‘ปานปรีย์’ เผย!! ถกขึ้นเงินเดือน ขรก. แนวโน้มดี ชี้!! ต้องเน้น ขรก.แรกเข้า หวั่น!! เทใจไปเอกชน
(10 พ.ย. 66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เป็นประธานการประชุมหารือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เรื่องการปรับเงินเดือนข้าราชการ ร่วมกับตัวแทนกระทรวงการคลัง เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงบประมาณเข้าร่วมประชุม
ต่อมาเวลา 13.35 น. นายปานปรีย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. ไปศึกษาและดูแนวทางที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ โดยการประชุมครั้งนี้ตนมาสังเกตการณ์ ในฐานะกำกับดูแล ก.พ. จึงมาฟังความคิดเห็นที่ทางหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายหารือกัน ซึ่งทิศทางออกมาดี ส่วนรายละเอียดต้องทำเพิ่มเติม คาดว่าก่อนสิ้นเดือน พ.ย. เสร็จแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีข่าวว่าจะขึ้นเงินเดือนเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อย ส่วนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จะขึ้นน้อยมาก มีหลักการและแนวทางอย่างไร นายปานปรีย์ กล่าวว่า ต้องดู เพราะมีในส่วนข้าราชการแรกเข้า ที่จะต้องปรับฐานเงินเดือน เพื่อให้คนที่เข้ามาใหม่มีความสนใจที่จะเข้ามาสู่ระบบราชการมากขึ้น เพราะถ้าฐานเงินเดือนต่ำเราอาจจะได้คนที่ไม่มีคุณภาพ และคนที่จะเข้ามารับราชการอาจจะตัดสินใจเลี้ยวไปภาคเอกชน การประชุมครั้งนี้ต้องมาดูด้วยว่าเงินเดือนเอกชน ที่จบปริญญาตรี จะเริ่มต้นจากตรงไหน และดูความเหมาะสมในส่วนของราชการว่าควรจะเป็นเท่าไหร่
เมื่อถามว่า ควรจะต้องปรับเป็นจำนวน 25,000 บาท ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ยังไม่ใช่ ต้องดูรายละเอียดอีกอย่าเพิ่งสรุปว่าจะเป็นเท่าไหร่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้าราชการชั้นผู้น้อยที่บรรจุตั้งแต่ระดับ 3-7 ที่ไม่ใช่ระดับผู้บริหาร จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า การหารือยังไปไม่ถึงตรงนั้น ตอนนี้กำลังดูในส่วนของข้าราชการแรกเข้าก่อน เมื่อถามย้ำว่าการขึ้นจะเป็นการขึ้นทั้งระบบ ใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า ขอให้รอฟังก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการรับฟังข้อมูลครั้งนี้ โอกาสที่จะขึ้นเงินเดือน มีสูงหรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า “เป็นไปตามนโยบาย”
เมื่อถามย้ำว่า ถึงอย่างไรก็ต้องขึ้นใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวย้ำว่า “เป็นไปตามนโยบาย จะขึ้นมากหรือขึ้นน้อย ก็ค่อยว่ากัน”