‘ญี่ปุ่น’ พบน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี 5.5 ตัน รั่วไหลจาก ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ’

(9 ก.พ. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่นเปิดเผยการพบน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีรั่วไหลจากอุปกรณ์ภายในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ปริมาณรวม 5.5 ตัน

รายงานข่าวดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจากโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ คอมปานี (TEPCO) ระบุว่าคนงานพบน้ำรั่วไหลออกจากอุปกรณ์ที่ใช้กรองน้ำปนเปื้อนนิวเคลียร์ระหว่างตรวจสอบอุปกรณ์ ตอนราว 08.53 น. ของวันพุธ (7 ก.พ. 67) ตามเวลาท้องถิ่น 

TEPCO เป็นผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้า โดยประเมินว่าน้ำที่รั่วไหลมีปริมาณ 5.5 ตัน น้ำปนเปื้อนอาจมีสารกัมมันตรังสี เช่น ซีเซียมและสตรอนเชียม อยู่ราว 2.2 หมื่นล้านเบ็กเคอเรล

ทั้งนี้น้ำที่รั่วไหลออกมาทั้งหมดได้แทรกซึมลงสู่พื้นดิน แต่ขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของระดับกัมมันตรังสีในช่องทางระบายน้ำใกล้เคียง ส่วนเทปโกได้ปิดพื้นที่ที่น้ำรั่วไหลเป็นพื้นที่ห้ามเข้าแล้ว

อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ เคยเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 9.0 ตามมาตราแมกนิจูด และสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2011 ประสบเหตุแกนหลักหลอมละลายและปล่อยกัมมันตรังสีออกมาจนถือเป็นอุบัติเหตุนิวเคลียร์ ระดับ 7 ซึ่งสูงสุดในมาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์ (INES)

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะได้ผลิตน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีปริมาณมหาศาลจากการหล่อเย็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในอาคารเตาปฏิกรณ์ ซึ่งปัจจุบันถูกกักเก็บอยู่ในถังที่โรงไฟฟ้าฯ

ญี่ปุ่นเริ่มต้นปล่อยน้ำเสียจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 แม้มีกระแสคัดค้านต่อเนื่องมากมายจากรัฐบาลและชุมชนต่าง ๆ หน่วยงานสิ่งแวดล้อม เอ็นจีโอ และกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ประเทศเพื่อนบ้าน และภูมิภาคแปซิฟิก


ที่มา: Xinhua / Xinhua Thai