบบในการขจัดปัญหาต่างๆ โดยจะนำข้อสรุปไปรายงานกับนายกรัฐมนตรีด้วย สำหรับปัญหาการลักลอบขนยางพาราข้ามแดน มอบให้ศุลกากรเป็นเจ้าภาพ ต้องตรวจสอบความถูกต้องตามกฎหมายก่อนที่จะปล่อยหรือไม่ปล่อยรถบรรทุกยางพาราออกมา ส่วนเรื่องยางเถื่อน ทุกหน่วยงานต้องเข้มงวดกวดขันปรามปรามจับกุมอย่างจริงจัง เพื่อลดผลกระทบกับเกษตรกร หากพบเจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์ ก็จะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด 

ส่วนเรื่องปัญหาไฟป่า และฝุ่น pm2.5 แนะนำว่าอาจจะยึดโมเดลการแก้ปัญหาฝุ่นในกรุงเทพมหานครมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มในมาตรการต่างๆ เช่น การเพิ่มความเข้มในการบังคับใช้กฎหมายตรวจควันดำยานพาหนะ เป็นต้น ส่วนเรื่องไฟป่าเข้าใจว่าการดับไฟหรือควบคุมจุดความร้อนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือและช่วยกัน พร้อมขอให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีกำหนดมาตรการต่อเนื่องให้ชัดเจนเป็นรูปธรรม 

สำหรับปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งกาญจนบุรีเป็นอันดับที่ 13 ของประเทศที่มีลูกหนี้มาลงทะเบียนมากสุด ฝากให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การทวงหนี้หรือทำร้ายลูกหนี้ การขูดรีดจากการคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ต้องไม่ไปเกี่ยวข้องหรือไปรับผลประโยชน์ ควบคู่กับฝ่ายปกครองทำข้อมูลการไกล่เกลี่ย 

ด้านผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (22 ก.พ.67) ตนได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี และรับภารกิจมา ในวันนี้ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันอย่างเต็มกำลังมากขึ้น พร้อมกำหนดแนวทางการปฏิบัติ เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจค้นที่ด่านทองผาภูมิ ให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นของผิดกฎหมายทุกประเภท ส่วนพื้นที่ตอนในเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ มีการรายงานและติดตามสถานการณ์ผ่านกลุ่มไลน์ที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะ โดยจะมีนายกรัฐมนตรีอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ให้รายงานทุกประเด็นทั้งของเถื่อน อบายมุขในพื้นที่ ไฟป่าPM2.5 และหนี้นอกระบบ

หลังการประชุม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ฯ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน ณ ด่านสามแยกทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จว.กาญจนบุรี เพื่อรับฟังปัญหา พร้อมกำชับข้อปฏิบัติและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย