‘สว.มะกัน’ เล่นเกมแรง ยื่นญัตติถอดถอน ‘โจ ไบเดน’ ขยี้ปมคอร์รัปชันผ่านลูกชาย แม้ไร้ผล แต่เชื่อแต้มหด

พอใกล้เข้าสู่บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เกมการเมืองยิ่งเพิ่มระดับความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดวันนี้ ‘เควิน แมคคาร์ธีย์’ วุฒิสมาชิกจากพรรคฝ่ายค้าน รีพับลิกัน ได้ยื่นประเด็นกล่าวหา ‘โจ ไบเดน’ ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต ว่าพัวพันการทุจริต คอร์รัปชัน รับสินบนจากบริษัทข้ามชาติ เพื่อนำไปสู่การพิจารณาถอดถอน โจ ไบเดน พ้นจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ

โดยวุฒิสมาชิก แมคคาร์ธีย์ อ้างว่าต้องการเปิดโปงรูปแบบ ‘วัฒนธรรมการคอร์รัปชัน’ ของครอบครัวไบเดน ที่มีมานานตั้งแต่เมื่อโจ ไบเดน ยังดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในสมัย ‘บารัค โอบามา’ ซึ่งข้อกล่าวหาส่วนใหญ่ที่หยิบยกมาล้วนเกี่ยวพันกับธุรกิจครอบครัวไบเดน โดยเฉพาะ ‘ฮันเตอร์ ไบเดน’ บุตรชายของ โจ ไบเดน ที่ใช้ชื่อเสียงของพ่อเป็นใบเบิกทางสู่ผลประโยชน์ด้านธุรกิจของตนเองหลายล้านเหรียญในช่วงหลายปีที่ผ่านมา 

สื่อต่างชาติได้รวบรวมประเด็นที่ฝ่ายรีพับลิกันหยิบยกขึ้นมากล่าวหาโจ ไบเดน และครอบครัวไว้ดังนี้ 

1.) โจ ไบเดน ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อผลประโยชน์ให้ลูกชาย - ฮันเตอร์ ไบเดน ตั้งแต่สมัยเป็นรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ประเด็นนี้ ‘เจมส์ โคเมอร์’ สมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐเคนทัคกี เคยตั้งข้อสงสัยเรื่องการพบปะสังสรรค์ของโจ ไบเดน กับกลุ่มทุนผู้มีอิทธิพลทางการเมืองในยุโรปตะวันออกจำนวนมากในช่วงที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อกรุยทางให้ลูกชายและ หนึ่งในบริษัทที่ถูกตั้งข้อสงสัยคือ Burisma บริษัทกลุ่มทุนพลังงานยักษ์ใหญ่ของยูเครนที่ ฮันเตอร์ ไบเดน ได้เข้าไปนั่งในตำแหน่งบอร์ดผู้บริหาร และได้รับค่าตอบแทนสูงว่า 10 ล้านเหรียญต่อปี และนำไปสู่ข้อกล่าวหาต่อมาคือ

2.) โจ ไบเดน และ บุตรชาย รับเงินสินบนจากกลุ่มทุนต่างชาติ 

โดยพรรคฝ่ายค้านเคยยื่นหลักฐานว่า ‘มิโคลา สโลเชฟสกี’ อดีตผู้บริหารระดับสูงของ Burisma เคยจ่ายเงินให้กับทั้ง โจ และ ฮันเตอร์ ไบเดน กว่า 5 ล้านเหรียญ แต่ต่อมาเขากลับคำให้การว่าไม่รู้ ไม่เห็นการจ่ายเงินดังกล่าว และนอกเหนือจาก Burisma แล้ว ยังมีข้อกล่าวหาอีกด้วยว่าครอบครัวไบเดนเคยรับเงินจากแหล่งทุนอิทธิพลต่างชาติ ทั้งจีน รัสเซีย คาซัคสถาน และโรมาเนีย กว่า 20 ล้านเหรียญมาแล้ว แต่โจ ไบเดน ได้ออกมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา 

