‘เมเจอร์’ รุกตลาดขนมขบเคี้ยว เสิร์ฟแบรนด์ ‘POPCORN’ ส่งขาย 7-11 พร้อมดึง ‘Three Man Down’ เป็นพรีเซ็นเตอร์ หวังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

(2 ต.ค.66) นายวิศรุต พูลวรลักษณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของธุรกิจป๊อปคอร์น ในแบรนด์ ‘POPCORN MAJOR’ โดยวางจำหน่ายใน Modern Trade ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากถึง 14,000 สาขา

โดยการวางจำหน่ายป๊อปคอร์นผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งได้พัฒนาจากป๊อปคอร์นโรงหนังซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ที่มีเอกลักษณ์ความอร่อยไม่เหมือนใคร ในรูปแบบซองสูญญากาศที่เก็บรสชาติความหอม กรอบ อร่อยได้ทุกที่ทุกเวลา มีให้เลือก 3 รสชาติ ได้แก่ รสชีส, รสคลาสสิก และรสข้าวโพดปิ้ง ซึ่งมาในรูปแบบซองสีสันสดใสขนาด 35 กรัม จำหน่ายราคาซองละ 28 บาท โดยได้เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ‘POPCORN MAJOR’ ในร้านสะดวกซื้อครั้งนี้ ถือเป็นการรุกตลาดขนมขบเคี้ยว (สแน็ค) อย่างเต็มตัว โดยเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์วงป๊อปร็อกรุ่นใหม่ ‘Three Man Down’ ตัวแทนที่จะมาถ่ายทอดความอร่อยโพด ๆ ของ ‘POPCORN MAJOR’ ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า Gen Z อายุ 10-25 ปี มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ มีแผนที่จะขยายช่องทางการขาย ‘POPCORN MAJOR’ ไปยังช่องทางอื่น ๆ ให้เลือกซื้อได้ที่หลากหลายมากขึ้น ได้แก่ โมเดิร์น เทรด อาทิ โลตัส, บิ๊กซี, วิลล่า มาร์เก็ท, กูร์เมต์ มาร์เก็ต, โฮม เฟรช มาร์ท, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์ มาร์เก็ต เป็นต้น

“ซึ่งการนำป๊อปคอร์นโรงหนังเข้าสู่ตลาดขนมขบเคี้ยว (สแน็ค) จะช่วยขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่ชอบกินป๊อปคอร์น เพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจป๊อปคอร์น และยังเป็นการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ‘POPCORN MAJOR’ ให้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้นอกจากแตกไลน์สินค้าสู่สแน็ค บริษัทมีแผนที่จะเดินหน้าเปิดคีออสเพิ่มอีกกว่า 40 สาขา และดีลิเวอรี่ยังคงเดินลุยขายต่อเนื่อง” นายวิศรุต กล่าว

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาเครื่องดื่มและป๊อปคอร์นทำเงินให้เมเจอร์ฯ ราว 2,000 ล้านบาท ซึ่งในปี 2566 ตั้งเป้าโตแตะ 2,400 ล้านบาท