'ไทด์' นำทีมร่วมกตัญญู ฝ่าเส้นทางวิบาก 4 ชม. ขึ้นดอยสบเมย เพื่อช่วยเหลือชาวเขา ที่ถูกน้ำป่าซัด ตัดเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน

(14 ก.ย. 66) นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นายโบ๊ท วิบูลย์นันท์ รองหัวหน้าอาสาสมัคร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำรถออฟโรด ลำเลียงเครื่องอุปโภค-บริโภค และผ้าห่ม กว่า 200 ชุด เดินทางจากสำนักงานใหญ่มูลนิธิร่วมกตัญญู จังหวัดสมุทรปราการ พากันลุยขึ้นดอยไปที่ โรงเรียนบ้านแม่ตอละ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน  เมื่อวานนี้ (13 ก.ย.)

เพื่อนำเครื่องอุปโภค-บริโภค และผ้าห่มไป มอบแจกจ่ายให้กับชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงโป ในชุมชนบ้านแม่ตอละ และโรงเรียนบ้านแม่ตอละรวมกว่า 140 ชุด แต่กว่าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงที่ชุมชนแห่งนี้ ซึ่งอยู่บนดอยสูงของแม่ฮ่องสอน ทำให้การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก บางจุดถึงออฟโรดของเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญู ถึงกับลื่นดินโคลนจนตกร่องถนน

ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดเส้นทาง การเดินทางใช้ระยะเวลาราว 4 ชั่วโมงกับระยะทางเพียงแค่ 70 กิโลเมตร จากตัวอำเภอสบเมย ซึ่งการเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กๆ ในพื้นที่ของมูลนิธิร่วมกตัญญูครั้งนี้ สร้างความดีใจต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก

นอกจากจะมอบถุงยังชีพ ผ้าห่มแล้ว คุณไทด์ เอกพันธ์ ยังควักเงินสดส่วนตัว มอบค่าขนมให้กับเด็กๆ คนละ 100 บาท จำนวน 77 คน คุณครูจำนวน 11 คน คนละ 500 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากนั้นระหว่างทาง ทางคณะยังแวะไปยังโรงเรียนเลโคะ มอบเงินให้กับเด็กๆ จำนวน 59 คน พร้อมกับขนม จากนั้นเข้าไปมอบถุงยังชีพให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ค่าย ตชด 337 จำนวน 30 ชุด

ครูทราย หนึ่งในคุณครูของโรงเรียนแห่งนี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอบคุณสำหรับมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เห็นถึงความเดือดร้อนของเด็กๆ และชาวเขาในชุมชนและเดินทางมาช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะได้กำลังใจจากคนต่างถิ่นแล้ว สิ่งของที่ได้รับมอบในครั้งนี้จะสามารถทำให้นักเรียน และชาวเขากะเหรี่ยงนี้มีข้าวสารอาหารแห้งไว้บริโภคในครอบครัวได้อีกหลายวัน

ด้าน นายเอกพันธ์และนายโบ๊ท กล่าวว่า หลังจากที่ชุมชนและโรงเรียนแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากวาตภัยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อีกทั้งในพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบจากพายุฝนตกต่อเนื่อง จนทำให้การเดินทางเข้าออกของหมู่บ้านถูกตัดขาด ถนนสายหลักที่จะเข้าออกชุมชนแห่งนี้ถูกน้ำกัดเซาะ และมีดินสไลด์ขวางเส้นทาง

บางจุดถนนเละจนรถธรรมดาไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ ต้องใช้รถโฟรวีลหรือรถออฟโรดยกสูงเท่านั้น ทำให้ชาวเขาจำนวนมากทั้งคนแก่และเด็กนักเรียนขาดแคลนอาหารในการดำรงชีพ จึงร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้ามา ทางประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู

โดย ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง คุณสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผู้จัดการมูลนิธิร่วมกตัญญู คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ได้สั่งแพคถุงยังชีพและระดมทีมกู้ภัยออฟโรดของอาสาสมัครและมูลนิธิร่วมกตัญญู ลำเลียงสิ่งของขึ้นมาช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้

ถึงแม้ว่าการเดินทางจะมหาโหดตลอดเส้นทางขึ้นเขานั้น แต่พอมาถึงได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ และคนในชุมชน พวกเราก็หายเหนื่อยและรู้สึกดีใจที่เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งชุมชนและโรงเรียนแห่งนี้ พอเข้ามสัมผัสแล้วจะยิ่งน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก

นอกจากจะอยู่ในถิ่นธุระกันดารแล้ว ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ มีเพียงแผงโซล่าเซลไม่กี่แผง ซึ่งก็ไม่เพียงพอต่อการผลิตไฟ ทำให้เด็กๆ ยังขาดสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยอีกมาก จึงฝากเป็นสะพานบุญไปยังทุกภาคส่วน ที่อยากเข้ามาช่วยเหลือ ลองนึกถึงโรงเรียนแห่งนี้