'ทรัมป์' ทวงบัลลังก์สู้ศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ใต้นโยบายที่สุ่มเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้พูดคุยกับ อ.พงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับประเทศ ที่พูดคุยในรายการ Easy Econ ซึ่งออกอากาศทางสถานีวิทยุ ส.ทร. FM93.0 MHz และสื่อออนไลน์ ในเครือ THE STATES TIMES ในประเด็น 'การกลับมาทวงบัลลังก์สู้ศึกเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ของ ทรัมป์' เมื่อวันที่ 19 พ.ย.66 โดย อ.พงษ์ภาณุ กล่าวว่า...

ประธานาธิบดีไบเดนกำลังจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค (APEC Summit) ที่เมือง San Francisco เร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือเป็นเวทีหารือด้านเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญที่สุดของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก 

ประเทศไทยในฐานะสมาชิกก่อตั้ง ก็จะมีนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เข้าร่วมประชุม ที่สำคัญ APEC Summit จะเป็นโอกาสสำคัญที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง แห่งจีน จะมีโอกาสพบกับประธานาธิบดีไบเดน เป็นครั้งแรกในรอบปี เพื่อเคลียร์ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์โลกที่อาจเป็นชนวนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้

การประชุมสุดยอดเอเปคครั้งนี้มีขึ้นในระหว่างการเริ่มต้นกระบวนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 ขณะนี้มีการคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีไบเดน และหากการเลือกตั้งมีขึ้นในวันนี้ โพลล่าสุดของ New York Time ก็ชี้ว่าทรัมป์มีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้งได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งหนึ่ง

ในสมัยแรกที่เป็นประธานาธิบดี ทรัมป์ขึ้นชื่อว่าเป็นประธานาธิบดีที่กีดกันการค้ามากที่สุดคนหนึ่ง โดยใช้ภาษีนำเข้า (Import Tariff) และเงินดอลลาร์เป็นอาวุธในการจัดการประเทศที่เป็นศัตรูทางการเมืองและเศรษฐกิจ จนทำให้อัตราภาษีนำเข้าโดยเฉลี่ยของสหรัฐฯ สูงขึ้นกว่าเท่าตัว โดยเฉพาะสินค้าจากจีนที่ต้องเสียภาษีสูงถึงกว่า 20% ส่วนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ข้อเสนอหลักของทรัมป์คือ การเก็บภาษีนำเข้า 10% across the board จากสินค้าทุกชนิดของทุกประเทศที่นำเข้าไปยังสหรัฐฯ

น่าจะเป็นการเข้าใจผิดของทีมงานทรัมป์ที่เชื่อว่าการใช้ภาษีขาเข้าจะเป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจทุกอย่างที่สหรัฐฯ ประสบอยู่ได้ สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าต่อเนื่องทุกปีเป็นเวลากว่า 50 ปี เนื่องจากมีการใช้จ่ายเกินตัว แต่สหรัฐฯ ก็ยังคงความเป็น Superpower แต่เพียงผู้เดียวของโลกอยู่ได้ เพราะสหรัฐฯ ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตยและการค้าเสรี ในทางตรงข้าม นโยบายของทรัมป์ดูเหมือนจะสวนทางกับหลักการนี้ และจะก่อเกิดผลเสียอย่างร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลกและสหรัฐฯ เอง