ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย มิจฉาชีพใช้ภาพหญิงสาวหน้าตาดีประกาศโฆษณา ผ่านเพจเฟซบุ๊กหลอกลวงให้เหยื่อโอนเงิน พบผู้เสียหายแล้วหลายราย

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบการกระทำความผิดในสื่อสังคมออนไลน์พบเพจเฟซบุ๊กจำนวนหลายเพจ มีการนำเสนอภาพและคลิปวิดีโอของหญิงสาวหน้าดี หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งถูกมิจฉาชีพนำมาตัดต่อประกอบกับโพสต์ข้อความในลักษณะเชิญชวนบุคคลทั่วไปให้มาใช้บริการทางเพศออนไลน์ เช่นใช้คำโฆษณาว่า “ แหล่งรวมสาวสวย เราจัดให้แล้วมีทั้ง PR นักศึกษา ชุดคอสเพลย์ หรือแหล่งรวมสาว ม.ปลาย - มหาลัย ความสุขที่ไม่ต้องเดินทาง จัดส่งให้ถึงที่ไม่ว่าใกล้หรือไกล ” เป็นต้น โดยเมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในเพจดังกล่าวแม้จะมีผู้ติดตามอยู่จำนวนมาก แต่จะมีผู้จัดการดูแลเพจอยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้เมื่อมีผู้หลงเชื่อติดต่อส่งข้อความ หรืออินบ็อก (Inbox) ไปยังเพจในลักษณะดังกล่าว ก็จะถูกมิจฉาชีพออกอุบายหลอกลวงให้โอนเงินไปยังบัญชีที่เตรียมไว้ เมื่อโอนเงินเรียบร้อยจะถูกบล็อคบัญชีทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ แล้วไปหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆ ต่อไป

การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน “ ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตา 343, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบาง ส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใดฯ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1), 16 และโฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสารสิ่งพิมพ์ หรือกระทำให้แพร่หลายด้วยวิธีใดไปยังสาธารณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องหรือการติดต่อเพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี มาตรา 7 ” หรือฐานความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

บช.สอท. โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินด้วยวิธีการหรือกลโกงต่างๆ

โฆษก บช.สอท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ประชาชนอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเพจหรือเว็บไซต์ในลักษณะดังกล่าวอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากท่านจะเสี่ยงถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินสูญเสียทรัพย์สินแล้ว ท่านยังมีอาจจะมีความผิดในส่วนของผู้ที่มีส่วนส่งเสริม หรือเกี่ยวข้องกับการค้าบริการทางเพศ โดยผู้ใช้บริการทางเพศโดยหลักแล้วไม่มีความผิดแต่อย่างใด เว้นแต่จะใช้บริการทางเพศจากอายุเกิน 15 แต่ไม่ถึง 18 ปี ในสถานการค้าประเวณี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี – 3 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 60,000 บาท ถ้าใช้บริการทางเพศจากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ต้องรับโทษหนักขึ้นอีก คือ จำคุกตั้งแต่ 2 – 6 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 – 200,000 บาท กรณีนี้ แม้ผู้ให้บริการทางเพศจะยินยอมก็มีความผิดตามกฎหมาย