3.) โจ ไบเดน จงใจปกปิดธุรกิจของลูกชาย ที่อาจพัวพันกับการรับเงินสินบน และฟอกเงินไปต่างประเทศ 

ซึ่งพบหลักฐานการโอนเงินราว 1.4 แสนเหรียญ จากนายทุนชาวคาซัคสถานไปเข้าบัญชีบริษัทเปลือกหอย (บริษัทที่จดทะเบียนแต่ในนาม ในต่างประเทศที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี) ของ ฮันเตอร์ ไบเดน ที่ถูกนำไปซื้อรถหรูส่วนตัวในเวลาต่อมา รวมถึงความเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจของครอบครัวไบเดน กับกลุ่มนายทุนใหญ่รัสเซีย และยูเครน 

4.) ครอบครัวไบเดนได้รับ ‘การดูแลเป็นพิเศษ’ เหนือนักการเมืองคนอื่นจากเจ้าหน้าที่รัฐ

โดยพรรครีพับลิกัน ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อกล่าวหาครอบครัวไบเดนไปพัวพัน มักไม่ค่อยถูกยกขึ้นมาเป็นคดี หรือถ้าถึงขั้นเป็นคดีความขึ้นศาล ก็มักถูกตัดจบลงอย่างง่ายดายเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ที่อาจบ่งชี้ว่า โจ ไบเดน ใช้อำนาจในตำแหน่งกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้เหมือนกัน

เมื่อรวบรวมประเด็นได้ตามนี้ ฝ่ายรีพับลิกันจึงเล่นเกมแรง ยื่นประเด็นถอดถอน โจ ไบเดน จากตำแหน่งด้วยข้อหาคอร์รัปชัน ใช้อำนาจ หน้าที่ เอื้อผลประโยชน์ให้ธุรกิจครอบครัว และรับสินบน แม้ข้อกล่าวหาส่วนใหญ่จะเคยถูกพิจารณา และตีตกไปแล้วเพราะ ‘หลักฐานไม่เพียงพอ’

แต่ทั้งนี้ ฝ่ายรีพับลิกันเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าการเสนอญัตติในการถอดถอนโจ ไบเดน ว่าจะสามารถทำให้ไบเดน หลุดจากตำแหน่งได้ แต่ทำเพื่อหวังผลในการสร้างกระแสการรับรู้ต่อสาธารณชน คนอเมริกันทั่วไป จากการอภิปรายรายละเอียดข้อกล่าวหาจากทีมรีพับลิกัน และการนำเสนอหลักฐานผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง

เนื่องจาก โจ ไบเดน ประกาศลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ต่ออีกสมัยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปี 2024 ซึ่งการจิกไม่ปล่อย และทำให้คดีอยู่ในกระแสเรื่อยๆ ย่อมมีผลต่อคะแนนความนิยมของไบเดนได้เช่นกัน

ดังเช่น โพลสำรวจความเห็นชาวอเมริกันล่าสุด พบว่า 42% ของกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าโจ ไบเดน มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกชายจริง และเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายด้วย 18% คิดว่า โจ ไบเดน ทำผิดจริยธรรมทางการเมือง ในขณะที่ 38% ยังมั่นใจในความบริสุทธิ์ของโจ ไบเดน

เชื่อว่าหลังจากนี้ การขุดหลักฐานโจมตีผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐจากทั้ง 2 พรรค จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง โจ ไบเดน นอกจากจะมีชนักติดหลังเรื่องข่าวอื้อฉาวของลูกชาย ฮันเตอร์ ไบเดน แล้ว ยังมีประเด็นเรื่องสุขภาพ ที่มักโดนโจมตีเสมอว่า เขายังจะฟิตในตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ต่อในสมัยที่ 2 อีกหรือไม่ แม้เขาจะยืนยันหนักแน่นว่ายังไหวในวัย 80 ปีก็ตาม

เรื่อง : ยีนส์ อรุณรัตน์


อ้างอิง : BBC / ABC News